“อุ๋ย – ชมศจี” เป็นลูกสาวคนสุดท้องและเป็นคนเดียวในขณะนี้ที่ถือว่าเป็นกำลังหลักให้กับ สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ ที่ “เสี่ยเจียง” ไว้ใจ
บุคลิกที่อ่อนหวานทำให้เราไม่ค่อยอยากจะเชื่อว่า ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้จะทำหน้าที่ในส่วนของการ Distribution และ Programming ซึ่งต้องดูแลเจรจาต่อรองในธุรกิจที่เข้มข้นและต้องเปิดดีลให้มากที่สุด การคุยกับโรงหนังแต่ละโรงเพื่อผลประโยชน์ของผู้จัดจำหน่าย รวมถึงการหาหนังตามตลาดหนัง เป็นสิ่งที่ไม่ง่ายนักในประเทศที่มีโรงหนังซึ่งมีอิทธิพลเบ็ดเสร็จ ต่อการควบคุมผลประโยชน์ของระบบภาพยนตร์
เธอเล่าให้ฟังว่า ความสามารถที่มีนี้ได้มาจากประสบการณ์เพียวๆ ที่ไม่มีบอกไว้ในตำรา
“งานนี้ใช้ประสบการณ์ค่อนข้างสูง ปกติการวางโปรแกรมยังไงก็จะต้องมีการวางผิดแน่ๆ แต่เมื่อไรที่เราวางเลย ตัวเลขรายได้ของหนัง หรือจังหวะทุกอย่างจะเสียไปหมดเลย ประสบการณ์ก็จะสอน ทำให้เราต้องค่อยๆ แก้แต่ละปัญหา บางทีแม้ว่ามันจะต้องดูทุกด้านผสมกัน แต่สุดท้ายแล้วอุ๋ยว่าก็ขึ้นอยู่กับโปรดักส์ของเราด้วย…คุณภาพของหนังก็ช่วยในการเจรจากับโรงหนังด้วย”
เวลา 4 ปีถือว่าเป็นแค่การเริ่มต้นที่ไม่นานสำหรับผู้หญิงคนหนึ่งในวงการที่เชี่ยวกรากอย่างภาพยนตร์ในบ้านเรา เหตุผลสำคัญของเธอก็คือ “มีแบ็กอัพที่ดี… และพี่เลี้ยงคนสำคัญก็คือคุณพ่อ”
ตามปกติการวางหมากในธุรกิจครอบครัวที่สำคัญ จะเลือกให้ลูกหลานทำตำแหน่งที่ไว้วางใจได้ ในบ้านเราเจเนอเรชั่นที่สองอย่าง “บ้านเตชะรัตนประเสริฐ” ค่อนข้างจะโชคดีที่มีลูกๆ รักในกิจการด้านนี้ทั้งหมด ขณะนี้ 3 ใน 4 คนกำลังศึกษาเพื่อกลับมาช่วยงาน “อุ๋ย” ก็เป็นคนเดียวที่อยู่ช่วยดูแลกิจการของรุ่นสอง
“ตอนนี้จังหวะชีวิตของอุ๋ยอยู่ที่ประสบการณ์ในการทำงาน เรารู้ว่าเราไม่ได้ประสบการณ์ตรงนี้มาได้ง่ายๆ จึงต้องรักษาตรงนี้เอาไว้ให้นานที่สุด ความจริงๆ เราเองก็ไม่ได้มีประสบการณ์พอที่จะตัดสินใจอะไรเองทั้งหมดgหมือนกัน อุ๋ยยังต้องการคนมาช่วย คุณพ่อเป็นผู้ใหญ่ที่มีมุมมองที่แตกต่างอยู่เสมอ และหลายๆ มุมมองก็มาจากประสบการณ์ของท่าน”
“ปกติเวลาทำงานคุณพ่อจะลองให้เราทำก่อนและเปิดกว้าง แค่บอกว่าเราทำอันนี้นะ ท่านก็ให้เราลองไปเดินเอง ไปตัดสินใจเอง ลองถูกลองผิดเอง พอหลังจากที่เราผ่านในเรื่องของการลองถูกลองผิดแล้ว เราก็จะรู้ว่าอะไรมันคือสิ่งที่ถูก”
