ศึกพรีเซ็นเตอร์บะหมี่สำเร็จรูป..ต้องซุปตาร์นะ

การใช้พรีเซ็นเตอร์ระดับซุปตาร์ ค่าตัวระดับ 7-8 หลัก  เป็นสูตรการตลาดของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่ผู้ผลิตเบอร์รองในตลาดอย่าง ไวไว  ยำยำ และนิชชิน นำมาใช้ในการสร้างจุดสนใจ และจดจำในแบรนด์สินค้ามาต่อเนื่อง และกำลังจะคึกคักขึ้นเรื่อยๆ

เนื่องจาก มาม่า ที่ไม่เน้นการใช้พรีเซ็นเตอร์ เคยใช้แค่ครั้งเดียว เมื่อครั้งเป็นสปอนเซอร์ให้กับ รายการ “เอเอฟ” จนเมื่อผลกระทบจากเศรษฐกิจซบเซา ทำเอายอดขายตกต่ำในรอบ 42 ปี  งานนี้ มาม่าเลยต้องคว้านางเอกซุปตาร์เบอร์ 1 อย่าง อั้ม พัชราภา มาเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณา “มาม่า” ด้วยความยาว 45 วินาที เพื่อเรียกความคึกคักของตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกลับมาอีกครั้ง

ส่วนคู่แข่งที่สร้างความคึกคักกันด้วยพรีเซ็นเตอร์ ต้องเริ่มที่ “ยำยำ” ใช้พรีเซ็นเตอร์ขวัญใจมหาชนมาโดยตลอดทั้ง บี้ สุกฤษฎิ์ , ณเดชน์ และ ญาญ่า เพื่อมาเป็นแม่เหล็กมาดึงดูดกระแสให้กับแบรนด์ “ยำยำ” ยังอยู่ในสปอร์ตไลต์

ทางด้าน ไวไว เลือกนางเอกช่อง 7 แพนเค้ก เขมนิจ เข้ามาช่วยเพิ่มสีสันให้กับแบรนด์ และให้เข้าถึงฐานลูกค้าในระดับแมส และล่าสุดยังใช้พระเอกสุดฮอตอย่าง อนันดา เอเวอริ่งแฮม มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับ “รสหอยลายผัดฉ่าแห้ง” ซึ่งเป็นรสใหม่ของไวไวอีกด้วย

ในขณะที่ “นิสชิน” บะหมี่สายพันธ์ญี่ปุ่นก็ไม่น้อยหน้าดึงเอาพระเอกพันล้านอย่าง มาริโอ้ เมาเร่อ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนไทยคนแรกหวังตีตลาดคนรุ่นใหม่และสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ในวงกว้าง

จะเห็นได้ว่าปัจจุบันตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแต่ละแบรนด์มีการปรับตัวจากการโฆษณาที่เคยเน้นเพียงแต่รสชาติของสินค้าเท่านั้น หันมาใช้กระแสของพรีเซ็นเตอร์ในการดึงดูดและจูงใจผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
จึงไม่แปลกที่ได้เห็นซุปตาร์ตัวพ่อหรือซุปตาร์ตัวแม่ที่มีค่าตัวระดับ 8 หลัก มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีราคาเริ่มต้น แค่ 5 บาท

**พรีเซ็นเตอร์ช่วยได้แค่ไหน

ผศ.เสริมยศ  ธรรมรักษ์  หัวหน้าภาควิชาสื่อสารแบรนด์ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ให้ความเห็นว่า การที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นิยมใช้พรีเซ็นเตอร์ที่เป็น “ดาราดัง” มีฐานแฟนคลับสูง เนื่องจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจัดเป็นประเภทสินค้าที่ผู้บริโภคมีความผูกพันกับแบรนด์ต่ำ เปลี่ยนแปลงได้ง่าย ไม่ต้องคิดเยอะ ซื้อจากความชอบและความเคยชิน วันนี้เคยซื้อแบรนด์นี้ พรุ่งนี้อาจซื้ออีกแบรนด์นึง การใช้พรีเซ็นเตอร์ที่โดนใจจะช่วยดึงดูดผู้บริโภคได้ง่าย แต่ต้องทำโฆษณาให้เห็นบ่อยๆ และเป็นที่จดจำอยู่เสมอ

ส่วนกลยุทธ์การใช้พรีเซ็นเตอร์ของต่ละแบรนด์จะพบว่า “มาม่า” ถึงจะเป็นเจ้าตลาด และคนส่วนใหญ่เรียกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปว่ามาม่าจนติดปาก แต่ “ไม่ใช่ทุกคนจะซื้อมาม่า เพราะบางคนบอกอยากกินมาม่า แต่ก็อาจจะซื้อยำยำหรือไวไว” เพราะฉะนั้นมาม่าจึงต้องทำให้คนจดจำมาม่า ซื้อมาม่าให้ได้

การทุ่มงบใช้ อั้ม พัชราภา เพื่อต้องการตอกย้ำความเป็นเบอร์ 1 ในตลาด อั้มเป็นนางเอกเบอร์ 1 ที่ใครๆ ก็รู้จัก สิ่งที่มาม่าได้จากอั้มคือความเป็นแมส ความดัง และกระแสที่แรง

“การใช้จุดเด่นความสวยและเซ็กซี่เข้ามาช่วยให้โฆษณาที่ขายรสชาติความแซบดูน่าสนใจยิ่งขึ้น รวมไปถึงการใช้คีเวิร์ดในโฆษณาที่จดจำง่ายและคนสามารถนำไปพูดต่อในโลกโซเซียลได้

สำหรับ การที่ “ไวไว” เลือกใช้ อนันดา มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับรสใหม่หอยลายผัดฉ่า ต้องการพรีเซ็นเตอร์หน้าไม่ช้ำ ถ้าเทียบกับคนอื่นๆ แล้ว อนันดา เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้สินค้าไม่เยอะ คนจะสามารถจดจำได้ง่ายกว่า 

สำหรับ “ยำยำ” ด้วยการเป็นแบรนด์เบอร์ 3 ในตลาด จึงมองหาพรีเซ็นเตอร์ที่จะดึงดูดและครองใจคนส่วนใหญ่ การเลือกใช้ ณเดชน์กับญาญ่า ถือเป็นการผนึกกำลังของแฟนคลับของทั้งคู่ ยำยำกลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง การใช้คนเดียวก็อาจจะไม่พอ 

แต่นอกเหนือจากการแข่งกันที่พรีเซ็นเตอร์แล้ว การออกรสชาติใหม่ๆ ก็เป็นอีกกลยุทธ์สำคัญ เพราะการออกรสชาติใหม่ในแต่ละครั้งนอกจากจะช่วยกระตุ้นยอดขายแล้วยังทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกเพิ่มขึ้น ไม่เบื่อ และสร้างสีสันให้ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป