Entry-Level SUV ของค่าย BMW เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่นับจากปี 2009 แล้ว เมื่อพวกเขาเผยโฉมเจนเนอเรชั่นที่ 2 ของ X1 ออกมาแล้ว พร้อมความเปลี่ยนแปลงใหม่หมดทั้งคัน โดยเฉพาะระบบขับเคลื่อนด้วยการหันใช้แบบล้อหน้าแทนที่แบบเดิมซึ่งเป็นล้อหลัง ส่วนเครื่องยนต์ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายทั้งเบนซินและเทอร์โบดีเซล
X1 เป็น SUV น้องเล็กที่ BMW เปิดตัวเมื่อ 6 ปีที่แล้ว โดยตั้งราคาที่ไม่แพงจนเกินไป เพื่อหวังผลทั้งในกลุ่มที่เป็นแฟนของรถยนต์ระดับหรูเอง และกลุ่มที่นิยมซื้อรุ่นท็อปของ SUV จากค่ายอย่าง โฟล์คสวาเกน หรือวอลโว่ โดยพื้นฐานทางวิศวกรรมแชร์ร่วมกับซีรีส์ 3
สำหรับรุ่นใหม่นี้มากับรหัสตัวถัง F48 พร้อมกับพลิกแนวคิดที่เป็น SUV ที่อิงพื้นตัวถังแบบขับเคลื่อน ล้อหน้า ซึ่งแชร์รายละเอียดร่วมกับมินิแวนอย่างรุ่นซีรีส์ 2 และจากความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ทำให้เกิดเครื่องหมายคำถามตามขึ้นมาว่าโฉมใหม่ของซีรีส์ 1 ที่จะเปิดตัวในอีกไม่เกิน 1 ปีนีบจากนี้ จะเปลี่ยนมาใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าไหม จากเดิมที่ใช้แบบขับเคลื่อนล้อหลังมาตั้งแต่รุ่นแรกซึ่งเปิดตัวในปี 2004
พื้นตัวถังแบบขับเคลื่อนล้อหน้ารุ่นนี้มีรหัสว่า UKL1 เปิดตัวครั้งแรกกับซีรีส์ 2 Active และ Gran Tourer ขณะที่มิติตัวถังมากับความยาว 4,439 มิลลิเมตรยาวขึ้นจากเดิม 36 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 21 มิลลิเมตรเป็น 1,821 มิลลิเมตร สูงขึ้น 53 มิลลิเมตรเป็น 1,598 มิลลิเมตรพร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม 85 ลิตรเป็น 505 ลิตร
เครื่องยนต์ของ X1 จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ตามตลาดหลักคือ เวอร์ชันยุโรป ซึ่งจะมีทางเลือกของขุมพลังเบนซิน 3 แบบ sDrive20i ขับเคลื่อนล้อหน้า และ xDrive20i ขับเคลื่อน 4 ล้อใช้ขุมพลัง 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบ 192 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 28.5 กก.-ม. ส่วนอีกรุ่นคือ xDrive25i เบ่งกล้ามเครื่องยนต์บล็อกนี้จนมีกำลังที่ 231 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 35.7 กก.-ม.
ส่วนเทอร์โบดีเซลใช้พื้นฐานของเครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซีแต่ซอยย่อยออกเป็น 3 รุ่น คือ sDrive18d 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 33.6 กก.-ม. ตามด้วย xDrive20d 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 40.7 กก.-ม. และ xDrive25d 231 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 45.8 กก.-ม. ทุกรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรืออัตโนมัติ 8 จังหวะ โดยที่เครื่องยนต์ 3 สูบ 1,500 ซีซี เทอร์โบจะมีตามมาทีหลัง
สำหรับตลาดสหรัฐอเมริกา จะมากับรุ่น xDrive28i ที่ขยับความเร้าใจของเครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซีเป็น 228 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 35.1 กก.-ม. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ใช้เวลา 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 6.3 วินาที โดยที่ยังไม่เปิดเผยว่าจะมีทางเลือกอื่นๆ เข้ามาเสริมตลาดด้วยหรือไม่
ใครที่ยังไม่รีบ และรอของใหม่ อดใจได้อีกไม่นาน ในยุโรปน่าจะเริ่มขายช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ส่วนตลาดอื่นๆ จะเริ่มทยอยวางขายหลังจากนั้น
