แม้จะแถลงผลประกอบการในไตรมาสล่าสุดไปแล้ว แต่เชื่อว่าสาวกและผู้ที่ไม่ใช่สาวกแอปเปิล (Apple) ต่างรู้สึกค้างคากับผลการดำเนินงานที่ได้รับทราบ เพราะนอกจากการชูตัวเลขไอโฟนที่สูงเป็นประวัติการณ์แล้ว ตัวเลขยอดขายของแอปเปิลวอตช์กลับอันตรธานไปอย่างไร้ร่องรอย
การตัดสินใจไม่เปิดเผยยอดขายของนาฬิกาแอปเปิลวอตช์เป็นสิ่งที่ซีอีโอ ทิม คุก เผยกับนักลงทุนเมื่อวันแถลงผลประกอบการ โดยเขากล่าวว่า มันไม่ใช่เรื่องของความโปร่งใส-ไม่โปร่งใส แต่เป็นเพราะว่าไม่ต้องการให้คู่แข่งได้รับทราบข้อมูลภายในของโปรดักต์ตัวนี้เท่านั้นเอง
โดยแอปเปิลได้โยกรายได้จากแอปเปิลวอตช์ไปไว้ในหมวด Other ซึ่งรายได้ในหมวดนี้นอกจากนาฬิกาแล้วยังมีไอพ็อด (iPod) สินค้ายี่ห้อ Beats, แอปเปิล ทีวี (Apple TV) และอื่นๆ อีกมากมาย
แต่ถ้าหากเปรียบเทียบกับยอดขายของไตรมาสก่อนหน้า จะพบว่าหมวด Other ของแอปเปิลในไตรมาสนี้มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 56 เปอร์เซ็นต์ หรือเท่ากับมูลค่า 2.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งๆ ที่โปรดักต์ในหมวด Other อย่างไอพ็อดนั้นก็มีรายงานว่า ยอดขายได้ลดลงอย่างมากด้วย ดังนั้น นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จึงเชื่อว่า สาเหตุที่รายได้ในหมวดเพิ่มขึ้นขนาดนี้ต้องมาจากยอดขายของแอปเปิลวอตช์เป็นแน่
อีกทั้งหากสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์จากค่ายต่างๆ จะพบว่า นักวิเคราะห์เหล่านั้นตั้งธงตัวเลขยอดขายแอปเปิลวอตช์เอาไว้ที่ 2.5-3 ล้านเรือนกันทั้งสิ้น
ส่วนซีอีโอ ทิม คุก ระบุแต่เพียงว่า “ยอดขายของวอตช์นั้นถือว่าสูงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ และมีความต้องการซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งไตรมาส”
โดยสาเหตุที่ทิม คุกพูดถึงเรื่องนี้ เนื่องจากมีประเด็นว่า ยอดขายของแอปเปิลวอตช์ในเดือนมิถุนายนนั้นต่ำกว่าเดือนเมษายนนั่นเอง ซึ่งทิม คุกได้ชี้แจงว่า ยอดขายของวอตช์ในเดือนมิถุนายนนั้นสูงกว่าเดือนเมษายนและพฤษภาคม พร้อมกับบอกว่านี่เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับแอปเปิลวอตช์ด้วย
ความเคลื่อนไหวของนักวิเคราะห์หลังจบการแถลงผลประกอบการของแอปเปิลนั้น ฟรานซิสโก เจอโรนิโม นักวิเคราะห์จากไอดีซีได้ทวีตข้อความเกี่ยวกับผลประกอบการของแอปเปิลและยอดขายแอปเปิลว่า
สิ่งหนึ่งที่เขาแน่ใจก็คือ แอปเปิลสามารถขายนาฬิกาในไตรมาสนี้ได้มากกว่าสมาร์ทวอตช์ยี่ห้ออื่นขายได้รวมกันแน่นอน
ขณะที่แคโรไลนา มิลาเนซี นักวิเคราะห์จาก Kantar WorldPanel เผยว่า “เราได้มีการสำรวจผู้บริโภคในอังกฤษเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก่อนที่แอปเปิลวอตช์จะวางจำหน่ายไม่นาน และถามพวกเขาว่า หากต้องซื้อ Wearable Device สักชิ้นพวกเขาจะซื้ออะไร ซึ่งมีถึง 69 เปอร์เซ็นต์บอกว่าจะซื้อสินค้าของแอปเปิล”
แต่อย่างไรก็ตาม หลังการแถลงผลประกอบการ หุ้นของแอปเปิลร่วงลงค่อนข้างหนัก ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากความวิตกกังวลของนักลงทุนว่า แอปเปิลกำลังพึ่งพิงรายได้จากไอโฟนเป็นหลัก ขณะที่อีกส่วนหนึ่งค่อนข้างผิดหวังกับตัวเลขคาดการณ์ผลการดำเนินงานในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ จึงทำให้เรื่องของยอดขายแอปเปิลวอตช์ที่ยังเป็นปริศนากลายเป็นประเด็นสำหรับนักลงทุนว่ามันจะ “รุ่ง” กลายเป็นโปรดักต์ยอดนิยมตัวต่อไปของแอปเปิล หรือจะ “ร่วง” ไปพร้อมๆ กับโปรดักต์ตัวอื่นๆ นั่นเอง
นั่นจึงอาจเป็นเหตุผลที่แท้จริงว่า ทำไมแอปเปิลจึงต้องปิดบังยอดขายไตรมาสแรกของแอปเปิลวอตช์เอาไว้ก็เป็นได้
ที่มา : http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000083252
