หลังจากที่ครองตลาดเป็นผู้นำในสื่อทรานซิสบนรถไฟฟ้าบีทีเอสมายาวนาน ถึงเวลาที่ “วีจีไอ” หรือบริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) ต้องขยายอาณาจักรของตนเองออกไปยังสื่ออื่นๆ เพื่อการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต และรองรับกับพฤติกรรมการบริโภคสื่อของผู้บริโภค
จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้วีจีไอต้องทำการลงทุนเพิ่มในบริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO ผู้ให้บริการสื่อนอกบ้าน จากที่เคยลงทุนถือหุ้นในสัดส่วน 24.96% เป็นเวลา 2 ปีมาแล้ว ในปีนี้ได้มีการเพิ่มการลงทุนด้วยการซื้อหุ้นเพิ่มเป็น 37.42% หรือมูลค่า 412.5 ล้านบาท
แต่เดิมวีจีไอมีสื่อที่สำคัญ 2 ประเภทก็คือ สื่อทรานซิสก็คือสื่อบนรถไฟฟ้าบีทีเอส และสื่อในลิฟต์อาคารสำนักงาน และคอนโดมิเนียม โดยสื่อทรานซิสได้ครองส่วนแบ่งตลาด 56% และสื่ออาคารสำนักงานครองส่วนแบ่งตลาดไป 87% โดยมีสื่อใน 135 อาคารสำนักงาน และ 219 คอนโดมิเนียม
ความสำคัญของ MACO ที่ทำให้วีจีไอตัดสินใจลงทุนเพิ่มนั้นก็คือการมีสื่อโฆษณานอกบ้านที่ครอบคลุมตั้งแต่ป้ายโฆษณาบิลบอร์ดขนาดใหญ่ และสื่อโฆษณาขนาดกลางบริเวณแยกสำคัญจำนวนรวม 398 ป้าย สื่อโฆษณาแบบกล่องไฟที่สถานีน้ำมัน ปตท.จิฟฟี่ 265 ป้าย สื่อบริเวณริมถนน (ป้ายโฆษณาเสาตอม่อรถไฟฟ้าบีทีเอส และบริเวณเสาใต้สะพานข้ามแยก) 555 ป้าย สื่อโฆษณาบริเวณตู้จ่ายเงินของการทางพิเศษฯ 124 ป้าย และสื่อโฆษณาในสถานีขนส่งหมอชิต 7 ป้าย ซึ่งจะสามารถมาเติมเต็มในส่วนที่วีจีไอไม่มีได้
และที่น่าสนใจที่สุดก็คือ MACO มีพื้นที่สื่อโฆษณาครอบคลุม 69 จังหวัดทั้งประเทศ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งยุทธศาสตร์ที่วีจีไอต้องการตีตลาดสื่อนอกบ้านในต่างจังหวัด เพราะด้วยโอกาสการเติบโตมีสูงมากขึ้นเรื่อยๆ
วีจีไอจะเข้ามากำหนดนโยบายและกลยุทธ์แก่ MACO ในทันที เพียงแต่ในตอนนี้ทีมผู้บริหารยังเป็นทีมเดิมอยู่ “นพพล ตัณศลารักษ์” ซีอีโอของ MACO ก็ยังคงดำรงตำแหน่งต่อไปอีก 3 ปี หลังจากนั้นวีจีไอจึงแต่งตั้งคนใหม่ขึ้นมา
มารุต อรรถไกวัลวที ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร VGI กล่าวว่า “การลงทุนถือหุ้นเพิ่มในครั้งนี้ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะขยายไปสู่สื่อนอกบ้านในกลุ่มสื่อกลางแจ้งที่ MACO มีความแข็งแกร่ง ทำให้เรามีสื่อโฆษณาที่ครอบคลุมมากขึ้น โดยแผนในอนาคตเตรียมลุยสื่อในสนามบินพาณิชย์ สื่อดิจิตอล และสื่อด้านกิจกรรมการตลาดเพิ่มเติม”
สัดส่วนรายได้ของวีจีไอแบ่งออกเป็นรายได้จากสื่อทรานซิสบนรถไฟฟ้าบีทีเอส 80% อาคารสำนักงาน 10% และอื่นๆ 10%
ในปีนี้วีจีไอได้เตรียมเงินลงทุนไว้ 300 ล้านบาท สำหรับลงทุนทางด้านโครงสร้าง และจอ LED บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เปลี่ยนจากจอภาพนิ่งเป็นจอ LED ทั้งหมด 20 สถานีปัจจุบัน และในส่วนขยายอีก 7 สถานีๆ ละ 2 จอ รวมทั้งหมด 54 จอ
มีการคาดการณ์ภาพรวมรายได้ของวีจีไอปีนี้จะเติบโต 10-13% หรือ 2,100 ล้านบาท หลังจากที่ควบรวมกับ MACO แล้วจะมีการเติบโตถึง 50% เป็นรายได้รวม 3,100 ล้านบาท