Hub of Bangkok Connection! คือคำนิยามที่เหมาะสมที่สุดของย่านอโศก
โดยเฉพาะ ASOKE Interchange ที่เป็นจุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้า BTS และ MRT ที่รองรับผู้คนจากการเดินทางในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก สถานี BTS อโศกนี้ มีผู้ใช้บริการมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากสถานีสยาม และ MRT สุขุมวิท ก็มีผู้ใช้บริการมากที่สุดเป็นอันดับ 1 จากสถานีทั้งหมด รวมๆ แล้วมีคนเดินทางผ่านสถานีนี้ร่วม 1 แสนคนต่อวันเลยทีเดียว
ในรอบทศวรรษที่ผ่านมา ตัวเลขของจำนวน Expat หรือชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงาน และพักอาศัยในกรุงเทพมหานครนั้น มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา มีตัวเลขของ Expat ที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในกรุงเทพฯ 81,960 คน โดยเฉพาะในปี 2559 นี้ที่ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเป็นทางการ
จากสถิติของสำนักงานบริหารแรงงานต่างด้าว เมื่อดูตัวเลขในส่วนของกิจการที่ชาวต่างชาติเข้ามาทำงานในประเทศไทยนั้น อันดับ 1 เป็นงานด้านการศึกษา รองลงมาก็คือส่วนของการขายส่งและการค้า โรงแรมภัตตาคาร ธุรกิจบริการ และค้าปลีก
เมื่อมาดูว่า Expat ประกอบอาชีพในระดับไหนมากที่สุด อันดับ 1 ก็คือ CEO ผู้จัดการ และผู้บริหารในระดับสูง ตามมาด้วยผู้จัดการแผนกต่างๆ ซึ่งเป็น Level ที่มีกำลังทรัพย์ในการใช้จ่ายสูง เป็นลูกค้าในระดับพรีเมี่ยมที่ไม่อาจมองข้ามไปได้
เมื่อปลายปี 2558 คอลลิเออร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ ได้ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมการอยู่อาศัยของชาวต่างชาติพบข้อมูลที่น่าสนใจว่า จำนวน Expat ที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ นั้นเพิ่มขึ้นทุกไตรมาสโดย ชาวต่างชาติที่ทำงานในระยะสั้นนิยมเช่าอาศัยในอพาร์ทเมนต์ ส่วนชาวต่างชาติที่ทำงานระยะยาวตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป จะเลือกเช่าและซื้อคอนโดฯ หรืออพาร์ทเมนท์ในระดับ Luxury มากกว่า ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ ต้องปรับตัวให้เข้ากับความต้องการที่เปลี่ยนไปของลูกค้าในกลุ่มนี้
ทำเลที่พักอาศัยของชาว Expat นั้นมีอยู่หลายที่ในกรุงเทพฯ ทั้งรวมกลุ่มกันอยู่เป็นชุมชนและกระจายตัวตามเขตต่างๆ โดยเฉพาะโซนสุขุมวิท-อโศกนั้นกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากชาวตะวันออกกลาง เกาหลี และญี่ปุ่น เพราะสะดวกสบายและมีปัจจัยหลายอย่างที่เพียบพร้อม
ทำเล “อโศก” ทำเลนี้มีดีอะไร? ทำไมถึงต้องให้ความสำคัญ? ข้อมูลดังต่อไปนี้ น่าจะช่วยตอบข้อสงสัยในข้างต้นได้เป็นอย่างดี
เจาะจุดแข็งย่านอโศกในมุมมองของ Expat
1. จุดศูนย์กลางทางธุรกิจ Central Business District
อโศกเป็นทำเลใจกลางเมืองที่แวดล้อมไปด้วยย่านธุรกิจ สำนักงาน โรงแรม และออฟฟิศ รายล้อมไปด้วยแหล่งชอปปิ้ง ร้านค้า ร้านอาหาร ที่เป็นที่นิยมของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
2. เดินทางสะดวกด้วยสถานีเชื่อมต่อ Interchange และ Airport Link
ข้อได้เปรียบของทำเลย่านอโศกนี้อันดับแรกก็คือเป็นจุดเชื่อมต่อที่ดีของรถไฟฟ้า MRT และ BTS ที่สามารถเดินทางไปยังแหล่งต่างๆในกรุงเทพฯ ได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อไปยัง Airport Link ได้จากรถไฟฟ้า MRT เพราะอยู่ห่างกันแค่สถานีเดียว ทำให้ Expat สามารถเดินทางได้อย่างสะดวก ทั้งการทำงานและการท่องเที่ยวไปยังต่างจังหวัด
3. ศูนย์รวม กิน ช้อป เที่ยว
ด้วยศูนย์การค้าที่ตั้งอยู่รายรอบในรัศมีใกล้เคียง มีทั้ง Terminal 21, Robinson, Emporium, และ Emquatier รวมถึง Emsphere ที่กำลังมีแผนจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ ถือเป็นสีสันที่ดึงดูดคนรักการช้อปปิ้ง ให้เข้ามาจับจ่ายใช้สอยอย่างคับคั่ง