เมื่อสองปีที่แล้วชมศจีเก็บรวบรวมเอกสาร และความรู้ทั้งหมดที่คิดว่าดี เป็นทางที่ใช่เข้าไปคุยกับคุณพ่อเรื่อง “โรงหนังในฝัน”
แม้ว่าความรักในหนังเล็กๆ ของเธอจะทำให้เธอไม่เข้าใจว่าหนังดีๆ บางเรื่องก็ไม่สามารถทำตัวเลขได้เลยในโรงหนังบ้านเรา หรือไม่เป็นที่ยอมรับของโรงเพื่อฉาย “หนังบางเรื่องเราบอกทำ 10 โลเกชั่น คุณพ่อบอกแค่ก๊อบเดียวก็พอ เราไม่เชื่อ แต่ท่านก็ยอมให้ทำ แต่ปรากฏว่าจริงๆ ออกมาไม่มีตัวเลขเลย (หัวเราะ)”
การที่เธอได้ทำงานกับโรงหนังทุกค่ายทั้ง Major, SF, EGV จนถึง Lido ทำให้เธอเห็นจุดเสียของการมีโรงใหญ่ หนังบางเรื่องไม่มี channel ให้ฉาย
ในขณะที่โรงมัลติเพล็กซ์เองต้องมีระยะยืนโรงที่ขึ้นกับตัวเลขมาก การต่อสู้ระหว่างหนังจากเมเจอร์สตูดิโอ และหนังอื่นๆ ในตลาดก็มีมาก จนจังหวะที่จะแทรกหนังเล็กๆ ที่เธอรักเหล่านี้เข้าไป แทบจะเป็นไปไม่ได้ มันเป็นความหวังที่อยากจะเห็นหนังเหล่านี้มีที่ยืนสำหรับคอหนังในบ้านเรา ด้วยระยะเวลาที่มากกว่าอาทิตย์ครึ่ง หรือ 7 วัน และมีรายได้ไม่บอบช้ำนัก
“เราอยากบอกทุกคนว่า หนังดีไม่จำเป็นจะต้องมีดารา ไม่จำเป็นจะต้องมาจากอเมริกา ไม่ต้องมีอะไรที่ต้องมาบอกว่าหนังเรื่องนี้คุณต้องดู แต่เมื่อคุณเข้าไปดู คุณจะรู้ว่าหนังเรื่องนี้มีคุณค่า และไม่ต้องปีนกระไดดู”
“เมื่อมาถึงเราก็เลยมาคิดว่าเราทำได้ไหม จึงตัดสินใจเดินเข้าไปบอกพ่อว่าเราอยากทำ”
เธอรวบรวมทุกอย่างแล้วเข้าไปคุยกับพ่อ บอกว่าเธออยากทำโรงหนัง เพราะประสบการณ์จัดเทศกาลหนังเล็กที่Lido มาหลายครั้ง จนค่อนข้างจะเห็นกลุ่มเป้าหมายของเธอ
“เราพบว่า ถ้ามีการเติบโตของคนดูที่ค่อนข้างจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เราก็สามารถมีโรงหนังแบบนี้ได้ มันทำให้คนหลายคนที่ไม่รู้จักได้เข้ามารู้จักมากขึ้นอีก”
พ่อฟังอยู่ประมาณ 15 นาทีแล้วบอกว่าเอาสิ และช่วยควักทุนให้
“บางทีคุณพ่อท่านก็คงคิดว่า ถ้าบอกก็คงไม่เชื่อมั้งคะ” (หัวเราะ)
Profile
Name : ชมศจี เตชะรัตนประเสริฐ
Born : 27 เมษายน 2522
Education :
โรงเรียนเรวดี ประถม 1-6
โรงเรียนสาธิต ปทุมวัน มัธยม 1-5
ปริญญาตรี ศิลปศาสตร์ สาขาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จบ 3 ปีครึ่ง
Career Highlights :
2543 Marketing Co-ordinator (1/2ปี)
ปัจจุบัน Sales Manager ของเครือสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นเนล
Family :
บุตรสาวคนที่สามคนของครอบครัวเตชะรัตนประเสริฐ โดยมีน้องชาย 1 คน