หลังจากที่ “กลุ่มเซ็นทรัล” ได้ทำการควบรวมบริษัทในเครือทั้งออฟฟิศเมท , บีทูเอส และเซ็นทรัลออนไลน์ เข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้การบริหารงานโดยบริษัท ออฟฟิศเมท จำกัด (มหาชน) พร้อมเปิดตัวเว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบในชื่อ www.central.co.th
ล่าสุดได้ทำการเปลี่ยนชื่อจากกลุ่มออฟฟิศเมท เป็น “ซีโอแอล (COL)” หรือเซ็นทรัล ออนไลน์ (Central Online) เพื่อขยับธุรกิจเข้าสู่ออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจากเดิมชื่อของออฟฟิศเมทอาจจะสื่อภาพของธุรกิจไม่ชัดเจนมากนัก เพราะยังติดภาพของสินค้าในสำนักงานอยู่
ทำให้ปัจจุบันกลุ่มซีโอแอลมี 5 ธุรกิจในเครือ ได้แก่
1. บีทูเอส จำหน่ายเครื่องเขียน หนังสือ สื่อสร้างสรรค์ และบันเทิง ในอนาคตจะมี e-Book และ Audio Book
2. เมพ คอร์ปอเรชั่น (Mobile e-Book) บริษัทย่อยในเครือบีทูเอสที่ได้เข้าไปควบรวมกิจการ และถือหุ้นในสัดส่วน 75%
3. ออฟฟิศเมท จำหน่ายเครื่องเขียน และอุปกรณ์สำนักงาน เฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ไอทีสำนักงาน
4. เซ็นทรัลออนไลน์ เว็บไซต์อีคอมเมิร์ชที่ทางเซ็นทรัลได้เริ่มทำตั้งแต่ปี 2557 แต่ได้เปิดตัวเว็บไซต์อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
5. เซ็นเนอร์จี อินโนเวชั่น (Cenergy Innovation) บริษัทดิจิตอลเอเจนซี่ และผู้พัฒนาระบบด้านไอที ให้บริการด้านวางแผนกลยุทธ์การตลาดดิจิตอลแก่บริษัทในเครือเซ็นทรัล
ในอนาคตมีแผนจะแตกธุรกิจ “โลจิสติกส์” และ “Marketplace Website” เพื่อรองรับตลาดออนไลน์มากขึ้น
วรวุฒิ อุ่นใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จริงๆ ธุรกิจออนไลน์มีโอกาสและยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 30% หลังจากที่ทางกลุ่มเซ็นทรัลได้ควบรวมธุรกิจของบริษัทในกลุ่มเซ็นทรัลแล้ว ก็พบว่ามีการเติบโตสูงถึง 4-5 เท่า เพราะบริษัทในเครือต่างปรับตัว และปรับกลยุทธ์ในการทำธุรกิจมากขึ้น ทำให้เห็นภาพของการทำอีคอมเมิร์ชชัดเจนกว่าเมื่อก่อน ตั้งเป้าทั้งกลุ่มโต 19% ซึ่งตอนนี้รายได้จากออนไลน์มีเพียงแค่ 1% ของกลุ่มเซ็นทรัลเท่านั้น แค่ในปีนี้เราตั้งเป้าว่าจะต้องเป็น 10%ให้ได้
กลยุทธ์หลักของซีโอแอลได้แก่ 1. การซื้อและควบรวมกิจการ โดยที่อาจจะเป็น Venture Capital ในการเข้าไปลงทุนในสตาร์ทอัพ หรือเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วน 25-75% 2. การขยายสาขาไปต่างประเทศ ตั้งเป้าเริ่มบุกตลาดเวียดนามในต้นปีหน้า และ 3. สนับสนุน SMEโดยการคัดเลือกสินค้า SME มาขายในเว็บไซต์
ภายในงบลงทุน 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นขยายสาขาของบีทูเอส และออฟฟิศเมท 500 ล้านบาท และใช้ในการลงทุนซื้อกิจการ 500 ล้านบาท