ตลาดมือถือจีนเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังบริษัทวิจัยตลาด “การ์ทเนอร์” (Gartner) พบข้อมูลว่า ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ยอดขายสมาร์ทโฟนในจีนลดลง 4 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ค.ศ.2014
ตัวเลขดังกล่าวทำให้นักวิเคราะห์มองว่า ตลาดมือถือของจีนเริ่มเข้าสู่ภาวะอิ่มตัว ซึ่งสภาพตลาดในลักษณะนี้คือ มีการถือครองสมาร์ทโฟนแล้วมากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งประเทศ และรอบการใช้งานก่อนจะอัปเกรดเครื่องใหม่ก็ทอดเวลานานออกไปกว่าเดิม
โดยตัวเลขจากการ์ทเนอร์ ระบุว่า ผู้ผลิตที่มียอดขายตกต่ำ ได้แก่ ซัมซุง (Samsung) ที่แม้จะเปิดตัวแกแล็กซี่ เอส 6 ออกมาก็ไม่สามารถทำยอดขายเพิ่มได้ดังหวัง และพบว่ายอดขายของซัมซุงลดลงถึง 48.9 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่เลอโนโว (Lenovo) ก็มียอดขายตกต่ำมากเช่นกัน โดยลดลงถึง 42.7 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ดี ผู้ที่ยังคงโกยรายได้จากตลาดจีนก็ยังมีอยู่ นั่นก็คือ แอปเปิล (Apple) ที่มียอดขายเพิ่มขึ้น 68 เปอร์เซ็นต์ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา แม้บริษัทจะไม่มีการเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นใหม่ออกมาเลยก็ตาม
แต่ถ้าเป็นบริษัทสัญชาติจีนนั้น พบว่า หัวเว่ย (Huawei) มียอดขายเพิ่มขึ้นสูงที่สุด อยู่ที่ 45.9 เปอร์เซ็นต์ ตามมาด้วยเสี่ยวหมี่ ในอันดับ 2 ที่ 13.4 เปอร์เซ็นต์
Anshul Gupta ผู้อำนวยการของ Gartner Research เผยว่า ยอดขายของซัมซุงลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งไม่เฉพาะแค่ในจีน แต่ตลาดอื่นๆ ก็ลดลงเช่นกัน ซึ่งน่าจะมาจากการออกแบบตัวเครื่อง เอส 6 เอดจ์ที่ใช้หน้าจอแบบ Curved Screen ที่ไม่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคนั่นเอง
นอกจากนี้ เขายังได้วิเคราะห์ว่า ต่อไปผู้ผลิตจากจีนจะขึ้นมามีบทบาทมากขึ้นในตลาดมือถือของประเทศตนเอง
ปัญหาเรื่องหน้าจออาจเป็นที่มาของยอดขายซัมซุงที่ไม่ดีอย่างที่ควรจะเป็น / ภาพจากรอยเตอร์ส
แต่สิ่งสำคัญที่ มร.Gupta เน้นย้ำถึงภาพรวมในไตรมาสนี้ก็คือ นี่เป็นครั้งแรกที่ยอดขายรวมของตลาดมือถือจีน “ลดลง” และสิ่งที่บริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือทั้งหลายต้องให้ความสำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ ตลาดจีนครอบครองส่วนแบ่งถึง 30 เปอร์เซ็นต์ของตลาดทั้งหมด หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นตลาดมือถือที่ใหญ่ที่สุดในโลก
“การที่ตลาดสมาร์ทโฟนในจีนเริ่มเข้าสู่ภาวะอิ่มตัว ยอดขายจึงขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาเปลี่ยนเครื่องใหม่บ่อยแค่ไหน อาจจะทุก 18 เดือน หรือ 24 เดือน หรือนานกว่านั้น”
อย่างไรก็ดี มร.Neil Mawston ผู้บริหารระดับสูงจาก Strategy Analytics ได้ออกมาเผยว่า ยอดขายสมาร์ทโฟนในจีนมีแนวโน้มจะพุ่งสูงที่สุดในช่วงไตรมาสแรกของปี โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ชาวจีนมีการจับจ่ายใช้สอยสูงที่สุด และการเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ ก็มักเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ดังนั้น การจะคาดการณ์ว่าตลาดมือถือในจีนเข้าสู่ภาวะอิ่มตัวแล้วหรือไม่นั้นอาจต้องอาศัยเวลาในการพิจารณาต่ออีกสักระยะ
โดยข้อมูลของ Strategy Analytics พบว่า ยอดขายสมาร์ทโฟนในจีนมีการเติบโตลดลงถึง 29 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี ค.ศ.2014
“เศรษฐกิจจีนไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่มันควรจะเป็น และการพัฒนานวัตกรรมในกลุ่มผู้ผลิตสมาร์ทโฟนของประเทศก็เหมือนสะดุดลงชั่วคราวด้วย” มร.Mawston กล่าว