เผยเรทติ้ทีวีดิจิตอล กันยายน 258 ไทยรัฐ ได้ฟุตบอลไทย-อิรัก ดันเรทติ้งพุ่งกระฉูด แซงช่อง7 และช่อง 3 เป็นครั้งแรก
สำนักนโยบายและวิชาการกระจำยเสียงและโทรทัศน์ (วส.) รายงานงความเคลื่อนไหวของช่อง “ทีวีดิจิตอล” ในเดือนกันยายน 2558 ช่องไทยรัฐจะได้แต้มต่อมาจาก การถ่ายทอดฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกโซนเอเซีย กลุ่มเอฟ ระห่างทีมชาติไทย และทีมชาติอิรัก เมื่อวันอังคารที่ 8 กันยายน 2558 ทีผ่านมา ส่งผลให้เรทติ้งของช่องไทยรัฐ ถ่ายทอดสด ตั้งแต่เวลา 18.30 น -21.30 น เพิ่มสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะช่วง 19.00 น – 21.00 น ที่การแข่งขันเริ่มขึ้นจนจบเกม
ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก การแข่งขันฟุตบอลไทยเป็นที่นิยมมากขึ้น การแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทย และอิรัก จึงเป็นนัดที่คนไทยเฝ้ารอดูเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นคู่แข่งขันที่น่าสนใจ เคยพบกันมา 13 ครั้ง ผลัดกันแพ้ชนะมาตลอด ยิ่งเมื่อทีมไทยมีผลงานโดดเด่นขึ้น ก็ยิ่งได้รับความสนใจ
ส่งผลให้เรทติ้งคนดูไทยรัฐในวันที่ถ่ายทอดสด คือ วันอังคาร 8 กันยายน 2558 เทยบกับวันเดียวของสัปดาห์ก่อนหน้า และสัปดาห์ถัดไป เพื่อให้เห็นแนวโน้มที่ชัดเจนขึ้น ในวังอังคารที่ 1 และ 15 กันยายน พบว่า ไทยรัฐทีวีมีเรทติ้งเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉลี่ยที่มีการแข่งขันฟุตบอลช่วงเวลา 19.00-21.00 เรทติ้งเพิ่มเป็น 7.519 หรือคิดเป็นคนดูทั่วประเทศ เฉลี่ยสูงถึง 4,939,460 ล้านคนต่อนาที เพิ่มจากการออกออกอากาศรายการปกติในวันเดียวกัน 13 เท่า และมากกว่าเรทติ้งของช่อง 7 ซึ่งปกติจะเป็นช่องที่มีเรทติ้งสูง
นอกจากนี้ เมื่อนำไปเปรียบเทียบช่องรายการอื่นๆ พบว่า ในช่วงที่มีการถ่ายทอดสดฟุตบอล ช่องอื่นๆ ผู้ชมไม่ได้ลดลงมากนัก แต่ช่องที่ผู้ชมลดลง คือ ช่อง เวิร์คพ้อยท์ทีวี ช่อง One ช่อง Mono29 ช่อง3 และช่อง 7 ซึ่งเป็นไปได้ว่าทั้ง 5 ช่อง เป็นที่มีเรทติ้งสูงเป็น 5 อันดับแรก เมื่อผู้ชมเกิดความเคลื่อนไหว จึงสังเกตเห็นได้ชัดกว่าช่องอื่นๆ
