“อสมท” วิ่งสู้ฟัดอัดงบ 3 พันล้านบาท พลิกฟื้น “โมเดิร์นไนน์” ปรับผังรายการ ชูกลยุทธ์ผลิตเองมากขึ้น ทดแทน “เวิร์คพ้อยท์” ถอนตัวและผันตัวมาเป็นคู่แข่งแทน
กำลังเป็นโจทย์ใหญ่สำหรับ ทีวีช่องเดิม อย่าง MCOT ที่ต้องรับมือกับสมรภูมิการแข่งขันของทีวีที่กำลังเปลี่ยนไป จากคู่แข่งที่เข้ามาถึง 24 ราย รวมทั้งผู้ผลิตรายการรายใหญ่ อย่างเวิร์คพ้อยท์ ที่เคยผลิต 2 รายการคือ “ชิงช้าสวรรค์” และ “คุณพระช่วย” ถอนรายการออกไป หันไปทำช่องทีวีดิจิทัลของตัวเอง
ผลจากการเปลี่ยนแปลงนี้เอง ส่งผลให้เรทติ้งของ MCOT เวลานี้ หล่นไปอยู่อันดับ 6 โดยมีช่องทีวีดิจิทัลหน้าใหม่อย่าง เวิร์คพ้อยท์ ช่อง 8 และไทยรัฐแซงหน้าไปแล้ว
จากผลสำรวจของ “นีลสัน” ล่าสุดเมื่อสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ปี 2558 เรตติ้งช่อง “โมเดิร์นไนน์” ตกไปอยู่อันดับที่ 6 เป็นรองเวิร์คพ้อยท์, ช่อง8 และไทยรัฐทีวี ขณะที่ ช่อง 7 เป็นอันดับที่หนึ่ง และช่อง 3 เป็นอันดับที่สองต่อเนื่อง
ศิวะพร ชมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) บอกว่า ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ อสมท อยู่ในช่วงวิกฤติและอ่อนแอที่สุด เป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยเจอ จากการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับอุตสาหกรรมทีวี ส่งผลให้คู่แข่งเพิ่มขึ้น จากเดิมที่มีรายได้ส่วนใหญ่จากสัมปทาน จะต้องหารายได้เองมากขึ้น ขณะเดียวกันยังเป็นปีที่มีการลงทุนค่อนข้างมาก รวมถึงเป็นช่วงเวลาที่กำลังรอกรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ด้วย ล้วนแต่ส่งผลต่อกำลังใจของพนักงานที่สำคัญเป็นปีที่มีรายได้ค่อนข้างลดลง
อสมท จึงต้องพลิกฟื้นครั้งใหญ่ ภายใต้การดำเนินงาน 5 แนวทาง 1. ปรับทัศนคติในการทำงานและสร้างกำลังใจแก่พนักงาน 2. ปรับกลยุทธ์การทำงานให้เข้ากับสถานการณ์ 3. ปรับผังรายการให้แข่งขันได้ 4. เพิ่มช่องทางหารายได้ใหม่ๆ ทดแทน และ 5. ใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ปีนี้ อสมท จะงบการลงทุนรวมมากกว่า 3 พันล้านบาท สูงสุดตั้งแต่ดำเนินการมา แบ่งเป็นเครื่องมืออุปกรณ์ 2.7 พันล้านบาท และค่าผลิตคอนเทนต์ 500 ล้านบาท
ส่วนรายการใหม่ที่ผลิตขึ้นแทน “ชิงช้าสวรรค์” และ “คุณพระช่วย” คือ “งานวัดเฟสติวัล” โดยนโยบายจะหันมาผลิตรายการเองและจ้างผลิตมากขึ้น จากเดิม 54% มาเป็น 60% และอีก 40% เป็นเช่าเวลา ซึ่งเวลานี้มีผู้สนใจนำเสนอรายการใหม่เข้ามาอีกไม่ต่ำกว่า 10 รายการ เช่น วันท้าดวง, บริษัท ฮาไม่จำกัด, แท็กซี่มหาเศรษฐี และคลื่นแทรกผี
ส่วนรายการแม่เหล็กเดิมอยู่ครบ เช่น กบนอกกะลา, วู้ดดี้เกิดมาคุย เป็นต้น ส่งผลให้สัดส่วนรายการสารบันเทิงเพิ่มเป็น 50% จากปีก่อนอยู่ที่ 40%
การนำเสนอผังรายการใหม่ครั้งนี้เชื่อว่าจะทำให้รายได้จากโฆษณาเดิมอยู่ที่ 60% ของพื้นที่ทั้งหมดที่ลงโฆษณาได้ จะเพิ่มเป็น 80% ในปีนี้
โดยได้มีการปรับลดราคาโฆษณา 5-10% แต่ยังมั่นใจว่าถึงสิ้นปียังมีรายได้ถึง 3 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 20% ส่งผลให้รายได้รวม อสมท ปีนี้อยู่ที่ 5 พันล้านบาท โดยมั่นใจว่าช่อง 9 จะกลับมามีเรตติ้งเป็นอันดับ 3 ของกลุ่มทีวีทั้งหมด จากปัจจุบันที่สลับขึ้นลงกับช่อง “เวิร์คพ้อยท์ทีวี”