นิสสันเสริมทัพ “เอ็กซ์-เทรล ไฮบริด” เปิดราคาที่ 1.249 ล้านบาท

นิสสันส่ง “เอ็กซ์-เทรล ไฮบริด” รุกตลาดเอสยูวี ครั้งแรกของระบบ Pure Drive Hybrid ที่มาพร้อมเทคโนโลยี คลัทช์คู่อัจฉริยะ ให้กำลังและแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.5L แต่อัตราการสิ้นเปลืองดีขึ้นกว่า 20% ส่วนเบาะจะเหลือ 2 แถว 5 ที่นั่ง วางขาย 3 รุ่นย่อย ทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อและสี่ล้อ ราคา 1.249 – 1.395 ล้านบาท เปิดจองพร้อมส่งมอบได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้

 

คะซุทากะ นัมบุ ประธานบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า นิสสันยังคงมุ่งมั่นในการนำเสนอนวัตกรรมที่ตื่นเต้นเร้าใจ หรือ Innovation that Excites ผ่านผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นในทุกๆด้าน และเพื่อการบรรลุเป้าหมายเป้าหมายของความพยายามลดการปล่อย CO2 สู่ชั้นบรรยากาศ นอกเหนือจากการพัฒนายานยนต์พลังงานไฟฟ้าไร้มลพิษ ที่นิสสันมีความเป็นผู้นำในระดับโลกแล้วนั้น การสร้างสรรค์รถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันจากเครื่องยนต์พลังงานทางเลือก ถือเป็นอีกส่วนสำคัญในการบรรลุสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ได้  

“เหตุนี้นิสสันจึงได้แนะนำรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์พลังงานทางเลือกอย่าง “นิสสัน เอ็กซ์-เทรล ไฮบริด” ใหม่ สู่ตลาดประเทศไทย ซึ่งนิสสันมีความมั่นใจในสมรรถนะในทุกๆด้านของรถยนต์รุ่นนี้อย่างยิ่ง โดยเชื่อมั่นว่าจะทำให้ลูกค้าที่รอคอยเทคโนโลยีไฮบริดนี้ของนิสสัน มีประสบการณ์ที่ประทับใจและเชื่อมั่นกับความเหนือระดับอันแตกต่างที่นิสสันได้พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อให้ลูกค้าในกลุ่มที่ชื่นชอบรถยนต์แบบ SUV และให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีรวมถึงใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อม” 

Pure Drive Hybrid มาพร้อมเทคโนโลยีคลัทช์คู่อัจฉริยะ 

       
       โนบูซูเกะ โทคุระ หัวหน้าวิศวกรโครงการพัฒนารถยนต์รุ่น เอ็กซ์เทรล ไฮบริด (Chief Vehicle Engineering – CVE) บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ความโดดเด่นของระบบ นิสสัน เพียวไดรฟ์ ไฮบริด (Pure Drive Hybrid) คือการใช้เทคโนโลยีคลัทช์คู่อัจริยะ (Intelligence Dual Clutch System) เอกสิทธิ์ของนิสสันที่สามารถประยุกต์ใช้กับรถยนต์วางเครื่องยนต์ด้านหน้า ทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อโดยไม่ต้องมีการดัดแปลงในส่วนอื่นๆ เพิ่มเติม จากเอ็กซ์-เทรลที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินมาสู่เครื่องยนต์แบบไฮบริด”
       
       สำหรับเทคโนโลยี คลัทช์คู่อัจริยะ (Intelligence Dual Clutch System) ประกอบด้วยคลัทช์จำนวน 2 ตัว โดยคลัทช์ตัวที่ 1 ติดตั้งอยู่ระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ที่เชื่อมต่อกับเกียร์แบบ XTRONIC CVT คลัทช์ตัวที่ 2 อยู่ระหว่างมอเตอร์และเกียร์ CVT โดยมีรูปแบบการทำงานดังนี้
       
