เคทีซี ผู้นำธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคของไทย ย้ำเดินหน้ากิจกรรมเพื่อร่วมรับผิดชอบต่อสังคม มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพเยาวชนอย่างจริงจัง สนับสนุนการค้นหาตัวตนและทำตามฝันเพื่อก้าวสู่ความสำเร็จ ผ่านโครงการผลิตนิสิต-นักศึกษาสู่โลกการทำงานจริง “Learn & Earn @ KTC” ปี 2015 ภายใต้แนวคิด “Discover / Dream / Dare” (ค้นหา / ล่าฝัน / สู่โลกกว้าง) โดยดึงบุคคลที่ประสบความสำเร็จจากหลากหลายวงการร่วมจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ และกิจกรรมเวิร์คช้อปดูงานธุรกิจข้ามสายพันธุ์ เพื่อเปิดแรงบันดาลใจแบบไร้จำกัด
นางอุบลรัตน์ บุษยะกนิษฐ์ ผู้บริหารสูงสุด – ทรัพยากรบุคคล “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เผยว่า “กลยุทธ์ในการทำกิจกรรมเพื่อรับผิดชอบสังคม หรือ CSR ในปี 2558 นี้ เคทีซียังคงเน้นย้ำเรื่องของการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนเป็นหลัก ผ่านโครงการ Learn & Earn @ KTC ซึ่งทำต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 12 ภายใต้แนวคิดที่เข้มข้นขึ้น คือ “Discover / Dream / Dare” เพื่อให้สอดรับกับคนรุ่นใหม่ Gen Y ที่มีบุคลิกเฉพาะ มีความคิดเป็นของตนเองและมุ่งเน้นความสำเร็จเป็นสำคัญโดยมีบุคคลที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักเป็นผู้นำทางความคิด”
“สำหรับแนวคิด “Discover / Dream / Dare” หรือ (ค้นหา / ล่าฝัน / สู่โลกกว้าง) ในปีนี้จะแบ่งเป็น 3 ช่วง คือ 1) Discover มุ่งสนับสนุนให้นิสิต-นักศึกษาในโครงการ Learn & Earn @ KTC ค้นพบบุคลิกและความเป็นตัวตนที่แท้จริง ข้อดีและส่วนที่ต้องปรับปรุง ผ่านคอร์สเรียนด้านจิตวิทยาประยุกต์ 2) Dream การจุดประกายความฝันให้เป็นจริง หลังจากค้นพบความเป็นตัวตน และเห็นความฝันแนวทางอาชีพของตน โดยเข้าร่วมกิจกรรมเวิร์คช้อปจากผู้ประสบความสำเร็จและมีประสบการณ์ที่หลากหลายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ 3) Dare การเปิดโลกทัศน์จากประสบการณ์จริงนอกห้องเรียนและมุมมองใหม่ๆ ที่ซื้อไม่ได้ด้วยเงิน เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้น้องๆ มุ่งสู่ความสำเร็จ อันจะเป็นพื้นฐานไปสู่การมีภาวะผู้นำที่ดีในอนาคตเมื่อก้าวไปสู่โลกของการทำงานจริง”
“นอกจากนี้ เคทีซีจะจัดให้มีการประกวดโครงงานเพื่อเฟ้นหานิสิต-นักศึกษาที่มีผลการเรียนดี และผลการปฏิบัติงานเป็นเลิศในช่วงปลายปี เข้าชิงรางวัลโครงการ Learn & Earn @ KTC Top Performance Awards ซึ่งจะได้มีการกำหนดโครงงานในการประกวดต่อไป”
“เราเชื่อว่า แนวคิดในการจัดกิจกรรมให้นักศึกษาในปีนี้ จะเป็นพื้นฐานสู่การพัฒนาศักยภาพให้น้องๆ ในโครงการฯ ก้าวไปเป็นผู้นำที่ดีให้กับองค์กรและเป็นบุคลากรที่มีคุณค่าให้กับประเทศในอนาคตได้อีกทางหนึ่ง”