เอไอเอส ลุยธุรกิจบรอดแบนด์ ตั้งเป้าปีแรก 1 แสนราย

เอไอเอส ชูความพร้อมส่ง “AIS Fibre” ให้บริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูงสุด 1 Gbps พร้อม “AIS Playbox” เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการสื่อสารแบบครบวงจร ทั้งโทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์บ้าน บรอดแบนด์ความเร็วสูง และทีวี ตั้งเป้าปีแรกลูกค้า 1 แสนราย
 
ฮุย เวง ชอง หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านปฏิบัติการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า ด้วยการลงทุนตลอด 25 ปีที่ผ่านมาของเอไอเอส ที่ทำให้กลายเป็นผู้นำในการให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือบนระบบ 3G ด้วยจำนวนลูกค้ามากกว่า 40 ล้านราย และพร้อมที่จะก้าวขึ้นสู่ผู้ให้บริการการสื่อสารแบบครบวงจรในอนาคตต่อไป
 
“ในสิ้นปีนี้การให้บริการ 3G ของเอไอเอสจะครอบคลุม 29,000 สถานีฐานภายในสิ้นปี 2015 และในขณะเดียวกัน เอไอเอสก็พร้อมจะเข้าร่วมประมูล 4G ที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน แน่นอนว่าถ้าประมูลได้ทางเอไอเอสก็จะเป็นผู้ให้บริการที่ใช้ระยะเวลาที่สั้นที่สุดในการเปิดให้บริการเหมือนเมื่อตอนประมูล 3G ที่ผ่านมา”
 
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เอไอเอส ได้เปิดให้บริการ AIS Super Wifi ความเร็วสูงสุด 650 Mbps เพื่อตอบโจทย์การใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงตามห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ตามมหาวิทยาลัย และคอมมูนิตีมอลล์ โดยมีแผนที่จะกระจายให้ครอบคลุม 50,000 จุด ทั่วประเทศในสิ้นปีนี้
 
รวมถึงการเปิดตัวแพกเกจ iSWOP ที่สามารถสลับการใช้งานระหว่างวอยซ์ และดาต้า ได้ตามความต้องการ รวมกับบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ Beat ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าเอไอเอสสามารถทำธุรกรรมทุกรูปแบบผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนได้ทันที
 
ดังนั้น เพื่อเป็นการวางโครงสร้างพื้นฐานให้เข้าสู่ยุคดิจิตอล เอไอเอส จึงได้มีการเปิดให้บริการ AIS Fibre ที่เป็นการเชื่อมต่อไฟเบอร์เข้าสู่บ้าน หรืออาคารที่อยู่อาศัย ให้ความเร็วสูงสุด 1 Gbps พร้อมกันนี้ ได้มีการแนะนำ AIS Playbox ที่จะเป็นดิจิตอลเกตเวย์ในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต โดยตั้งเป้าลูกค้าให้ครบ 1 แสนรายภายในสิ้นปีนี้
 
“ด้วยแนวคิดหลักของเอไอเอสที่จะให้บริการ Smart Home โดยมีพื้นฐานเป็น AIS Fibre ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นๆเข้าด้วยกัน เมื่อรวมบริการเหล่านี้ทำให้ปัจจุบัน เอไอเอส กลายเป็นผู้ให้บริการสื่อสารแบบครบวงจร ที่ประกอบไปด้วย 4 บริการหลัก คือ โทรศัพท์มือถือ ฟิกซ์ไลน์ บรอดแบนด์ และทีวี (Quad Play Multimedia Communication Company)”
 
นายศรัณย์ ผโลประการ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานบริหารธุรกิจฟิกซ์บรอดแบนด์ เอไอเอสให้ข้อมูลเสริมว่า การที่เอไอเอสเลือกใช้เทคโนโลยี Pure Fibre ในการให้บริการ AIS Fibre เนื่องจากปัจจุบันสายทองแดงถึงจุดที่ไปได้ไกลที่สุดแล้ว และกำลังเริ่มลดประสิทธิภาพลงจากระยะเวลาที่ใช้งาน ดังนั้น จึงควรที่จะเปลี่ยนมาใช้งานสายไฟเบอร์ออปติก ที่ไม่มีผลกระทบจากความชื้น หรือน้ำฝน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดีที่สุด
       

 
“จุดเด่นอีกอย่างของการให้บริการไฟเบอร์ออปติกคือ การให้บริการอินเทอร์เน็ต บรอดแบนด์ความเร็วสูงที่สามารถอัปโหลดได้สูงสุด 200 Mbps ในขณะที่เทคโนโลยี Docsis จะอัปโหลดได้สูงสุดราว 100 Mbps เท่านั้น Fibre จึงเร็วว่า Docsis 1 เท่าตัว”
 
ทั้งนี้ เอไอเอสตั้งเป้าที่จะขยายพื้นที่ให้บริการให้ครอบคลุม 10 ล้านหลังคาเรือน ภายใน 5 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่ AIS Fibre เปิดให้บริการแล้ว 7 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล เชียงใหม่ นครราชสีมา อุดรธานี ขอนแก่น ภูเก็ต และอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ในพื้นที่กว่า 1.3 แสนหลังคาเรือน 500 หมู่บ้าน และ 700 อาคาร
 
“ในการให้บริการ AIS Fibre ยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถใช้บริการโทรศัพท์บ้านผ่านสายไฟเบอร์ออปติก ที่ให้คุณภาพเสียงระดับ HD Voice และที่ตามมาคือ บริการด้านความบันเทิงผ่าน AIS Playbox ด้วยความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ทำให้ได้คอนเทนต์พรีเมียมมาฉายอย่าง CTH และ HOOQ ที่เป็นผู้ให้บริการชมภาพยนต์ระบบโลกตามความต้องการ”
 
นายศรัณย์ ยังให้ข้อมูลถึงกล่อง AIS Playbox ว่า ภายในกล่องยังบรรจุระบบร้องเพลงคาราโอเกะจากทุกค่ายในประเทศไทย 1.2 แสนเพลง พร้อมกับการเปลี่ยนโทรทัศน์ให้กลายเป็นสมาร์ททีวี ด้วยการเล่นเกม เล่นอินเทอร์เน็ต และระบบ Miracast ในการแชร์หน้าจอสมาร์ทโฟนมายังทีวี กล่องเดียวในปัจจุบัน
 
โดยค่าบริการสำหรับลูกค่าทั่วไปจะเริ่มที่ 750 บาท ได้ความเร็ว 20/7 Mbps ไปจนถึง 27,990 บาท ความเร็ว 1 Gbps / 200 Mbps ส่วนลูกค้าที่อาศัยอยู่ในคอนโดจะมีแพกเกจราคา 590 บาท ได้ความเร็ว 15/5 Mbps เนื่องจากเป็นการโยงสายไฟเบอร์เข้าที่คอนโดฯ หลังจากนั้นใช้สายโทรศัพท์แยกเข้าห้องแทน
 

AIS PLAYBOX กล่องทีวีอินเตอร์เน็ต
 
 

ความบันเทิงจาก AIS PLAYBOX