ในอนาคตคอนโดจะไม่ได้มีจุดขายแค่ทำเลติดรถไฟฟ้าอีกต่อไป แต่จะต้องมีเรื่องของนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคนี้
อย่างที่รู้กันว่า อนันดาฯ นั้น วางจุดยืนชัดเจนว่า ต้องการมุ่งจับกลุ่ม Gen C โดยคนกลุ่มนี้ ความ Convenience หรือ ความสะดวกสบาย และ Connect การออนไลน์ เชื่อมต่อรับรู้ข้อมูลข่าวสาร เป็นหนึ่งไลฟ์สไตล์ของคน Gen C
จึงเป็นที่มาของการจับมือกันระหว่าง “อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์” และ “ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์” เพื่อนำเทคโนโลยี “Samsung Smart Home” มาใช้ในโครงการของ อนันดาฯ ประเดิม ด้วยโครงการ “คิว เทอร์ตี้ วัน (Q31)” ทำเลสุขุมวิท 31 มูลค่าโครงการราว 500 ล้านบาท
โครงการนี้เป็นการผสมผสานกันระหว่างเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) และ Smart Home เป็นการรวมของเทคโนโลยีที่สามารถเพิ่มคุณภาพชีวิต และการใช้งานของคนเมืองให้ดียิ่งขึ้น โดยใช้จุดแข็งของซัมซุงที่เป็นแบรนด์ที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าครบทุกหมวด
หลักการทำงานของสมาร์ทโฮมนั้น จะนำเทคโนโลยี Internet of Things มาเป็นแพลตฟอร์มการทำงานเชื่อมต่อกันระหว่าง “ดีไวซ์” ต่างๆ แบบไร้สายผ่านอินเทอร์เน็ต มีการสื่อสารระหว่างเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ชนิดต่างๆ เพื่อทำงานตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย ซึ่งแตกต่างจาก “โฮม ออโตเมชั่น” ที่การทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ นั้น มนุษย์จะต้องเป็นผู้สั่ง
อนันดาฯ และซัมซุง จะนำข้อมูลจากการศึกษาลูกค้าที่ได้มาใช้ร่วมกัน เพื่อนำมาออกแบบฟังก์ชั่น การทำงานต่างๆ ของ ซัมซุง สมาร์ท ตรงกับพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยรายบุคคล เน้น ความสะดวก ปลอดภัย และดูแลสุขภาพ อย่างเช่น นวัตกรรมการส่งสัญญาณแจ้งเตือน เมื่อผู้สูงอายุหกล้มและหมดสติ ระบบความปลอดภัยและการเตือนสำหรับการเปิด-ปิดประตูแม้แต่หน้าต่าง หรือการคอนโทรลระบบไฟฟ้าต่างๆ ในห้องนอนเด็ก
ชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บอกว่า การตัดสินใจนำ Smart Home ของซัมซุงมาใช้ในโครงการที่อยู่อาศัยของอนันดาฯ เพราะเชื่อว่าเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) และ Smart Home จะสามารถเปลี่ยนแปลงตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างแท้จริง