· ประสิทธิภาพของเครือข่ายนั้นได้กลายเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลโดยตรงต่อความจงรักภัคดีต่อผู้ให้บริการ แต่อย่างไรก็ตามผู้ให้บริการและผู้ใช้สมาร์ตโฟนนั้นอาจมีการกำหนดนิยามของประสิทธิภาพในเครือข่ายที่แตกต่างกัน
· เครือข่ายที่ทำงานได้ดีตามมาตรวัด KPI ตามหลักเทคนิคนั้น ไม่ได้ทำให้ผู้ใช้สมาร์ตโฟนนั้นสามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพอย่างแท้จริงเสมอไป
· การเพิ่มประสิทธิภาพประสพการ์ณการใช้ App หรือ App Experience Optimization เป็นบริการใหม่ที่จะเปลี่ยนวิธีและขั้นตอนที่ผู้ให้บริการสามารถปรับเครือข่ายของตนเพื่อตอบสนองความต้องการที่เกิดจากระบบนิเวศของการใช้แอปที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา
ผู้ให้บริการล้วนตระหนักเป็นอย่างดีว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่จะนำมาซึ่งความจงรักภัคดีของลูกค้านั้นคือประสิทธิภาพของเครือข่าย จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ให้บริการจึงทุ่มเทอย่างมากเพื่อที่จะทำให้เครือข่ายของตนนั้นทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ในปัจจุบันผู้บริโภคใช้เวลากับแอปพลิเคชั่นต่างๆ มากขึ้น ดังจะเห็นตัวอย่างได้จากรายงานวิจัยปี 2014 เรื่อง Performance shapes smartphone behavior ของ Ericsson ConsumerLab ผู้ให้บริการนั้นตระหนักว่าต้องทำให้เครือข่ายตัวเองนั้นทำงานได้อย่างเต็มที่เพื่อที่จะแข่งขันในตลาดต่อไปได้ ตัววัดประสิทธิภาพเครือข่ายแบบดั้งเดิมอย่าง Key Performance Indicator (KPI) อย่างเดียวนั้นอาจจะไม่พอเสียแล้วที่จะแสดงความพึงพอใจของผู้ใช้ได้อย่างแท้จริง
การเพิ่มประสิทธิภาพประสพการ์ณการใช้ App หรือ App Experience Optimization เป็นบริการใหม่ที่จะเปลี่ยนวิธีและขั้นตอนที่ผู้ให้บริการสามารถปรับประสิทธิภาพเครือข่ายของตนเพื่อสนองความต้องการใหม่ๆ ด้วยการสร้างระบบนิเวศแอปพลิเคชั่นที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว บริการนี้จะสามารถตอบโจทย์ความท้าทายดังกล่าวด้วยการให้ข้อมูลที่สะท้อนความเป็นจริงของการใช้งานแอปพลิเคชั่นในพื้นที่และโยงเข้ากับมาตรวัดที่เกี่ยวกับเครือข่าย (KPI) ต่างๆ และนำไปพิจารณาเพื่อปรับปรุงได้ โดยผู้เชี่ยวชาญต่างๆจาก Ericsson Network Design and Optimization จะดำเนินการปรับประสิทธิภาพเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานแอปโดยใช้ประสบการณ์ เครื่องมือและวิธีการอันเป็นสากล
ในโครงการล่าสุดที่ Ericsson ได้เข้าร่วมในการปรับประสิทธิภาพเครือข่ายเพื่อเพิ่มประสพการ์ณการใช้งานแอป Facebook ของ XL Axiata ซึ่งเป็นผู้นำในการให้บริการเครือข่ายมือถือในประเทศอินโดนีเซีย โดยผลจากการดำเนินการนี้ ได้ช่วยให้ XL Axiata สามารถกำหนดนิยามประสพการ์ณการใช้งานแอป หรือ app experience ว่า ผู้ใข้งานต้องสามารถทำรายการต่างๆภายในระยะเวลาไม่เกินสามวินาที หรือดีขึ้นร้อยละ 20 ถึง 70 โดยสามารถเข้าถึงหรืออ่านเนื้อหานั้นๆจะต้องดีขึ้นกว่าร้อยละ 70 ในขณะที่เวลาในการอัพโหลดจะต้องเร็วขึ้นร้อยละ 50เช่นกัน ผลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่จะทำให้ความพึงพอใจในการใช้งานแอปนั้นสูงสุดจากการใช้ทรัพยากรเครือข่ายที่มีอยู่
