คาเธ่ย์ แปซิฟิค ประกาศผลประกอบการประจำปี 2557

คาเธ่ย์ แปซิฟิค กรุ๊ป แถลงผลกำไรประจำปี 2557 คิดเป็นมูลค่า 3,150 ล้านเหรียญฮ่องกง เทียบกับผลกำไรประจำปี 2556 ซึ่งอยู่ที่ 2,620 ล้านเหรียญฮ่องกง ในขณะที่กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 80.1 เซ็นต์ฮ่องกงเทียบกับ 66.6 เซ็นต์ฮ่องกงในปี 2556 และรายได้ในปี 2557 เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 อยู่ที่ 105,991 ล้านเหรียญฮ่องกง

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 คาเธ่ย์ แปซิฟิค กรุ๊ป ต้องเผชิญปัจจัยหลายประการที่ส่งผลกระทบในทางลบในการดำเนินธุรกิจทั้งราคาน้ำมันที่สูง รายได้จากผู้โดยสารลดลง ความต้องการที่ลดลงและระวางการบรรทุกสินค้าที่เกินความต้องการในตลาดการขนส่งสินค้าทางอากาศ  อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 การดำเนินธุรกิจเป็นไปแนวทางที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ตลอดทั้งปี 2557 ความต้องการของผู้โดยสารมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูร้อนและคริสต์มาสซึ่งเป็นช่วงที่มีผู้เดินทางมากที่สุด  หลังผ่านช่วงเวลาซบเซา ธุรกิจการขนส่งสินค้าของคาเธ่ย์ แปซิฟิค กรุ๊ปเริ่มดีขึ้นในช่วงฤดูร้อนของปี  2557 โดยเฉพาะไตรมาสสี่ซึ่งมีความต้องการขนส่งเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นช่วงที่มีความต้องการขนส่งสินค้ามากที่สุด นอกจากนี้คาเธ่ย์ แปซิฟิค กรุ๊ปยังได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ลดลงในช่วงไตรมาสสี่ แต่เสียประโยชน์ส่วนหนึ่งจากสัญญาการซื้อขายน้ำมันล่วงหน้า

รายได้จากผู้โดยสารของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิคและดรากอนแอร์ ในปี 2557 เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 ที่ 75,734 ล้านเหรียญฮ่องกง เมื่อเปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2556  ปริมาณการรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.9 เนื่องจากการเพิ่มเส้นทางบินใหม่ (กรุงโดฮา เมืองเมนเชสเตอร์ และเมืองนวร์ก) และการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินของเส้นทางเดิมบางเส้นทาง ปริมาณการรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 1.1 จุดเป็นร้อยละ 83.3 และปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 ที่ 31.6 ล้านคน ราคาต่อหน่วยลดลงร้อยละ 1.8 เป็น 67.3 เซ็นต์ ถึงแม้ว่าจะมีแนวโน้มที่ดีในช่วงครึ่งปีหลังเมื่อเปรียบเทียบกับครึ่งปีแรก ความต้องการของผู้โดยสารในเที่ยวบินระยะไกลยังคงมีศักยภาพสูงในทุกชั้นโดยสาร อย่างไรก็ตาม จำนวนที่เพิ่มขึ้นของผู้โดยสารสวนทางกับปริมาณการรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นในเส้นทางอเมริกาเหนือ การแข่งขันที่รุนแรงขึ้นส่งผลกระทบต่อราคาต่อหน่วยของเส้นทางในภูมิภาคเช่นกัน

