หลังจากที่ “อาเจกรุ๊ป” จากประเทศเปรู ได้ส่ง บิ๊กโคล่า” ออกมาสร้างความคักคักให้กับตลาดน้ำอัดลมมาแล้ว และได้ทยอยออกวางตลาดแบรนด์เครื่องดื่มชนิดต่างๆในพอร์ตสินค้า ไม่ว่า น้ำดื่มเซียโล่ เครื่องดื่มเกลือแร่สปอเรต คราวนี้มาถึงคิว ของ “น้ำอัดลมผสมน้ำผลไม้”ภายใต้แบรนด์ “บิ๊กเฟรช” ที่จะเป็นอีกหนึ่งในอาวุธสำคัญของ อาเจกรุ๊ปในปีนี้
อาเจ มองว่า การนำ น้ำอัดลมผสมน้ำผลไม้ ”บิ๊กเฟรซ” ซึ่งเป็น ครื่องดื่มน้ำอัดลมผสมน้ำผลไม้ 5% มีปริมาณน้ำตาลต่ำ แคลอรี่ต่ำกว่าน้ำอัดลมปกติ จะช่วยขยายฐานผู้ดื่มน้ำอัดลมในประเทศไทยให้มากขึ้น ทั้งในกลุ่มผู้บริโภคที่ไม่เคยดื่มน้ำอัดลม ให้หันมาดื่มน้ำอัดลม รวมทั้งยังตอบโจทย์ กลุ่มผู้รักสุขภาพ เป็นอีกกลุ่มเป้าหมายสำคัญ และยังเป็นเพิ่มสินค้าที่มีความเป็นพรีเมียมออกสู่ตลาดมากขึ้น
มร.ฆอร์เก้ โลเปซ ดอริกา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท อาเจ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ตลาดน้ำอัดลมในประเทศไทยยังมีโอกาสทางการตลาดอีกมาก เนื่องจากอัตราการบริโภคน้ำอัดลมของคนไทยเพียงแค่ 38 ลิตร/คน/ปี ซึ่งเมื่อเทียบกับทางยุโรปที่มีการบริโภคถึง 160 ลิตร/คน/ปี
การนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างน้ำอัดลมผสมน้ำผลไม้ จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการบริโภคมากขึ้น และคาดว่า บิ๊กเฟซ จะช่วยกระตุ้นให้อัตราการบริโภคของคนไทยในปีนี้จะเพิ่มเป็น 40 ลิตร/คน/ปี
ไทยเป็นประเทศที่ 3 ในการเปิดตัวบิ๊กเฟรช ต่อจากประเทศโคลัมเบีย และอินโดนีเซีย เพราะไทยเป็นประเทศแรกๆ ที่อาเจได้ทำตลาดในเอเชีย ส่วนรสชาติของบิ๊กเฟรช จะไม่เหมือนกันในแต่ละประเทศ ขึ้นอยู่กับความนิยมของผู้บริโภคในประเทศนั้นๆ ในไทยจะเริ่มด้วย 2 รสชาติ คือ ส้มสายน้ำผึ้ง และมะนาวก่อน