ถือเป็นเรื่องช็อควงการอยู่พอสมควร สำหรับการยุบตัวของค่ายหนัง และละคร GTH หรือ บริษัท จีเอ็มเอ็ม ไท หับ จำกัด ที่ได้ดำเนินกิจการมา 11 ปี เกิดจากการรวมตัวกันของ 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท แกรมมี่ เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วนการถือหุ้น 51% บริษัท ไท เอนเตอร์เทนเมนต์ จำกัด สัดส่วนการถือหุ้น 30% และบริษัท หับ โห้ หิ้น บางกอก จำกัด สัดส่วนการถือหุ้น 19%
สาเหตุหลักของการแยกทางกันในครั้งนี้เนื่องจากการบริการงานจากผู้ก่อตั้งจาก 3 บริษัทมีเป้าหมาย และความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ซึ่งทาง ไท เอนเตอร์เทนเม้นท์ ต้องการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์เพื่อเพิ่มเงินทุนในการพัฒนาโปรเจคให้ใหญ่และหลากหลายมากขึ้น
แต่ทาง หับ โห้ หิ้น บางกอก ที่นำทีมโดย “จิระ มะลิกุล” และ “จินา โอสถศิลป์” เห็นว่าบริษัทยังไม่มีความพร้อมที่จะเข้าตลาดฯในช่วง 1-3 ปีนี้ เนื่องจากยังคงเน้นการผลิตผลงานที่สร้างสรรค์ การเข้าตลาดฯ อาจทำให้เกิดภาวะกดดันที่ลดทอนความคิดสร้างสรรค์และคุณภาพของผลงาน
สำหรับ GMM Grammy ในฐานะที่เป็นตัวกลางได้มองเห็นข้อดีของการพัฒนาบริษัทไปในทั้ง 2 ทิศทาง และพร้อมที่จะรับแนวทางที่ผู้ร่วมหุ้นทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้ จากการที่ทุกฝ่ายพยายามพูดคุยเจรจาเพื่อหาทางออกมานานพอสมควรและยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการวางเป้าหมายบริษัทร่วมกันได้ จึงเห็นตรงกันว่าหากยังจะดำเนินงานต่อโดยไม่สามารถหาข้อสรุปได้จะก่อให้เกิดผลเสียต่อไปกับทุกฝ่าย
บริษัท จีเอ็มเอ็ม ไท หับ จำกัด (GTH) จึงตัดสินใจร่วมกันขอยุติการดำเนินงานของบริษัทฯลง โดยจะมีผลในวันที่ 31 ธ.ค. 2558 เป็นต้นไป รวมไปถึงปิดธุรกิจขายสินค้าเมอร์เชนไดร์สของทาง GTH ลงด้วย
แต่ทางหับ โห้ หิ้น บางกอก เตรียมก่อตั้งบริษัทใหม่ และจะมีการแถลงข่าวในเดือนธันวาคมนี้ ส่วนพนักงานจำนวนกว่า 100 คนของ GTH จะได้รับเงินเดือน โบนัส และเงินชดเชย
สำหรับผลงานที่ผ่านมาทั้งภาพยนตร์และละครที่ผลิตในนาม บริษัท จีเอ็มเอ็ม ไท หับ จำกัด (GTH) ทั้ง 3 ฝ่ายเห็นตรงกันว่า จะให้ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บริหารสิทธิ์ทั้งหมด ซึ่งจะมีการแต่งตั้งตัวแทนในการบริหารสิทธิ์อย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ผลงานที่เหลือของ GTH ในตอนนี้คือ “ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์” ที่จะฉายช่อง GMM 25 “แก๊สโซฮัก รักเต็มถัง” ฉายทาง LINE TV และ Star Theque GTH 11 ปีแสง คอนเสิร์ต จะเป็นผลงานสุดท้ายของทางบริษัท
ส่วนภาพยนตร์ 2 เรื่องสุดท้ายของ GTH ที่ได้ฉายไปเมื่อหลายเดือนก่อน ได้แก่ “ฟรีแล๊นซ์” สามารถกวาดรายได้รวม 88.15 ล้านบาท และ “เมย์ไหน ไฟแรงเฟร่อ” กวาดรายได้รวม 75 ล้านบาท