งามหยด กับ Samsung Galaxy S6 คุ้มกับการรอดูเปิดตัวอย่างอดหลับอดนอนที่เขียนอยู่นี้ไม่ได้อวย แต่ชอบจริงๆ
เอาตั้งแต่เปิดตัว ตื่นตาตื่นใจดีครับ รู้สึกตื่นเต้นไปด้วยเลย
แต่ที่ตื่นตาตื่นใจกว่านั้นคือ S6 จอโค้ง (Samsung Galaxy S6 EDGE) ที่โค้งทั้งสองข้าง สมกับคอนเซปต์ Impossible to POSIBBLE
มีความจุให้เลือก 32GB, 64GB, 128GB และมี 5 สีให้เลือกครับ สีทอง Gold Platinum สีขาว White Pearl สีดำ Black Sapphire สีเขียว Green Emerald สีน้ำเงิน Blue Topaz
จากที่ดูการเปิดตัวเมื่อคืน เห็นได้ชัดเจนว่ามีการเปลี่ยนมากๆ สำหรับ Samsung Galaxy S6 และ S6 EDGE ครับ ไม่ว่าจะเป็น รูปลักษณ์ และ Feature ต่างๆ
มาเริ่มกันที่รูปร่างหน้าตา รู้สึกแปลกตามากกับ Smart Phone ที่ด้านหน้าและด้านหลังเป็นกระจก (หลอมมาด้วยความร้อน 800 องศาเซลเซียส) และมี Body เป็นโลหะ ซึ่งมีความแข็งแรงกว่า ค่ายอื่นๆ ถึง 50% ซึ่งทาง Samsung แน่ใจว่า Samsung Galaxy S6 และ S6 EDGE เครื่องไม่งอแน่นอน
ขนาดของหน้าจอ 5.1” Quad HD Super Amoled 557 PPI (Pixel per inc)และมี Pixels เพิ่มขึ้นมามากถึง 77% ครับ
ระบบประมวลผล 64 Bit 14Nm FinFET (ซึ่ง 14 Nm จะทำงานได้ดีว่า 20 Nm ถึง 35%) Ram DDR4 ซึ่งทำงานได้เร็วกว่า DDR3 ถึง 80% (น่าจะหมดปัญหาไปเลยสำหรับเรื่องเครื่องค้างหรือเครื่องแล็ค) หน่วยความจำที่ใช้เป็นแบบ eMMC flash memory
ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับกล้องหลัง 16 MP กับรูรับแสงที่กว้างถึง 1.9 (F/1.9) แน่นอนว่าถ่ายในที่มืดได้ดีกว่าเดิมและดีกว่าใครแน่นอน มีแอบกัดคู่แข่งเบาๆ (ปล่อยไปหลายหมัดเลยหล่ะเมื่อคืนนี้) และกล้องหน้าเองก็ไม่น้อยหน้านะครับ ความละเอียดถึง 5 MP และรูรับแสงก็กว้างถึง 1.9 (F/1.9) ยังมี HDR ที่เป็นแบบ Real time และที่ถูกใจผมเข้าอย่างจัง ต้องยกให้กล้องที่สามารถเปิดกล้องจากหน้าจอที่ล็อกอยู่แค่ 0.7 วินาที
ไม่ถึงวินาทีจริงๆ ไวจนแคปรูปไม่ทัน แค่กดปุ่มโฮมสองครั้ง จากหน้าจอที่ล็อกอยู่ แค่นี้กล้องถ่อยรูปก็พร้อมใช้งานในทันที
ที่สำคัญไปกว่านั้น Samsung Galaxy S6 และ S6 EDGE เป็น Build in battery และมี Wireless charging ในตัว แต่ไม่ต้องห่วงครับทาง Samsung เผยว่า Battery นี้อยู่ได้นานมาก และที่สำคัญ ชาร์จแค่ 10 นาที ใช้งานได้ถึง 4 ชั่วโมง ชาร์จเร็วกว่า iPhone 6 ครึ่งนึงนะจ๊ะ
มาดูเรื่องการเปลี่ยนแปลงของ Feature ภายในกันบ้างนะครับ Samsung Galaxy S6 และ S6 EDGE จะมีคำสั่งที่ซับซ้อนน้องลงครับ ง่ายๆ คือ ใช้งานจากที่ง่ายก็จะง่ายกว่าเดิมครับ ยกตัวอย่างเช่น Contact ตามภาพครับ
ซึ่งจะย่อฟังก์ชันต่างๆ ให้ใช้ได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้ง Interface ก็หน้าตาดูดีกว่าเดิมด้วยครับ
แม้แต่ Feature ภายในกล้องก็มีการเปลี่ยนแปลงครับ ปรับแต่งให้การใช้งานได้ง่ายและคล่องตัวขึ้น ไม่ต้องสไลด์มือให้เมื่อยอีกต่อไป
โดยจะเริ่มจำหน่ายวันที่ 10 เมษายนนี้ครับ บ้านเราน่าจะได้วางขายเป็นที่แรกๆ นะครับ
ที่มา : http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000024736