ท่ามกลางข่าวฉาว “คิตตี้รีสอร์ต” ที่อ.ภูเรือ จังหวัดเลย ซึ่งล่าสุดทางสำนักข่าวอาซาฮี รายงานว่า บริษัทซานริโอ เจ้าของลิขสิทธิ์ในประเทศญี่ปุ่น กำลังดำเนินการทางกฎหมายกับรีสอร์ทแห่งนี้ เพราะสถานที่ใช้ตัวการ์ตูนยอดนิยม “คิตตี้” เป็นจุดขายนั้นมีเพียงไม่กี่แห่งในโลก และทุกแห่งล้วนจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์เป็นมูลค่ามหาศาล
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีสวนสนุกต้นตำรับที่บริษัทซานริโอ้ เจ้าของลิขสิทธิ์ “คิตตี้” ดำเนินการอยู่ 2 แห่ง คือ Sanrio Puroland ที่เมืองทามะ ชานกรุงโตเกียว และ Harmonyland ที่เมืองโออิตะ เกาะคิวชู
ทั้งสองแห่งนอกจากจะมีแมวเหมียวคิตตี้คอยต้อนรับแล้ว นักท่องเที่ยวยังจะได้พบกับตัวการ์ตูนอื่นๆในครอบครัวซานริโอ้มากมาย
Sanrio Puroland ได้มีโปรโมชั่นพิเศษลดราคาบัตรเข้าชม ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2014 ถึง มีนาคม 2015 สามารถพิมพ์คูปองส่วนลดได้จากเว็บไซต์ของ Sanrio Puroland
นอกจากที่ประเทศญี่ปุ่น สวนสนุกคิตตี้ แห่งล่าสุดได้เปิดขึ้นที่เมืองอันจี๋ มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีนเมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา
และที่ใกล้ประเทศไทยมากที่สุด น่าจะเป็น SANRIO HELLO KITTY TOWN ที่เมืองนูซาจายา รัฐยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย ทั้งสองสถานที่ได้รับลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย
นอกจากสวนสนุกขนาดใหญ่แล้ว ยังมีร้านอาหารและขนม “คิตตี้คาเฟ่” ซึ่งแรกเริ่มเปิดบริการที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ที่กรุงไทเปของไต้หวัน และล่าสุดได้เปิดร้านที่กรุงเทพฯด้วย
ตัวการ์ตูนยอดนิยม “คิตตี้”มีการใช้เพื่อการค้าอย่างแพร่หลาย โดยแมวสาวที่มีอายุถึง 41 ปีนี้มีมูลค่าทางการตลาดสูงถึงปีละ 7,000ล้านคอลลาห์สหรัฐฯ นอกจากสินค้าของใช้ในชีวิตประจำวันที่บริษัทซานริโอ้ เป็นผู้ผลิตจำหน่ายแล้ว องค์กรอื่นๆที่เคยใช้แมวสาว “คิตตี้” เป็นทูตประชาสัมพันธ์ ได้แก่ สายการบินอีวาร์ แอร์ ของไต้หวันที่ให้บริการ “เครื่องบินคิตตี้” จำนวน 5 ลำ , โรงพยาบาลในเมืองหยวนหลินของไต้หวัน ก็ยังตบแต่งแผนกสูตินรีเวชเป็นแนวคิตตี้ เพื่อให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายในระหว่างรอคลอด
แม้แต่ในแวดวงการเงิน ธนาคารแบงค์ ออฟ อเมริกา เคยออกสมุคเช็คและบัตรเครดิตรูปคิตตี้ เมื่อปี 2009 และธนาคารกสิกรไทย ก็มีบัตรเดบิตเป็นรูปคิตตี้เช่นเดียวกัน
ผลิตภัณฑ์ “คิตตี้” ทั้งหมดมีการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย.
ที่มา : http://manager.co.th/Japan/ViewNews.aspx?NewsID=9580000019333