       – เมื่อรถยนต์ต้องการกำลังจากทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ เช่น ช่วงการเร่งแซง หรือ ทำความเร็ว คลัทช์ทั้ง 2 ตัวจะทำงานพร้อมกัน ทำให้เกียร์ CVT ได้รับกำลังจากทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า
       – การขับขี่ในช่วงที่ใช้เครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว จะมีการชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่จากเครื่องยนต์ คลัทช์ตัวที่ 1 จะทำงาน เพื่อถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์ส่งไปขับเคลื่อนเกียร์ ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้า จะทำหน้าที่เป็นเจนเนอเรเตอร์เพื่อรีชาร์จประจุไฟฟ้ากลับเข้าไปยังแบตเตอรี่
       – เมื่อระบบไม่ต้องการกำลังจากเครื่องยนต์ คลัทช์ตัวที่ 1 ที่อยู่ระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ จะตัดการทำงานจากเครื่องยนต์ ผลที่ตามมาคือ เครื่องยนต์จะหยุดการทำงาน ทำให้ไม่มีแรงเสียดทานจากการหมุนของเครื่องยนต์เข้ามาเกี่ยวข้อง เหลือเพียงมอเตอร์ไฟฟ้ากับเกียร์เท่านั้น ในช่วงเวลาดังกล่าว เครื่องยนต์จะทำงานเหมือนกับเป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า (EV)
       – และอีกคุณสมบัติพิเศษที่แตกต่างจากระบบไฮบริดอื่นๆ คือ ระบบคลัทช์คู่อัจฉริยะ สามารถทำงานที่ความเร็วได้สูงสุดถึง 120 กม./ชม. ซึ่งเป็นความเร็วที่สูงกว่าระบบไฮบริดทั่วไป อันจะนำมาซึ่งการประหยัดน้ำมันในย่านความเร็วสูงอีกด้วย 

เทียบเบนซินประหยัดที่สุดในคลาส 

       
       นิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริด ใหม่ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ เบนซิน 2.0 ลิตร MR20DD 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Twin C-VCT ไดเร็ค อินเจคชั่น ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับ มอเตอร์ไฟฟ้า ที่ให้กำลังสูงสุด 41 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 160 นิวตันเมตร และเมื่อทำงานร่วมกันทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุดรวมถึง 179 แรงม้า เทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร โดยเครื่องยนต์ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษสำหรับระบบไฮบริด ปั๊มน้ำและคอมเพรสเซอร์ ไม่ใช้สายพาน ช่วยลดแรงเสียดทาน ขณะที่วาล์วไอเสียหล่อโซเดียม เพิ่มการระบายความร้อนของห้องเครื่องได้ดียิ่งขึ้น
       
       จากการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และมอเตอร์และเทคโนโลยี คลัทช์คู่อัจฉริยะ รวมถึงเกียร์ XTRONIC CVT พร้อม Manual Mode 7 สปีด ช่วยให้ เอ็กซ์เทรล ไฮบริด เป็นรถที่มีอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงที่โดดเด่นที่สุดในคลาส โดยประหยัดกว่าเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร อย่างเดียวถึง 25.6%
       
ออพชั่น-ระบบความปลอดภัยจัดเต็ม 
       นิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริด มาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานที่ครบครัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ให้สนุกแต่ยังคงไว้ซึ่งความปลอดภัยรอบด้าน อาทิ ระบบ Advance Chassis Control ที่ประกอบด้วยระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ (ARC) ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง (ATC) ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (VDC) ระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน (HSA) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมเสริมระบบความปลอดภัยตามแนวคิด Safety shield อย่างถุงลมนิรภัยคู่หน้าและด้านข้าง (SRS) และยังเติมเต็มความสะดวกสบายของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ไม่ว่าจะเป็น กุญแจอัจฉริยะ และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์
       