ทั้งนี้ช่วงถ่ายทอดสดฟุตบอล เป็นช่วงที่ช่องดังกล่าวออกอากาศละครก่อนข่าวภาคค่ำ และเกมโชว์วาไรตี้ จึงเป็นไปได้ว่า กลุ่มผู้ชมที่ชื่นชอบรายการบันเทิง ละคร หรือเกมโชว์ เป็นหลัก มีบางกลุ่มพร้อมจะปรับเปลียนไปชมรายการกีฬา ซึ่งเป็นรายการเฉพาะทาง โดยเป็นกลุ่มทีติดตามความเคลื่อนไหวด้านกีฬาอยู่บ้าง
อย่างไรก็ตาม การผู้ชมดูถ่ายทอดสดฟุตบอลช่องไทยรัฐทีวีเพิ่มขึ้นมากถึง 5 ล้านคนต่อนาที ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไปดึงเอากลุ่มคนดูใหม่ ที่ปกติแล้วไม่ชอบดูรายการโทรทัศน์ แต่ดูช่องเคเบิลทีวี/ทีวีดาวเทียม ซึ่งตั้งใจมาเปิดโทรทัศน์เพื่อชมรายการฟุตบอล ในวันและเวลานั้นโดยเฉพาะ
ดูได้จากภาพรวมของจำนวนผู้ชมเฉลี่ยต่อนาทีของการเปิดโทรทัศน์ เพื่อรับชมฟรีทีวี 27 ช่อง ในช่วงเวลาดังกล่าว เทียบกับวันเดียวกันของสัปดาห์ก่อน (1 กันยายน 2558) พบว่า ผู้ชมฟรีทีวีเฉลี่ยต่อนาทีเพิ่มขึ้นจาก 6,951,854 คน เป็น 8,309,937 คน หมายความว่า ในช่วง 1 ท่มถึง 3 ทุ่มของวันที่มีการถ่ายทอดสดฟุตบอล มีคนดูเพิ่มขึ้นจากวันที่ออกอากาศรายการปกติ เฉลี่ยเพิ่มขึ้นถึง 1,360,000 คน
มีข้อสังเกตด้วยว่า ถึงแม้จะมีการถ่ายทอดสดผ่านสื่อออนไลน์ด้วย แต่ยังมีคนบางกลุ่มที่ชื่นชอบรับชมจากหน้าจอโทรทัศน์เครื่องใหญ่ เพราะให้อรรถรสในการรับชมมากกว่า เหมาะกับการชมเป็นหมู่คณะ จึงเชื่อว่าโทรทัศน์ยังคงเป็น Main Screen ที่ใช้บริโภคสื่อหลักอยู่
นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบในลักษณะของส่วนแบ่งผู้ชม (% Share Viewer) ในช่วงที่ฟุตบอลกำลังแข่งขันอยู่ พบว่าช่องไทยรัฐ มีส่วนแบ่งผู้ชม 24.07% จากจำนวนผู้ชมทั้งหมดทั่วประเทศ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าช่อง 7 ที่มีส่วนแบ่งผู้ชมในขณะนั้น 20.87% และยังไปดึงส่วนแบ่งผู้ชมช่องเคเบิลทีวี/ทีวีดาวเทียมให้ลดลงด้วย
(ใส่กราฟฟิก ส่วนแบ่งผู้ชมรายการทีวี ระหว่างวันที่ 1 และ 8 ช่วงเวลา 19.00-21.00 น)
เจาะลึกพฤติกรรมคนดูฟุตบอลนาทีต่อนาที
เมื่อมาดูถึงพฤติกรรมผู้ชมฟุตบอลในทุกๆ 5 นาที ตั้งแต่ก่อนเริ่มการแข่งขัน พบว่า
– ผู้ชมมีการเข้า-ออก เพื่อชมรายการตามสถานการณ์แต่ละช่วง
– ผู้ชมเริ่มเข้าชมมากขึ้นก่อนการแข่งเริ่ม 15 นาที (เวลา 18.45 น.)