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบและมีรสนิยมในการกิน ก็สามารถหาร้านอาหารที่อยู่ในย่านนี้ได้โดยง่าย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ไทย จีน อิตาเลี่ยน ในยามค่ำคืนมีทั้ง ผับ บาร์ เรสเตอรองต์ แหล่งแฮงก์เอาต์ นั่งเล่นฟังดนตรี เหมาะแก่การสังสรรค์ในกลุ่มเพื่อน หรือชิลล์เอาต์ในบรรยากาศยามราตรีได้ตามชอบ
4. โดนใจคนรักสุขภาพ
พื้นที่สีเขียวในสวนสาธารณะเบญจกิติที่อยู่ห่างออกไปเพียง 1.2 กม. เดินทางด้วยเท้าใช้เวลาแค่เพียง 15 นาที เหมาะสำหรับคนรักการปั่นจักรยาน และวิ่งออกกำลังกายสูดอากาศอันสดชื่น หากต้องการเล่นกีฬาเรียกเหงื่อหนักๆ ในรัศมีรอบๆ มีพร้อมให้เลือก ทั้งเรียนรู้ศิลปะมวยไทย เพิ่มความแข็งแรงด้วยฟิตเนส ผ่อนคลายกับกิจกรรมโยคะ สนามกีฬา สระว่ายน้ำ ฯลฯ
โอกาสของนักลงทุนอสังหาฯ
ในสายตาของชาวต่างชาติ โซนนี้เป็นที่นิยมในการเลือกเป็นที่พัก เพราะได้เปรียบในเรื่องโลเคชั่น การเดินทาง และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ความต้องการทั้งซื้อและเช่าเพื่ออยู่อาศัยมีอยู่ตลอดเวลา
ในรอบ 3-4 ปีที่ผ่านมา มีการเปิดตัวโครงการอสังหาฯ ในย่านนี้ไปหลายโครงการ แนวโน้มราคาหลังจากเปิดตัวพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งราคาเปิดตัวมีตั้งแต่ 71,300-250,000 บาทต่อตารางเมตร เมื่อนำมาขายต่อได้ผลตอบแทนขั้นต่ำตั้งแต่ 5 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป สำหรับนักลงทุนที่ซื้อเพื่อเก็งกำไรนั้น ถือว่าให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ามาก
พื้นที่โซนนี้จึงเป็นที่หมายตาของนักลงทุน ทำให้เมื่อมีโครงการที่เพิ่งเปิดตัวมาไม่นานอย่างเช่น Ashton Asoke และ Noble Recole จึงมีการต่อคิวเข้าจับจองอย่างคับคั่ง สามารถสร้างปรากฏการณ์ “Sold Out” ขายหมดในวันเดียว
หลังจาก Noble Development ประสบความสำเร็จในการขายโครงการ Noble Recole แบบ sold out ในวันเดียวไปแล้วนั้น ก็กำลังมีโปรเจกต์เปิดตัวโครงการใหม่ ข้างๆ พื้นที่เดิม นั่นก็คือ “Noble BE19”
ไฮไลต์ของโครงการนี้ อยู่ตรงที่ตั้งของโครงการที่อยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 19 และซอยสุขุมวิท 15 สามารถเดินทางเข้าออกได้หลากหลาย ลัดไปได้ทั้งทองหล่อ พร้อมพงษ์ หรือจะเข้าสู่ถนนอโศกผ่านซอยสุขุมวิท 21/1 และ 21/3 เพิ่มทางเลือกในการหลีกเลี่ยงการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วน ที่สำคัญ Terminal 21 นั้นอยู่ห่างเพียงแค่ระยะเดินเท้าราว 5-6 นาทีเท่านั้นเอง นอกจากจะสะดวกในการเดินทางแล้ว ตัวโครงการที่ตั้งอยู่ห่างจากถนนเส้นหลักเข้ามา ทำให้ได้บรรยากาศที่เงียบสงบและมีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง มีต้นไม้เขียวชะอุ่มรายล้อม สามารถชื่นชมพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ของโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยจากมุมสูงได้อีกด้วย
โครงการ “Noble BE19” นี้เป็นการต่อยอดความสำเร็จจากโครงการ “Noble Recole” ที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยกับผู้ลงทุนอยู่ที่ 5-7% ที่สามารถปล่อยเช่าแก่ชาวต่างชาติได้ในอัตราที่สูงเฉลี่ยอยู่ที่ 3-5 หมื่นบาทต่อเดือน ถ้าราคาเปิดตัวของ “Noble BE19” นี้อยู่ในเกณฑ์ที่ผู้ลงทุนเห็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่า เชื่อได้เลยว่า ปรากฏการณ์ “ปิดการขายภายใน 1 ชั่วโมง” จะกลับมาอีกอย่างแน่นอน
สำหรับผู้ที่สนใจ คลิกเข้าไปลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลดพิเศษ 100,000 บาท ได้ที่ www.noblehome.com