ภายนอก-ในตกแต่งใหม่สปอร์ต-หรูหรา 
       
       ภายนอกติดตั้งไฟหน้าแอลอีดีโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน (DRL) แบบแอลอีดีรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ของเอ็กซ์เทรล ไฟตัดหมอกหน้า กระจังหน้าตกแต่งด้วยโครมสีพิเศษ คิ้วขอบกันชนหน้าสีพิเศษ คิ้วขอบประตูท้ายตกแต่งด้วยโครมสีพิเศษ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวระบบ Heated Mirror ปรับและพับด้วยไฟฟ้า ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ เสาอากาศแบบครีบฉลาม ให้ความรู้สึกสปอร์ต ล้ออัลลอย ขนาด17 นิ้ว ติดตั้งราวหลังคาเพิ่มความสะสะดวกในการใช้งาน บรรทุกสิ่งของ สัมภาระ พร้อมสัญลักษณ์ไฮบริดที่ด้านท้าย
       
       ภายในห้องโดยสารหรูหราและสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็น เบาะนั่งหนังแท้ โดยเบาะคนขับและผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกซ้าย-ขวา พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระที่ยังคงขนาดใหญ่ เบาะนั่งแถวที่ 2 พับได้แบนราบ เพิ่มพื้นที่บรรทุกสิ่งของ ขณะที่ยังคงประตูท้ายเปิดปิดอัตโนมัติ (Auto Lift gate) ที่ได้รับความชื่นชอบจากลูกค้า ติดตั้งกล้องมองภาพรอบทิศทาง (AVM) หน้าจอ แสดงผล 3 มิติ (MID) รวมถึงข้อมูล ขับเคลื่อนของระบบไฮบริด

วางขาย 3 รุ่นย่อย 2.0S 2WD HEV ราคา 1.249 ล้านบาท 2.0E 2WD HEV ราคา 1.324 ล้านบาท และรุ่นท็อป 2.0V 4WD HEV ราคา 1.395 ล้านบาท

       
ตารางเปรียบเทียบราคาระหว่างรุ่นไฮบริดกับรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร และ 2.5 ลิตร

 

ไฮบริด เครื่องยนต์สันดาปภายใน
2.0S 2WD ราคา 1,249,000 บาท 2.0S 2WD ราคา 1,172,000 บาท
2.0E 2WD ราคา 1,324,000 บาท 2.0E 2WD ราคา 1,246,000 บาท
2.0V 4WD ราคา 1,325,000 บาท
2.0V 4WD ราคา 1,395,000 บาท 2.5V 4WD ราคา 1,551,000 บาท

ประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขายกล่าวว่า สำหรับแนวทางการสื่อสารการตลาดจะเน้นเชิงรุก เพื่อเข้าถึงลูกค้าผ่านสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์โฆษณา สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อออนไลน์ต่างๆ ภายใต้แนวคิดว่า “ตอบทุกความสมบูรณ์แบบของการใช้ชีวิต” หรือ Redefine Your Drive รวมถึงเพิ่มการรับรู้จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ และยังมีกิจกรรมทางการขายและการตลาดหลากหลายเพื่อให้ลูกค้าและผู้สนใจได้มีโอกาสทดสอบสมรรถนะที่โดดเด่นและแตกต่างของระบบ Nissan Pure Drive Hybrid
       
นิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริด ใหม่ มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีขาวสตอร์มไวท์ สีเงิน บริลเลี่ยนท์ซิลเวอร์ สีเขียวมิดไนท์เจด สีเทา ดีพไอริสเกรย์ สีดำ แบล็คสตาร์

นอกจากนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค นิสสัน รับประกันรถยนต์ 3 ปี หรือ 1 แสน กม.รับประกันระบบไฮบริด 3 ปี หรือ 1 แสน กม. และยังรับประกันแบตเตอรีถึง 10 ปี โดยไม่จำกัดระยะทางอีกด้วย นอกจากนี้นิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริดยัง มาพร้อมกับข้อเสนอพิเศษเพื่อการเป็นเจ้าของได้ง่ายยิ่งขึ้นจากนิสสัน โดยแถมประกันภัยชั้น 1 (Nissan Premium Protection) 1 ปี พร้อมฟรีค่าบำรุงรักษา 60,000 กม.หรือ 36 เดือน และอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% 

ที่มา : http://manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9580000127456