– เรทติ้งอยู่ที่ 2-3 จนในช่วง 19.00 น ที่บอลเริ่มเตะ เรทติ้งเกือบแตะที่ 4 และสูงขึ้นในทุก 5 นาที ไต่ไปจนถึง 8.2 ตอนจบครึ่งแรก อิรักน่ำก่อน 1 ต่อ 0
– เมื่อจบครึ่งแรกและพักครึ่ง ในช่วง 19.50 – 20.59 พบว่าผู้ชมหายไปส่วนหนึ่ง ค่านิยมอยู่ที่ 5
– มีผู้ชมเพิ่มขึ้นในช่องอื่นๆ 5-10 นาที ในช่วงพักครึ่ง จากนั้นกลับมาดูใหม่ จนถึงนาทีการแข่งขันที่ 49 เมื่ออิรักนำทำประตูขึ้นนำเป็น 2 ต่อ 0 เรทติ้งอยู่ที่ 8.27
– แต่หลังจากอิรักนำห่างไทย คนยิ่งกลับเข้ามาชมกันมากขึ้น จนอยู่ที่ค่าความนิยมประมาณ 9 ตลอดช่วงครึ่งหลัง ยังลุ้นและตามเชียร์ แม้ว่าไทยจะตามอยู่ถึง 2 ลูก จนถึงนาทีที่ 80
– ไทยทำประตูตีตื้นได้ ค่าความนิยมขึ้นไปที่ 10 เพิ่มขึ้นอีกจนถึงช่วงนาทีที่ 84 ที่ไทยทำประตูเสมอได้ คนดูยิ่งมาลุ้นในช่วงท้ายเกมส์เมื่อใกล้จะหมดเวลา
– เรทติ้ง 5 นาทีสุดท้าย ที่ขึ้นสูงถึง 10.574 ซึ่งป็นช่วงที่ไทยตีเสมอได้ 2-2 จากนั้นคนก็เริ่มทยอยออกจากช่องไป โดยลดลงครึ่งหนึ่งในช่วง 5 นาที
– เฉลี่ยแล้วการถ่ายทอดสดการ แข่งขันฟุตบอลฯ ทั้งรายการ ตั้งแต่ 18.30 น. ถึง 21.30 น. รวม
3 ชั่วโมง อยู่ที่ 5.811 ซึ่งถือได้ว่าค่อนข้างมากสำหรับช่องทีวีดิจิตอลใหม่
– การมองกลุ่มเป้าหมาย และนำรายการมานำเสนอได้อย่างตรงจุด จะช่วยเพิ่มฐานคนดูในวงกว้างได้
รายการกีฬา ทางเลือกทีวีดิจิตอลเพิ่มเรทติ้ง
ผลจากเรทติ้งคนดูของช่องไทยรัฐที่เพิ่มขึ้นจากการนำรายการแข่งขันฟุตบอลมานำเสนอ สะท้อนถึงความนิยมในรายการแข่งขันกีฬา และเป็นทางเลือกของช่องทีวีดิจิตอลที่จะสร้างความหลากหลายให้กับคนดูจากรายการกีฬาประเภทต่างๆ เช่น การแข่งขันบาสเกตบอล การแข่งรถยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์
ผู้ชมก็พร้อมตอบรับเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการ ซึ่งรายการฟรีทีวีในอดีต อาจยังไม่มีเนื้อหาครอบคลุมความต้องการได้มากพอ หากช่องทีวีดิจิตอลนำเสนอรายการกีฬาเฉพาะทางมากขึ้น ย่อมดึงดูดให้ผู้ชมจำนวนมาก เพิ่มเรทติ้งให้กับช่องได้มหาศาล
ช่องก็สามารถหารายได้จากโฆษณาเพิ่มขึ้นได้ หากดูจากข้อมูล จะเห็นว่า ผู้ชมจะรับชมกันมากในช่วงก่อนการแข่งขัน ประมาณ 15 นาที และอีกช่วงคือช่วง 5 นาทีก่อนเริ่มแข่งครึ่งหลัง การลงโฆษณาในช่วงเวลาดังกล่าวโอกาสที่คนดูจะเห็นโฆษณาสูง เพราะคนดูตั้งใจรอรายการที่กำลังออกอากาศ
นอกจากนี้ การมีช่องดิจิตอลเพิ่มขึ้น จะสร้างความหลากหลายของรายการให้กับคนดู มีความพร้อมเรื่องของเวลาที่สามารถรองรับการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาได้ดีขึ้น เนื่องจากการ ถ่ายทอดสดการแข่งขันต่างๆ ม่สาม ารถก าหนดช่วงเวลาที่แน่นอนได้เป็นระยะเวลานาน
หากเป็นการถ่ายทอดสดนัด การแข่งขันสำคัญๆ ไปชนกับช่วงไพรม์ไทม์ ละครหลังข่าวภาคค่ า ก็อาจจะกระทบกับผู้ชมที่ต้องการชมละครมากกว่า ดังนั้น การมีช่องรายการที่สามารถน าเนื้อหารายการต่างๆ มาออกอากาศได้ตามผังรายการที่ยืดหยุ่นจะช่วยผู้ประกอบการให้
สามารถบริหารจัดการการนำเนื้อหารายการมาเผยแพร่ต่อประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น