เฟซบุ๊ก (Facebook) ก้าวไปอีกขั้นด้วยการเริ่มทดสอบบริการวิดีโอตัวใหม่บนแพลตฟอร์มพร้อมฟีเจอร์มากมายในคอนเซ็ปต์ “discover, watch and share” ที่คาดว่าจะทำให้ผู้ใช้พึงพอใจในการใช้งานที่ง่าย และสะดวกรวดเร็ว
โดยผู้ที่ใช้งานผ่านจะสามารถเลื่อนรับชมคลิปต่างๆ ได้อย่างสะดวก ส่วนผู้ที่ใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์พีซี สามารถเข้าได้จากหมวด Favourites ที่อยู่ด้านซ้ายมือของหน้าเว็บเบราเซอร์ ซึ่งตัวแทนจากเฟซบุ๊กระบุว่า ในอนาคตจะเพิ่มระบบค้นหาคลิปวิดีโอเพิ่มเติมด้วย
สำหรับผู้ที่ใช้งานผ่านแอปบนสมาร์ทโฟน เมื่อเริ่มรับชมคลิปใดก็ตามจะมีคลิปอื่นๆ ปรากฏขึ้นให้เลือกที่ด้านล่าง และสามารถเปลี่ยนมาดูคลิปอื่นๆ ได้ตามพอใจ
ไม่เพียงเท่านั้น ผู้บริหารของเฟซบุ๊กอย่าง Will Cathcart ยังเผยว่า เฟซบุ๊กได้ใส่ฟีเจอร์บันทึก (Save) คลิปเอาไว้ให้ด้วย เนื่องจากผู้พัฒนามองว่า บางทีคลิปก็มาในเวลาที่ผู้ใช้มีงานล้นมือ หรืออยู่ในสถานที่ที่ไม่สามารถเปิดรับชมได้
“เพื่อให้ง่ายต่อการกลับมารับชมคลิปวิดีโอนั้นๆ เราจึงเปิดให้มีปุ่มบันทึกเพื่อให้ผู้ใช้สามารถบันทึกวิดีโอนั้นไว้สำหรับกลับมารับชมในภายหลังด้วย โดยข้อมูลที่บันทึกจะเก็บไว้ที่บุ๊กมาร์ก หรือจะเลือกรับชมแบบปิดเสียงก็ทำได้เช่นกัน”
แม้ว่าการพัฒนาฟีเจอร์วิดีโอในครั้งนี้ เฟซบุ๊กจะระบุว่า ได้เปิดทดสอบต่อผู้ใช้บริการกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น แต่ฟีเจอร์ที่เพิ่มลงมากลับไม่ธรรมดา และอาจทำให้ยักษ์ใหญ่อย่างยูทิวบ์ (YouTube) ต้องสะเทือนได้เลยทีเดียว
“ปัจจุบัน ผู้คนใช้งานเฟซบุ๊กเป็นเวลาประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์จากเวลาที่พวกเขาใช้ทั้งหมดในโลกออนไลน์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวนั้นก็มากพอที่จะดึงเงิน และความสนใจจากนักการตลาดได้แล้ว” Ian Maude นักวิเคราะห์จาก Enders Analysis กล่าว
“ถ้าเฟซบุ๊กสามารถเพิ่มคอนเทนต์คุณภาพสูง และสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายในการนำเสนอได้อย่างเฉพาะเจาะจง ก็ยิ่งเป็นผลดีต่อนักการตลาดที่ใช้เฟซบุ๊กเป็นเครื่องมือในการโฆษณา”
หากยังจำได้ ก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊กได้เคยแถลงตัวเลขว่ามีการรับชมคลิปวิดีโอผ่านแพลตฟอร์มประมาณ 4 พันล้านครั้งต่อวัน อีกทั้งในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กก็ได้เปิดบริการ Live Video ให้บรรดาเซเลบได้แชร์สถานะของพวกเขาแบบสดๆ ซึ่งมีทั้งเซเรน่า วิลเลียมส์, Vin Diesel และเซเลบอีกมากมายที่เข้ามาใช้ฟีเจอร์ดังกล่าว
หรือในเดือนกันยายน เฟซบุ๊กก็ได้เปิดตัว “360 video” โดยมีภาพยนตร์เรื่องสตาร์วอร์ และคอนเทนต์จาก Discovery ออกมาด้วยเช่นกัน
ก้าวในการพัฒนาแพลตฟอร์มไปสู่การเป็นศูนย์กลางของคอนเทนต์วิดีโอของเฟซบุ๊กครั้งนี้จึงเป็นก้าวที่น่าจับตาอย่างยิ่ง
การทำงานแบบมัลติทาสก์กิง โดยคลิปเดิมยังคงเล่นอยู่ ในขณะที่ผู้ใช้เลื่อนหาคลิปอื่น ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง
