ที่ผ่านมา โปรโมชั่น ของ 3 โอปะเรเตอร์ ที่แข่งกันอย่างดุเดือดเวลานี้ เพื่อดึงดูดลูกค้ามาอยู่ในเครือข่าย มักจะมุ่งไปที่ผู้ใช้บริการรายเดือน หรือ โพสท์เพด ฐานลูกค้ากลุ่มแรกๆ ที่จะขยับมาสู่การใช้บริการ 3 จี และ 4 จี ส่งผลต่อปริมาณใช้ “ดาต้า”ให้เพิ่มขึ้นด้วย
คราวนี้มาถึงคิวของตลาด “พรีเพด” หรือระบบเติมเงิน มีขนาดตลาดใหญ่มากกว่าโพสท์เพดหลายเท่าตัว แต่ผู้ใช้บางคนยังยึดมั่นกับการใช้โทรศัพท์มือถือแบบฟีเจอร์โฟนอยู่ การกระตุ้นให้ผู้คนกลุ่มนี้หันมาใช้สมาร์ทโฟน จึงเป็น “โจทย์” ที่ดีแทคเลือกนำใช้สำหรับการทำตลาดให้กับแบรนด์แฮปปี้ หรือระบบเติมเงิน เพราะจะเป็นการขยายฐานผู้ใช้ดาต้าให้กว้างออกไปได้อีก
จึงเป็นที่มาองแคมเปญ “ซื้อสมาร์ทโฟน ต้องใช้คู่แฮปปี้” โดยจะได้สิทธิพิเศษในเรื่องค่าโทร และการใช้อินเตอร์เน็ต เมื่อซื้อสมาร์ทโฟนพร้อมซิบแฮปปี้
มร. ซิกวาร์ท โวส เอริคเซน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “โดยปกติแฮปปี้จะใช้กลยุทธ์ในการออกซิมใหม่ พร้อมโปรโมชั่นใช้ไลน์ เฟซบุ๊ค หรือโควต้าการใช้ดาต้าต่างๆ แต่ในยุคปัจจุบันแค่ซิมอย่างเดียวไม่สามารถสร้างสีสัน และความตื่นเต้นในตลาดได้เพียงพอ เพราะผู้บริโภคให้ความสนใจเกี่ยวกับเครื่องโทรศัทพ์ รูปทรง ราคามากขึ้น เรายังพบว่าลูกค้าจะมีการใช้งาน และใช้จ่ายมากขึ้น 10-30% เมื่อเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟน
โปรโมชั่นนี้ได้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มด้วยกันตามระดับราคาของสมาร์ทโฟน กลุ่มที่ 1 คือ ราคาต่ำกว่า 1,000 บาท ทำตลาดโดย Happy Phone กลุ่มที่ 2 คือ ราคาตั้งแต่ 1,000 – 4,000 บาท ทำตลาดโดย dtac Phone และกลุ่มที่ 3 คือ ราคาตั้งแต่ 4,000 – 10,000 บาท ได้ทำการเป็นพาร์ทเนอร์กับ “ซัมซุง” และ “ไอ-โมบาย” ในการที่พ่วงซิมแฮปปี้ไปกับเครื่องที่ร่วมรายการ พร้อมให้สิทธิพิเศษเรื่องค่าโทร และการใช้ดาต้า
สาเหตุที่แฮปปี้เลือกซัมซุง กับไอ-โมบาย เพราะทั้ง 2 แบรนด์มีส่วนแบ่งการตลาดค่อนข้างสูงรวมกันเกือบ 60% ในตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลาง ที่มีราคาตั้งแต่ 4,000 – 12,000 บาท
ในช่วงแรกใช้งบการตลาด 40 ล้านบาท เพราะสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแคมเปญ พร้อมทั้งตั้งเป้าที่จะมีลูกค้าจากการซื้อสมาร์ทโฟนพร้อมซิปแฮปปี้ราว 650,000 ซิม และตั้งเป้าว่าภายในสิ้นปีนี้ลูกค้าของดีแทคทั้งหมดจะมีการใช้ดาต้า 60% จากเดิมที่มีการใช้ 50%