หลังผ่านช่วงเวลาซบเซา ธุรกิจการขนส่งสินค้าของคาเธ่ย์ แปซิฟิค กรุ๊ปเริ่มดีขึ้นในช่วงฤดูร้อนของปี 2557 และมีผลประกอบการที่ดีมากในช่วงไตรมาสสี่ ธุรกิจการขนส่งสินค้าของคาเธ่ย์ แปซิฟิค กรุ๊ป ในช่วงปี 2557 อยู่ที่ 25,400 ล้านเหรียญฮ่องกง เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.3 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ความสามารถในการขนส่งที่มากเกินจำนวนสินค้าที่มากเกินไปในธุรกิจการขนส่งสินค้าส่งผลต่ออัตราราคาในช่วงครึ่งปีแรก ราคาต่อหน่วยตลอดทั้งปี 2557 ของคาเธ่ย์ แปซิฟิค และดรากอนแอร์ลดลงร้อยละ 5.6 อยู่ที่ 2.19 เซ็นต์ ทั้งๆ ที่ความต้องการในธุรกิจการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่สอง ระวางของการบรรทุกสินค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.4 ขณะที่อัตราการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น 2.5 จุด ที่ร้อยละ 64.3 ทั้งนี้ระวางของการบรรทุกสินค้ายังคงได้รับการปรับให้สอดคล้องกับความต้องการในช่วงไตรมาสแรกของปี 2557 โดยเครื่องบินขนส่งทางอากาศยังคงดำเนินการบินอย่างเต็มที่ในช่วงไตรมาสสอง นอกจากนี้อาคารระวางสินค้าอาคารใหม่ของคาเธ่ย์ แปซิฟิค กรุ๊ป ได้เปิดดำเนินงานเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม และทำให้การปฏิบัติการของการขนส่งสินค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น

ค่าน้ำมันยังคงเป็นรายจ่ายส่วนใหญ่ที่สุดของ คาเธ่ย์ แปซิฟิค กรุ๊ป โดยในปี 2557 ค่าน้ำมันเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ0.7 เมื่อเปรียบเทียบในปี 2556 (ไม่รวมถึงผลกระทบจากการทำสัญญาซื้อน้ำมันล่วงหน้า) ซึ่งต่ำกว่าจำนวนของผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 5.9 และระวางของการบรรทุกสินค้าที่เพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 10.4 อย่างเห็นได้ชัด ปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีเที่ยวบินมากขึ้น แต่การใช้เครื่องบินที่มีการประหยัดน้ำมันดียิ่งขึ้นและการปลดระวางของเครื่องที่ไม่ประหยัดน้ำมันช่วยให้สามารถประหยัดน้ำมันได้ดียิ่งขึ้น  คาเธ่ย์ แปซิฟิค กรุ๊ป ยังได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ลดลงในไตรมาสสี่ น้ำมันเชื้อเพลิงคิดเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการการบินร้อยละ 39.2 เมื่อเทียบกับปีที่แล้วร้อยละ 39.0 ดังนั้นการบริหารความเสี่ยงจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและผันผวนจึงเป็นความสำคัญอันดับแรก และสายการบินได้ขยายสัญญาการซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าไปจนถึงปี 2561 การลดลงอย่างฮวบฮาบของราคาน้ำมันในไตรมาสสี่ของปี 2557 ทำให้คาเธ่ย์ แปซิฟิค กรุ๊ปได้กำไรสุทธิและกำไรโดยรวมเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การลดลงของราคาน้ำมันส่งผลถึงการขาดทุนจากสัญญาซื้อน้ำมันล่วงหน้า รวมถึงการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากสัญญาการซื้อน้ำมันล่วงหน้า ซึ่งแสดงในงบการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 และนำไปสู่การลดลงของสินทรัพย์สุทธิ