นาย อมีต สุรี ผู้จัดการด้านพันธมิตรของ Facebook กล่าวว่า “นอกเหนือจากการสร้างแอปที่ใช้ปริมาณข้อมูลน้อยลงแล้ว เรายังจำเป็นต้องมีโครงข่ายที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้บริการประชาชนในเขตที่มีปริมาณแบนด์วิธต่ำได้ ในปีที่ผ่านมาเราทำงานร่วมกับ Ericsson และ XL Axiata ในประเทศอินโดนีเซียเพื่อที่จะสร้างวิธีในการวิเคราะห์ สังเกตการณ์และปรับปรุงประสิทธิภาพของเครือข่ายสำหรับการใช้งานแอปแบบครบวงจร วิธีการดังกล่าวจะช่วยให้ผู้บริการสามารถสามารถตั้งเป้าปรับปรุงเครือข่ายของตนในส่วนที่มีผลกระทบกับผู้ใช้มากที่สุดได้แบบสมน้ำสมเนื้อกับค่าใช้จ่าย เป็นการมอบสาธารณูปโภคให้แก่สองในสามส่วนของโลกที่ยังไม่มีการเชื่อมต่อ นอกจากร่วมมือกับ XL Axiata แล้ว เรายังรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ขยายโครงการดังกล่าวและร่วมมือกับผู้ให้บริการอื่นๆ ที่แสดงความสนใจในโครงการ”
และด้วยผลตอบรับที่ดีเป็นอย่างยิ่งนี้ Ericsson จึงปรับปรุงวิธีการให้ดียิ่งขึ้นอีกทำให้เกิดเป็นบริการ App Experience Optimization ที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Mobile World Congress 2015 ณ กรุงบาร์เซโลนา
นาย สเตฟฟาน เพร์สัน รองประธานฝ่ายการขยาย สนับสนุนและปรับประสิทธิภาพเครือข่ายของ Ericsson กล่าวว่า “ด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและปรับประสิทธิภาพเครือข่ายกว่า 5,000 คนและข้อมูลที่เราได้รวบรวมจากโครงการของลูกค้าเราจำนวนนับไม่ถ้วน ทั้งหมดนี้จะช่วยให้บริการใหม่ของเรานี้สร้างประสิทธิผลและความได้เปรียบทางการแข่งขันแก่ลูกค้าของเราได้”
นาย เจสัน มาร์เช็ค ผู้อำนวยการด้านการบริการของแผนกโครงข่ายผู้ให้บริการ บริษัท Current Analysis ให้สัมภาษณ์ว่า “Ericsson นั้นได้ให้ความสนใจเสมอมาว่าปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้กับเครือข่ายนั้นมีผลกระทบอย่างไรต่อลูกค้าของผู้ให้บริการนั้นๆ โครงการล่าสุดที่จะเปิดตัวนี้จะทำให้ปัจจัยเรื่องการใช้งานแอปของผู้ใช้จริงกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการปรับเครือข่ายให้เต็มประสิทธิภาพ การปรับประสิทธิภาพของเครือข่ายเข้ากับองค์ความรู้ที่ได้จากความร่วมมือกับผู้ให้บริการชั้นนำจะช่วยให้เครือข่ายสามารถทำงานได้ดีขึ้นในแบบที่ผู้ใช้งานจริงต้องการมากที่สุด”
Ericsson ในงาน Mobile World Congress 2015
ในงาน Mobile World Congress 2015 ที่จะจัดขึ้นที่กรุงบาร์เซโลนา ประเทศสเปน Ericsson จะแสดงเทคโนโลยี ความสามารถในการบริการและนวัตกรรมชั้นนำของโลก สังคมเครือข่ายนั้นเป็นสิ่งที่กำลังเปลี่ยนแปลงวงการทั้งหมด เครื่องมือทางด้าน ICT นั้นได้กลายเป็นทรัพยากรพื้นฐานสำหรับธุรกิจ ผู้คนและสังคมไปแล้ว เราจะเป็นผู้นำทางด้วยฮาร์ดแวร์ บริการและโซลูชั่นซอฟท์แวร์ต่างๆ ที่จะขับเคลื่อนพัฒนาการในด้านเครือข่ายเคลื่อนที่ บรอดแบนด์และคลาวด์ เพื่อสร้างรากฐานสำหรับระบบนิเวศใหม่และก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทั่วทั้งอุตสาหกรรม ความเปลี่ยนแปลงที่มาพร้อมกับการพลิกโฉมหน้านี้ล้วนอยู่ในมือของคนทุกคน ดังนั้นในงาน Mobile World Congress ปีนี้ เราจึงจะมาพูดคุยว่าเราจะช่วยให้ผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคมเครือข่ายนั้นสร้างความก้าวหน้าในการใช้งานทางดิจิตอลได้อย่างไร