ดีลใหญ่สุดในตลาดไอที!? สื่อฟันธง Dell เตรียม 5 หมื่นล้านดอลล์ ซื้อ EMC

สื่อต่างประเทศฟันธง “เดลล์ (Dell)” เจ้าพ่อไอทีอเมริกันกำลังทุบสถิติด้วยการเสนอซื้อกิจการมูลค่าสูงที่สุดในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี คาดเดลล์เตรียมประกาศเทเงิน 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท เพื่อซื้อกิจการบริษัท “อีเอ็มซี (EMC)” ผู้ให้บริการระบบซอฟต์แวร์ด้านการจัดเก็บข้อมูลสำหรับองค์กรธุรกิจรายใหญ่ หลายกระแสมั่นใจดีลบรรลือโลกนี้จะถูกประกาศอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 12 ตุลาคมนี้ตามเวลาในสหรัฐฯ

สำนักข่าวรีโค้ด (Re/code) อ้างแหล่งข่าววงในว่า เดลล์กำลังเตรียมแถลงข่าวซื้อกิจการเจ้าพ่อสตอเรจอย่างอีเอ็มซีด้วยมูลค่ามากกว่า 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ตัวเลขนี้คำนวณจากราคาหุ้น 27.25 เหรียญสหรัฐ ของอีเอ็มซี และบริษัทลูกอย่างวีเอ็มแวร์ (VMware) ซึ่งมีดีกรีเป็นผู้นำในตลาดซอฟต์แวร์ระบบงานเสมือน หรือเวอร์ชวลไลเซชัน (virtualization) โดยหากรวมค่าใช้จ่ายส่วนต่างที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นจะคิดเป็นมูลค่าราว 30 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น ทั้งหมดนี้ทำให้สื่อมวลชนเชื่อว่าการซื้อกิจการครั้งนี้จะมีมูลค่าสูงที่สุดในวงการบริษัทไอที
       
       ไม่เพียง Re/code สำนักข่าวฟอร์จูน (Fortune) ยังระบุว่า กรรมการบริหารอีเอ็มซีได้ร่วมประชุมลับเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการประกาศต่อสาธารณชนในวันจันทร์ที่ 12 เวลา 7.00 น. จุดนี้ตรงกับรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) ที่อ้างข้อมูลแหล่งข่าววงในว่า ดีลนี้จะถูกประกาศในวันจันทร์เช่นกัน
       
       ในภาพรวม การรวมกันของเดลล์และอีเอ็มซีจะทำให้เกิดเป็นบริษัทที่สามารถให้บริการระบบประมวลผลสำหรับองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ได้อย่างครบวงจร ทั้งเดลล์และอีเอ็มซีถือเป็นบริษัทชั้นนำในตลาดผู้ค้าเซิร์ฟเวอร์ ระบบสตอเรจ ระบบเวอร์ชวลไลเซชัน รวมถึงบริการคลาวด์สำหรับองค์กร

Joe Tucci (ขวา) ซีอีโอ EMC และผู้ก่อตั้ง Dell “Michael Dell”

       เบื้องต้น ข้อมูลจากสื่อต่างประเทศระบุว่า ดีลนี้เป็นผลจากการเจรจาโดยตรงระหว่าง “ไมเคิล เดลล์ (Michael Dell)” ซีอีโอเดลล์ และ “โจ ทุซซิ (Joe Tucci)” ซีอีโออีเอ็มซี โดยแม้จะยังไม่มีข้อมูลโครงสร้างงานบริหารบริษัทใหม่ แต่สื่ออเมริกันระบุว่า ซีอีโอเดลล์จะเป็นผู้บริหารบริษัทที่ควบรวมกิจการแล้วอย่างเต็มตัว
       
       ซีอีโอเดลล์นั้นเคยเป็นข่าวใหญ่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เพราะในช่วงเวลานั้น ไมเคิล เดลล์ ตัดสินใจซื้อคืนหุ้นบริษัทด้วยมูลค่า 2.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อให้เดลล์กลับมาเป็นบริษัทเอกชนอีกครั้ง ความเคลื่อนไหวครั้งนั้นเกิดขึ้นเพื่อปกป้องไม่ให้เดลล์ถูกแรงกดดันจากนักลงทุนในตลาดหุ้นด้วยฐานะบริษัทมหาชน ทำให้ซีอีโอเดลล์ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทนี้ และนำนามสกุลของตัวเองไปตั้งเป็นชื่อบริษัทเมื่อครั้งอายุ 31 ปี ที่หอพักในมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเท็กซัส (University of Texas) สามารถบริหารบริษัทได้อย่างยืดหยุ่น
       
       นักวิเคราะห์ เชื่อว่า ไมเคิล เดลล์ต้องการเสริมแกร่งให้เดลล์เป็นผู้นำในตลาดซอฟต์แวร์ประมวลผลสำหรับองค์กรธุรกิจ ดังนั้น การควบรวมกับอีเอ็มซีจึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ ขณะเดียวกัน ซีอีโอเดลล์ยังขึ้นชื่อเรื่องการเป็นผู้บริหารที่กล้าได้กล้าเสีย และมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการผลักดันให้เดลล์เติบโต จุดนี้ทำให้การเสนอซื้ออีเอ็มซีของเดลล์ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเมื่อเป็นการเดินหน้าลุยของไมเคิล เดลล์ 

ดีลประวัติศาสตร์นี้ถือเป็นการเสนอซื้อที่ได้ราคา โดยมีมูลค่าสูงกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ จุดนี้คาดว่าเป็นเพราะอีเอ็มซีมีการเข้าซื้อ และควบรวมกิจการของหลายบริษัทก่อนหน้านี้ เช่น RSA security, Network Intelligence, Documentum, VMWare ฯลฯ ทำให้เทคโนโลยีของอีเอ็มซีมีความครบถ้วนทั้งด้านการรักษาความปลอดภัย การจัดการคอนเทนต์ เวอร์ชวลไลเซชัน การเก็บรักษา และปกป้องข้อมูลในระยะยาว ทำให้สามารถนำเสนอโซลูชันเทคโนโลยีที่หลากหลาย

        อย่างไรก็ตาม เดลล์ไม่ใช่บริษัทเดียวที่สนใจเสนอซื้ออีเอ็มซี โดยปีที่แล้ว เจ้าพ่ออย่างเอชพี (HP) ก็มีกระแสว่าได้เจรจาเสนอซื้ออีเอ็มซีเช่นกัน แต่รายงานระบุว่าการเจรจานั้นถูกยกเลิกไปเมื่อตุลาคมที่ผ่านมา เพราะไม่สามารถตกลงราคาซื้อขายได้ 
       
       เบื้องต้น นักวิเคราะห์ เชื่อว่า เดลล์อาจจะปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ในอีเอ็มซี โดยอาจจำหน่ายบางหน่วยธุรกิจทิ้งไปพร้อมกับการดึงความสามารถโดดเด่นของอีเอ็มซี และบริษัทลูกอย่าง VMware ขึ้นมาเป็นตัวทำเงินให้เดลล์ ทั้งหมดนี้เชื่อว่าจะมีความชัดเจนเมื่อเดลล์แถลงข่าวอย่างเป็นทางการ 

ที่มา : http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000114395