แบรนด์ญีปุ่น กำลังกลับมารุ่งอีกครั้ง JWT เครือบริษัททางด้านการสื่อสารการตลาด เผยผลสำรวจเกี่ยวกับแบรนด์สินค้าหรือบริการของญี่ปุ่น บ่งชี้จุดเด่นด้านแนวคิดแตกต่างและนวัตกรรมโดดเด่นเอื้อให้มีโอกาสเติบโตสูงในตลาดเอเชีย พร้อมแนะช่องทางแบรนด์ญี่ปุ่นเจาะตลาดให้ตรงจุดและเพิ่มความดึงดูดเพื่อคว้าใจผู้บริโภคเอเชีย
ดถอยในประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้บริษัทข้ามชาติรุ่นใหม่หลายบริษัทจากประเทศญี่ปุ่นตัดสินใจก้าวเข้าสู่ตลาดเอเชีย โดยจากรายงานขององค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) ในปี 2557 พบว่า บริษัทจากประเทศญี่ปุ่นได้อัดฉีดเม็ดเงินเพื่อการลงทุนในต่างประเทศมากถึง 135 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 4,578 พันล้านบาท) ในปี 2558 ซึ่งมากที่สุด ในรอบ 5 ปี โดยภูมิภาคที่บริษัทจากประเทศญี่ปุ่นได้เข้ามาลงทุนมากเป็นอันดับหนึ่งคือภูมิภาค “อาเซียน” ซึ่งภูมิภาคนี้มีผู้บริโภคมากถึง 600 ล้านคน และกำลังจะก่อตั้งเขตการค้าเสรีของตนเองในปลายปีนี้
อย่างไรก็ตาม บริษัทญี่ปุ่นเหล่านี้จำเป็นต้องแข่งขันกับแบรนด์ท้องถิ่นที่ผู้บริโภคคุ้นเคย และแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศในโลกตะวันตก เนื่องจากบริษัทจากประเทศญี่ปุ่นเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการมากกว่าการสร้างความแตกต่างให้แบรนด์
เจ. วอลเตอร์ ธอมสัน เอเชีย แปซิฟิก (JWT) เครือบริษัททางด้านการสื่อสารการตลาด เผยผลสำรวจเกี่ยวกับแบรนด์สินค้าหรือบริการของญี่ปุ่น บ่งชี้จุดเด่นด้านแนวคิดแตกต่างและนวัตกรรมโดดเด่นเอื้อให้มีโอกาสเติบโตสูงในตลาดเอเชีย พร้อมแนะช่องทางแบรนด์ญี่ปุ่นเจาะตลาดให้ตรงจุดและเพิ่มความดึงดูดเพื่อคว้าใจผู้บริโภคเอเชีย
ได้ทำการสำรวจผู้บริโภคจำนวน 3,200 คน ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ถึง 49 ปี ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ ในทวีปเอเชีย ได้แก่ อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม, ไทย, จีน และอินเดีย โดยผลสำรวจนี้ ยังระบุแนวทาง 5 ประการที่บริษัทจากประเทศญี่ปุ่นควรนำไปปฏิบัติเพื่อช่วยสร้างและจัดวางตำแหน่งแบรนด์ของตนได้อย่างเหมาะสมในตลาดเอเชีย ดังนี้
1. กลุ่มผู้บริโภคในภูมิภาคอาเซียน และประเทศอินเดียชื่นชอบสินค้าและบริการของญี่ปุ่นอย่างมาก อีกทั้งญี่ปุ่นยังเป็นประเทศที่อยากไปท่องเที่ยวลำดับต้นๆ เป็นประเทศในดวงใจ นอกจากนี้ ฉลาก “Made In Japan” ยังเปรียบเหมือน สิ่งการันตีถึงคุณภาพของสินค้า ความน่าเชื่อถือ และเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า ซึ่งจากการสำรวจครั้งนี้พบว่าผู้บริโภคกลุ่มนี้มีแนวโน้มสูงมากที่จะเลือกซื้อสินค้าที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น
2. ดีไซน์ไม่โฉบเฉี่ยว หรอดูมีสไตล์ แม้ความเป็นญี่ปุ่นในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประเทศ สินค้า หรือแบรนด์ จะเป็นที่ชื่นชอบและได้รับการยอมรับทางด้านนวัตกรรมล้ำสมัยและความน่าเชื่อถือ แต่กลับมีปัญหาในด้านดีไซน์ที่ไม่มีเสน่ห์โฉบเฉี่ยว หรือดูมีสไตล์ ซึ่งจำเป็นต้องแก้ไขโดยการวางกลยุทธ์กำหนดตำแหน่งทางการตลาดของแบรนด์ที่ชัดเจน รวมไปถึงพัฒนาแนวคิดการนำเสนอแบรนด์ให้น่าดึงดูด กว่านี้
3. เพิ่มสื่อออนไลน์ กลุ่มผู้บริโภคเอเชียชอบสื่อออนไลน์และเชื่อว่าแบรนด์ต่างๆ ที่ตนเลือกใช้ช่วยสะท้อนบุคลิกลักษณะของตน ซึ่งแตกต่างจากผู้บริโภคชาวญี่ปุ่น ดังนั้นหากต้องการสื่อสารกับผู้บริโภคเอเชียและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแบรนด์ จะต้องลงลึกด้านกลยุทธ์ด้านดิจิตอลที่ช่วยสื่อสารแนวคิดของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน
4. แบรนด์ตะวันตกไม่ได้ดีกว่าเอเชีย อาเซียนถือเป็นภูมิภาคที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อแบรนด์จากประเทศญี่ปุ่น ผู้บริโภคในภูมิภาคที่มีอัตราการเติบโตสูงนี้ชื่นชมประเทศญี่ปุ่นมาก และพร้อมเปิดรับแบรนด์สินค้าหรือบริการใหม่ๆ เสมอ นอกจากนี้ผู้บริโภคกลุ่มดังกล่าวไม่ค่อยเชื่อว่า แบรนด์จากตะวันตกจะดีกว่าเอเชียเสมอไป
5. ถ้าจะไปตลาดจีนต้องแตกต่าง บริษัทของญี่ปุ่นที่ต้องการเจาะตลาดในประเทศจีนนั้นจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างจากตลาดอื่นๆ