คาเธ่ย์ แปซิฟิค กรุ๊ป ยังคงมุ่งมั่นในการปรับปรุงฝูงบินให้ทันสมัย โดยในปี 2557 บริษัทได้รับมอบเครื่องบินใหม่จำนวน 16 ลำได้แก่ เครื่องบินรุ่นโบอิ้ง 777-300ER จำนวน 9 ลำ เครื่องบินรุ่นแอร์บัส A330-300 จำนวน 5 ลำ และเครื่องบินรุ่นแอร์บัส A321-200 จำนวน 2 ลำ(สำหรับดรากอนแอร์)  ในขณะเดียวกัน สายการบินได้ปลดระวางเครื่องบินโดยสารรุ่นโบอิ้ง 747-400  จำนวน 6 ลำในช่วงเดียวกัน ในปี 2556 บริษัทได้ตกลงขาย
เครื่องบินขนส่งสินค้ารุ่น โบอิ้ง 747-400F จำนวน 6 ลำ คืนให้แก่บริษัทโบอิ้ง โดยหนึ่งลำได้ส่งมอบคืนแล้วในเดือนพฤศจิกายน 2557 อีกสองลำซึ่งเป็นเครื่องบินขนส่งสินค้าหยุดการปฏิบัติงาน ทั้งนี้ห้าลำจะได้รับการ ปลดระวางภายในช่วงสิ้นปี 2559 ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 คาเธ่ย์ แปซิฟิค กรุ๊ป มีจำนวนเครื่องบินใหม่ทั้งหมด 79 ลำที่จะถูกส่งมอบในปี 2567 และจะได้รับเครื่องบินใหม่จำนวน 9 ลำในปี 2558

คาเธ่ย์ แปซิฟิค กรุ๊ป ยังคงพัฒนาเครือข่ายทางการบินและการขนส่งสินค้าอย่างต่อเนื่อง ในปี 2557 คาเธ่ย์ แปซิฟิคได้แนะนำเส้นทางบินใหม่สู่กรุงโดฮา เมืองแมนเชสเตอร์ และสนามบินนานาชาตินวร์ก และจะแนะนำเที่ยวบินใหม่สู่เมืองซูริค บอสตัน และดุสเซลดอร์ฟ ในเดือนมีนาคม เดือนพฤษภาคม และเดือนกันยายนปี 2558 ตามลำดับ รวมถึงได้เพิ่มเที่ยวบินในไปยังกรุงลอส แอนเจลิส เป็น 4 เที่ยวบินต่อวันตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2557 และเมืองซานฟรานซิสโกเป็น 17 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ในเดือนมิถุนายน 2558 สำหรับ   ดรากอนแอร์ได้ให้บริการเที่ยวบินไปยังกรุงเดนปาซาห์ บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย และปีนัง (ให้บริการเที่ยวบินแทนสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิคในเส้นทางปีนัง) และยังได้เพิ่มเที่ยวบินในเส้นทางอื่นๆ นอกจากนี้เดือนมีนาคม 2558 ได้เพิ่มเที่ยวบินรายวันจากฮ่องกงไปยังสนามบินฮาเนดะ กรุงโตเกียว  สำหรับการขนส่งสินค้า คาเธ่ย์ แปซิฟิค ได้เพิ่มเที่ยวบินไปยังกรุงโคลัมบัส คาลการี และพนมเปญ ในปี 2557 และได้เพิ่มเส้นทางการขนส่งสินค้าไปยังเมืองกัลกัตตา ประเทศอินเดีย ในเดือนมีนาคม 2558

ในส่วนของผลิตภัณฑ์ คาเธ่ย์ แปซิฟิคได้ทำการติดตั้งและปรับปรุงที่นั่งใหม่เสร็จสมบูรณ์แล้วซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2554 ในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 ที่นั่งชั้นธุรกิจใหม่ และชั้นประหยัดได้ถูกติดตั้งในเครื่องบินโดยสารระยะไกลรุ่นแอร์บัส A330-300 และเครื่องบินโดยสารรุ่นแอร์บัส A321-200 จำนวน 6 ลำ ของดรากอนแอร์ ขณะเดียวกันที่นั่งชั้นหนึ่งใหม่ได้ถูกติดตั้งในเครื่องบินโดยสารรุ่นแอร์บัส A330-300 จำนวน 6 ลำ ของดรากอนแอร์ ในเดือนพฤศจิกายน 2557 ได้มีการติดตั้งห้องโดยสารชั้นธุรกิจใหม่และชั้นประหยัดที่ได้รับการออกแบบและปรับปรุงใหม่ในเครื่องบินรุ่นแอร์บัส A320-200 ของดรากอนแอร์ และจะเสร็จสิ้นภายในปี 2561 นอกจากนี้ในเดือนตุลาคม 2557 คาเธ่ย์ แปซิฟิคได้เปิดตัวโลโก้ใหม่และสามารถเห็นได้จากเว็บไซต์คาเธ่ย์ แปซิฟิค   โดยเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบใหม่ ณ ห้องรับรองผู้โดยสารแห่งใหม่ในสนามบินฮาเนดะกรุงโตเกียวและห้องโดยสารรับชั้นหนึ่งที่ “เดอะเพียร์” ที่ได้รับการปรุงใหม่ ณ สนามบินนานาชาติฮ่องกง ซึ่งจะเปิดบริการในเดือนมิถุนายน 2558

