ถ้าไม่พูดถึงความดีของหนังระลึกชาติเรื่องดังอย่าง “แฟนฉัน” ก็คงไม่ถือว่าทำให้เรื่องการรวมตัวกันของ 3 ค่ายหนังใหญ่ในประเทศ เป็นจริงขึ้นมาได้
การประกาศเป็นพันธมิตรของ 3 ค่ายนี้ ถ้ายังไม่นับรวมกับการเหมาเป็นสปอนเซอร์ของแฮปปี้ดีพร้อมท์กับหนัง 9 เรื่องที่ยังไม่ถูกสร้าง ก็ย่อมที่จะสร้างบรรยากาศชื่นมื่นเป็นธรรมดา ก่อนเดินเครื่องหวังเป้าปีหน้าที่ 700 ล้านบาท หวังมาร์เก็ตแชร์ของหนังมากเกือบครึ่งถึง 40% ในปี 2548
GTH เกิดขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท และตั้งชื่อตามลำดับสัดส่วนของหุ้นอันได้แก่ G (51%) T (30%) และ H (19%) ก่อนจะเพิ่มเป็น 500 ล้านบาทในอีก 2-3 ปี
ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม บอสใหญ่แกรมมี่มองว่า การรวมตัวที่ลงตัวของจีเอ็มเอ็มที่มีศักยภาพในด้านสื่อและศิลปิน ไทเอ็นเตอร์เทนเมนท์ที่มีความชำนาญด้านการตลาดและประสบการณ์ที่ยาวนาน ขณะที่หับโห้หิ้นมีความสามารถด้านการผลิตที่ได้รับการเชื่อถืออย่างดี
“ผมเชื่อว่าสูตรเคมีของการรวมตัวกันในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯเติบโต และแข็งแรงได้อย่างมั่นคงในตลาดหนังไทย” ไพบูลย์กล่าว