“Next is Now” ก้าวต่อไปกับการพิชิตใจ Gen Y ของ “ซัมซุง”

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า “ซัมซุง” ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับหนึ่งในประเทศไทย ที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนานวัตกรรมต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค แต่ในขณะเดียวกันสมาร์ทโฟนก็มี 2 ด้านให้มองนั่นก็คือ “ฟังก์ชันนอล” และ “อีโมชันนอล”

ทุกวันนี้ซัมซุงตอบโจทย์ด้านฟังก์ชันนอลแบบไม่ต้องสงสัย ทั้งด้านนวัตกรรม ฟีเจอร์ ฟังก์ชั่น โจทย์ต่อไปของซัมซุงในวันนี้คือทำอย่างไรให้ตอบโจทย์ด้านอีโมชันนอลแก่ผู้บริโภคมากขึ้น นั่นคือโฟกัสที่ “การสร้างแบรนด์” ให้แข็งแกร่งมากขึ้นนั่นเอง ใจความสำคัญคือต้องการให้แบรนด์ดูแอคทีฟ และดูเท่ห์ขึ้นมาในสายตาผู้บริโภค

ซัมซุงจึงได้เปิดตัวโกลบอลแคมเปญ Next is Now พร้อมกับการเปิดตัว “กาแล็กซี่ เอส 6” โดยมีทั้งช่วง Product Level ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ และช่วง Branding Level ควบคู่กันไป

 

การเปิดตัวสมาร์ทโฟน “กาแล็กซี่ เอส 6” ในครั้งนี้จึงกลายเป็นปรากฎการณ์ All new galaxy และ All new change ในประวัติศาสตร์ของซัมซุง ที่จะเปลี่ยนวิธีการพูดใหม่ ที่ไม่ใช่แค่ออกมาพูดเรื่องฟังก์ชั่นของสมาร์ทโฟนว่ามีดีอย่างไรบ้าง แต่จะเรื่องของความคิด เรื่องดีไซน์ ฟีเจอร์ ฟังก์ชั่น ซอร์ฟแวร์ รวมถึงการทำการตลาด เป็นการเปลี่ยนจาก Good ให้เป็น Great

โดยที่ซัมซุงได้ออกแคมเปญ Next is Now ขึ้นมา เพื่อต้องการสื่อสาร และสร้างแบรนด์ในกลุ่มเป้าหมายคือกลุ่ม “Gen Y” ที่มีอายุตั้งแต่ 18-30 ปี โดยเฉพาะ เพราะซัมซุงมองว่ากลุ่ม Gen Y มีอำนาจในการตัดสินใจ และมีกำลังในการซื้อสูง ซึ่งกลุ่มนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกลุ่มใหญ่เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งหมดในประเทศไทย และปัจจุบันคนรุ่นใหม่ๆ ใช้สมาร์ทโฟนกันมากขึ้น

ซัมซุงได้เปรียบเปรยตัวเองเหมือนกับกลุ่ม Gen Y ที่ทุกๆ คนมีความสามารถที่ซ่อนเร้นอยู่ข้างใน เพียงแต่ต้องอาศัยการค้นหาตัวตนที่ซ่อนอยู่ข้างใน เช่นเดียวกับซัมซุงที่พัฒนาสินค้าทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อที่จะให้ผู้บริโภคค้นพบความสามารถที่ซ่อนอยู่ ซัมซุงจึงเชื่อมั่นใน Gen Y ว่ามีศักยภาพสูง มีความสามารถ และมีพลังมหาศาลที่ซ่อนอยู่ มีการพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ

ซึ่งตรงกับวิธีคิดของซัมซุงที่ว่าไม่เคยหยุดพัฒนาแม้แต่นาทีเดียว ดั่งเช่น “กาแล็กซี่ เอส 6” ที่ถือว่าเป็นสุดยอดนวัตกรรมแห่งสมาร์ทโฟนยุคนี้ ที่พลิกโฉมวงการดีไซน์ มากับจอโค้ง 2 ด้าน พร้อมกับตัวเครื่องเป็นกระจก และเมทัลสุดหรู

ทั้งนี้ซัมซุงได้ทำคลิปวิดีโอออนไลน์ ที่มีเนื้อหาท้าทายว่าเด็กยุคใหม่ ทำอะไรไม่ได้เรื่อง ผ่านคลิปวิดีโอที่มีชื่อว่า “เด็กสมัยนี้ ไม่ได้เรื่องหรอก…หรอออ?” ในช่องทางเว็บไซต์ยูทิวบ์ www.youtube.com/watch?v=E4KLE-fwtC0 มีตัวแทน Gen Y ทั้งหมด 3 คนด้วยกัน คือ นักดนตรี ดีไซเนอร์ และนักท่องเที่ยว (บล็อกเกอร์) เนื้อหาหลักจะเป็นการไม่เข้าใจกันระหว่างเจนเนอเรชั่น ที่ผู้ใหญ่จะมองว่าเด็ก Gen Y ไม่มีความอดทน ทำไรไม่ได้เรื่อง แต่ทั้ง 3 คนก็แสดงให้เห็นว่าสามารถทำได้สำเร็จเหมือนกัน

ในครั้งนี้ซัมซุงเลือกที่จะทำการตลาดในช่องทางออนไลน์เพียงอย่างเดียว ถือว่าเป็นการคุยกับคนรุ่นใหม่โดยตรง เพราะเป็นช่องทางที่เขาอยู่เป็นส่วนใหญ่ แต่นอกจากวิดีโอออนไลน์แล้ว ยังมีแอพพลิเคชั่นออนไลน์ The Next You สำหรับคนที่ไม่หยุดทำสิ่งที่ตัวเองเชื่อ เป็นพื้นที่ให้ Gen Y ได้ค้นหาความเป็นที่สุดของตนเอง สามารถเข้าได้ที่เว็บไซต์ www.samsungthenextyou.com

ในอนาคตต่อจากนี้ไป เราจึงได้เห็นซัมซุงทำตลาดด้วยการสร้างแบรนด์มากขึ้นอย่างแน่นอน โดยมีการบัญญัติไว้เป็นสเต็ปต่อไปที่จะเน้นทำแบรนด์ดิ้งมากขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจว่า ซัมซุงเข้าใจผู้บริโภค ในขณะเดียวกันก็มีการพัฒนาสินค้าให้ตรงกลุ่ม และโฟกัสกลุ่มมากขึ้น โดยที่อาจจะไม่ออกสินค้าเยอะเหมือนที่ผ่านมา แต่จะเน้นคุณภาพให้ตอบสนองผู้บริโภคมากที่สุด