ทั้งนี้ รายได้จากแอร์ไชน่าต่ำกว่าที่คาดการณ์ในปี 2557 (ผลประกอบการรวมอยู่ในผลประกอบการของคาเธ่ย์ แปซิฟิค กรุ๊ป ที่เกินกำหนดระยะเวลาปลอดหนี้เป็นเวลาสามเดือน)  ผลประกอบการของแอร์ไชน่าส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากภาวะความยากลำบากของสิ่งแวดล้อมในการปฏิบัติงานและความสูญเสียจากการอ่อนค่าของเงินหยวนในช่วงต้นปี  อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น ผลประกอบการของแอร์ไชน่าดีขึ้นอันเนื่องมากจากราคาน้ำมันที่ลดลง ในปี 2557 คาเธ่ย์ แปซิฟิค กรุ๊ปและแอร์ไชน่าอัดฉีดเงินทุนและเงินกู้ยืมให้กับแอร์ไชน่าคาร์โก้ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของฝูงบินให้ทันสมัยและพัฒนาการทำงานของธุรกิจขนส่งสินค้า

นายจอห์น สโลซาร์ ประธานบริษัทคาเธ่ย์ แปซิฟิค กล่าวว่า “เรารู้สึกมีกำลังใจอย่างมากที่เห็นภาพรวมของธุรกิจของเราดีขึ้นในปี 2557 ซึ่งดีขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาสแรก และเรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งถึงผลประกอบการในทางบวกในปี 2558 ความต้องการของธุรกิจการขนส่งยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากความหนาแน่นของท่าเรือในบริเวณชายฝั่งด้านตะวันตกของประเทศสหรัฐอเมริกา เรายังได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง เครือข่ายของเราก็ได้รับผลประโยนช์จากปัจจัยบวกเหล่านี้เช่นกัน ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าเราจะเผชิญการแข่งขันที่สูงจากธุรกิจที่มีรายได้จากผู้โดยสาร ซึ่งเป็นเรื่องยากในการรักษาราคาต่อหน่วย แต่ความต้องการในการเดินทางของผู้โดยสารยังคงเพิ่มขึ้นและภาพรวมของธุรกิจเรายังดำเนินไปอย่างดี”

“ในปี 2557 เรายังคงทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างคาเธ่ย์ แปซิฟิคและดรากอนแอร์ให้เป็นสายการบินที่ดียิ่งขึ้นของลูกค้า ความสำเร็จที่เราได้รับรางวัลสายการบินยอดเยี่ยมระดับโลกเป็นครั้งที่ 4 ซึ่งเป็นรางวัลจากผู้โดยสารทางอากาศทั่วโลก แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการมอบการผลิตภัณฑ์และการบริการที่เป็นเลิศ ฐานะการเงินของคาเธ่ย์ แปซิฟิค กรุ๊ปยังคงแข็งแกร่ง และจะช่วยให้เรารักษาคุณภาพของสินค้าและบริการ รวมถึงยังคงดำเนินการลงทุนกลยุทธ์การลงทุนระยะยาวต่อไป เพื่อที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับฮ่องกงซึ่งเปรียบเสมือนบ้านของเรา ให้เป็นศูนย์กลางการทางการบินชั้นนำในระดับโลก”