ตัวเลขล่าสุดจาก Statista เผยให้เห็นว่าโฆษณาออนไลน์นั้นเป็นหัวใจสำคัญสำหรับ Google มากแค่ไหน ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเสิร์ชอย่าง Google เป็นผู้กุมรายได้ 1 ใน 3 ของรายได้โฆษณาออนไลน์ทั่วโลกในปี 2015 ที่ผ่านมา ด้วยตัวเลข 33.3% ซึ่งมีมูลค่าถึง 6.739 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ แต่ภายใต้ตัวเลขอันสวยหรูนี้ มีความจริงอันน่ากลัวซ่อนอยู่
เมื่อพิจารณาข้อมูลจาก Statista จะพบว่ารายได้จากการโฆษณาออนไลน์ของ Google นั้นเติบโตในอัตราที่ช้าลงเรื่อยๆ โดยเติบโตขึ้น 16.9% ในปี 2013, 14.3% ในปี 2014 และ 11.5% ในปี 2015 และด้วยอัตราการเติบโตที่ถดถอยลงนี้ คาดว่าการเติบโตของรายได้ของ Google จะอยู่ในอัตราคงที่ในเวลาเพียง 4 ปีข้างหน้าเท่านั้น แม้ว่ากราฟรายได้ของบริษัทจะยังดูสวยหรู แต่สัดส่วนรายได้ในตลาดโลกของ Google กำลังหดลงเช่นกัน
ส่วนแบ่งรายได้ในตลาดโฆษณาดิจิตอลของ Google หดลงเช่นกันที่ 34.6% ในปี 2015 ขณะที่ปี 2014 อยู่ที่ 33.3% Statista คาดการณ์ว่าในปี 2016 นี้ สัดส่วนรายได้ของ Google จะยิ่งถดถอยลงเหลือ 30.9% เท่านั้น ทำให้เกิดคำถามว่า ใครคือผู้ได้รับรายได้ส่วนที่หดหายของ Google? และพวกเขาทำได้ดีกว่า Google หรือไม่?
Facebook ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งที่น่าจับตา แม้ว่า Facebook จะไม่สามารถทำรายได้ได้ใกล้เคียงกับรายได้ของ Google เลยสักนิด แต่โซเชี่ยลเน็ตเวิร์กแห่งนี้มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยทำรายได้ในปี 2015 เพิ่มจากเมื่อปี 2012 ถึง 4 เท่า และหากเปรียบเทียบอัตราการเติบโตแบบปีต่อปี พบว่า รายได้จากการโฆษณาออนไลน์ของ Facebook โตขึ้น 38.8% ในปี 2013, 39.2% ในปี 2014 และ 32.7% ในปี 2015 ซึ่งมากกว่าการเติบโตของ Google ถึง 3 เท่า
ด้วยการคาดการณ์ว่าการใช้จ่ายด้านการตลาดออนไลน์ทั่วโลกจะเพิ่มทะลุหลัก 2.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐในปี 2018 นี้ อัตราการเติบโตชองรายได้โฆษณาของ Facebook จึงเป็นสิ่งที่น่าจับตาอย่างยิ่ง ขณะเดียวกัน เมื่อมองตัวเลขการใช้จ่ายด้านการโฆษณาโดยรวมแล้ว การโฆษณาออนไลน์ก็คิดเป็น 1 ใน 3 ของการใช้จ่ายทั้งหมด แต่สัดส่วนนี้ก็กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากนักโฆษณาต่างก็มองหาช่องทางใหม่ๆที่ไม่ใช่การโฆษณาทางทีวี
แล้วแบบนี้ อนาคตรายได้การโฆษณาจะตกอยู่ในมือของใครได้?
