ดูท่าความพยายามของโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ในการช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดของกูเกิลจะยังไม่เป็นผล เพราะล่าสุด ในการแถลงผลประกอบการในไตรมาสที่ผ่านมาของกูเกิล (เมษายน-มิถุนายน) ตัวเลขที่ออกมาสามารถทำให้นักลงทุนยิ้มแก้มปริ เนื่องจากทำได้เหนือกว่าที่คาด แถมหุ้นของกูเกิลยังพุ่งขึ้นสูงสุดถึง 12 เปอร์เซ็นต์ หลังการแถลงผลประกอบการดังกล่าวด้วย
ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของกูเกิลไม่เพียงแต่สร้างความพอใจให้ทุกฝ่าย แต่นี่ยังเป็นครั้งแรกในรอบ 18 เดือน ที่กูเกิลสามารถทำได้เหนือกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ด้วย
โดย Ruth Porat ผู้บริหารระดับสูงด้านการเงินของกูเกิลได้เผยว่า ผลประกอบการไตรมาสนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของกูเกิล โดยเฉพาะในธุรกิจเสิร์ช ยูทิวบ์ และระบบโฆษณา
สำหรับแหล่งรายได้หลักของกูเกิลคือ เว็บไซต์กูเกิล ซึ่งทำเงินได้ 12,402 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 ของปีก่อนหน้า 13 เปอร์เซ็นต์) อันดับ 2 มาจากเว็บไซต์สมาชิกเครือข่ายของกูเกิล 3,621 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนรายได้จากโฆษณานั้นมีมูลค่า 16,023 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 ของปีก่อนหน้าถึง 11 เปอร์เซ็นต์ รวมรายได้ทั้งหมดในไตรมาสนี้เท่ากับ 17,727 ล้านเหรียญสหรัฐ
ขณะที่กำไรสุทธิของกูเกิลในไตรมาสนี้เท่ากับ 3.93 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ผลก็คือ ชื่อ (หุ้น) ของกูเกิลยังรักษาอันดับชื่อที่มีมนต์ขลังเป็นอันดับ 2 รองจากชื่อ “แอปเปิล” ในตลาดทุนสหรัฐอเมริกาต่อไป
อย่างไรก็ดี ในรายงานของกูเกิลพบว่า ค่าใช้จ่ายของบริษัทมีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่ทาง CFO ของกูเกิลเผยว่า หากเทียบกับไตรมาสแรกของปีแล้วจะพบว่า ค่าใช้จ่ายของกูเกิลนั้นกำลังลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีวินัย และจะพบว่า กูเกิลมีค่าใช้จ่ายทางด้านกฎหมายน้อยลงด้วย
