All New Zoomer-X “UNBLOCKER, I AM” ทะลุกรอบความคิดจำเจ สร้างตัวตนเท่ๆ แบบไร้ขีดจำกัด

กลายเป็นกระแสกระหึ่มเต็มโลกออนไลน์ เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อ Influencer ทั้งบนโลกออนไลน์ และออฟไลน์ต่างลงภาพในสื่อโซเชียลส่วนตัวอย่างอินสตาแกรม และเฟซบุ๊กพร้อมสร้างแฮชแท็ก #IAMNOT พร้อมกัน 
 
ไม่ใช่มีเพียงแค่ Influencer อย่างเดียวเท่านั้น ผู้ใช้คนอื่นก็ขออินกับกระแสด้วยการระบุตัวตนของตัวเองกับเขาบ้าง ทำให้แฮชแท็กเป็นที่รู้จักกันเป็นวงกว้าง อีกทั้งยังได้สร้างคำถาม และความน่าสนใจให้แก่แฟนคลับ และบุคคลทั่วไปไว้พอสมควร 
 
 
นอกจากนั้นยังมีคลิปวิดีโอในเว็บไซต์ยูทิวบ์ด้วยเช่นกัน ในชื่อว่า “พบคำตอบในสิ่งที่เราเป็นพร้อมกัน เร็วๆ นี้ #IAMNOT 1” และ #IAMNOT 2 เป็นการรวบรวม Influencer ตัวพ่อตัวแม่ในแต่ละด้านมาอยูในคลิปวิดีโอเดียวกัน ถือว่ามากที่สุดในประวัติการณ์เลยก็ว่าได้ ได้แก่ เน็ตไอดอล – พิมฐา และบูม, นักแสดง – จูนจูน พัชชา, ดีไซเนอร์ – ผ้าป่าน สิริมา, เจ้าของธุรกิจ – บาส เทพวรรณ แห่ง Zaap Organization, ศิลปินนักร้อง และวงดนตรี – จีน กษิดิศ และวงโพลี่แค็ต, แฮร์สไตลิสต์ – ซัน Smile Club, กราฟิกดีไซน์ – Alex Face และ นักเขียน – วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล
 
 
โดยที่หลังจากนั้นได้มีการเฉลยว่าเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ UNBLOCKER, I AM ที่มาพร้อมกับการเปิดตัว All New Zoomer-X รถมอเตอร์ไซต์สำหรับวัยมันส์ ด้วยดีไซน์สไตล์ Real Naked A.T. เน้นแก่นไม่เหมือนใคร มาพร้อมโฉมใหม่ โครงเหล็กแบบ Tough Frame ทำให้ดูเท่มากขึ้น และแข็งแรงขึ้น Digital X-Meter ที่หน้าปัดเป็นระบบ Digital LCD รวมไปถึงการนำ Honda Smart technology เข้ามาใช้ ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของ Zoomer-X อีกด้วย 
 
เมื่อย้อนกลับมาดูที่ใจความสำคัญของแคมเปญนี้ และที่มาของ #IAMNOT ก็คือการที่ Influencer แต่ละคนพูดถึงในตัวตนของตนเองที่คนอื่นมอง กับตัวตนที่แท้จริงของตนเองอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้ อย่างเช่น “พิมฐา” ที่ทุกคนให้คำจำกัดความว่าเธอเป็นเน็ตไอดอล แต่ในความเป็นจริงแล้วตัวตนที่แท้จริงเธออาจจะเป็นแค่บุคคลธรรมดาทั่วไป ที่รักการท่องเที่ยว และการถ่ายภาพ
 
 
ไปจนถึงแก่นที่แท้จริงของแคมเปญ UNBLOCKER, I AM ที่ต้องการสื่อสารถึงการฉีกกรอบกับคำจำกัดความเดิมๆ กรอบที่หลายๆ คนเรียก หลายคนบัญญัติให้ โดยที่ความจริงแล้วอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้ก็ได้ ซึ่งตัวตนที่แท้จริงนั้นต้องสร้างด้วยตัวเองเท่านั้น
 
 
ความสำเร็จของแคมเปญนี้นอกจากจะได้ในเรื่องของพลังจาก Influencer ที่มาช่วยสร้างกระแสได้เป็นอย่างดีแล้ว วิธีการสื่อสารทางการตลาดก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคคนรุ่นใหม่มากขึ้น เห็นได้ว่าเป็นการทำ”โฆษณาที่ไม่ใช่โฆษณา” เข้าไปในพื้นที่ที่คนรุ่นใหม่อยู่นั่นก็คือโซเชียลมีเดีย ส่วนตัวแคมเปญเองได้เล่าเรื่อง และสื่อสารผ่าน “Emotional” ให้ผู้บริโภครู้สึกอินไปด้วยกัน และมีความรู้สึกดีกับแบรนด์มากขึ้น