Stephen R. Covey : From Effectiveness to Greatness

ถ้าหนังสือเล่มหนึ่งสามารถทำยอดขายได้กว่า 15 ล้านเล่ม ถูกแปลเป็นภาษาต่างๆ กว่า 38 ภาษา และยังคงความนิยมอย่างสูงมาตลอด 15 ปี คงไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้เขียนและแนวคิดของเขาจะมีอิทธิพลต่อผู้คนมากมายขนาดไหน

หนังสือคลาสสิกเล่มที่ว่านี้ก็คือ The 7 Habits of Highly Effective People ที่เขียนโดย Stephen R. Covey หุ้นส่วนผู้ก่อตั้งบริษัท FranklinCovey องค์กรด้านการพัฒนาภาวะผู้นำและความมีประสิทธิผลในการทำงาน และอาจารย์แห่ง Brigham Young University สหรัฐอเมริกา

Covey เขียนหนังสือเล่มนี้ออกมาในปี ค.ศ. 1989 ซึ่งพอเหมาะพอเจาะกับยุคที่ผู้คนกำลังกระหายแนวคิดใหม่ๆ ในการค้นพบสิ่งที่พวกเขาต้องการในชีวิต ส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้หนังสือเล่มนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูง แนวคิดที่ฉีกจากหนังสือแนว How to ทั่วไปที่มักแนะนำให้เปลี่ยนแปลงการกระทำภายนอก ขณะที่ Covey ย้ำความสำคัญของการเอาชนะตัวเองและเปลี่ยนแปลงจากภายใน ไม่ใช่แค่บุคลิก แต่ลงลึกถึงอุปนิสัย

The 7 Habits จึงเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของแนวคิดการพัฒนาตนเองกับคู่มือนักบริหารหรือผู้นำองค์กร และเข้าทางตามหลักการตลาดที่ผนวก 2 กลุ่มเป้าหมายเข้าด้วยกัน ทำให้ครอบครองพื้นที่ได้เป็น 2 เท่า ตัวอย่างของหนังสือที่ประสบความสำเร็จแบบเดียวกันนี้ ก็เช่น Who Moved My Cheese? ของ Spencer Johnson ที่นักอ่านบ้านเรารู้จักกันดี

ประวัติส่วนตัวของ Covey เขาเกิดเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 1932 จบจากมหาวิทยาลัยยูท่าห์ แล้วไปเรียนต่อ MBA ที่ฮาวาร์ด จากนั้นไปได้ปริญญาเอกที่ Brigham Young University ซึ่งระหว่างเรียนเขาก็ทำงานอยู่ที่นั่น ในฐานะผู้ช่วยอธิการบดีและเป็นอาจารย์สอนวิชาการจัดการธุรกิจและพฤติกรรมองค์กร ทางด้านครอบครัว เขาสมรสกับ Sandra Merrill Covey มีบุตรด้วยกัน 9 คน ซึ่งต่อมาก็มีส่วนร่วมในหนังสือบางเล่มของเขาด้วย

ก่อนหน้าที่จะตั้ง FranklinCovey ขึ้นในปี ค.ศ. 1997 นั้น เขาได้ก่อตั้งธุรกิจของตัวเองในนาม Covey Leadership Center ระหว่างนั้นก็ประสบความสำเร็จอย่างสูง ได้รับรางวัลเกียรติคุณมากมาย อาทิ International Entrepreneur of the Year ในปี ค.ศ. 1994 รางวัล Services Entrepreneur of the Year จาก Inc. Magazine และรางวัล National Entrepreneur of the Year ในปี 1996 จนกระทั่ง 30 ตุลาคม 1997 ได้ตัดสินใจรวมกิจการกับ Franklin Quest กลายเป็นบริษัท FranklinCovey ที่มีพนักงานกว่า 3,000 คน ทำรายได้กว่าปีละ 350 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีบริษัทตัวแทนอยู่ในประเทศต่างๆ เกือบทั่วโลก ให้บริการกับลูกค้าองค์กรที่ต้องการจัดฝึกอบรมเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพและภาวะผู้นำของบุคลากร ในเมืองไทยเองมี Pacrim Group เป็นตัวแทนที่ได้รับอนุญาตเพียงรายเดียว

นอกเหนือจากหนังสือ The 7 Habits of Highly Effective People ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงแล้ว Covey ได้ออกซีดีเรื่องเดียวกันตามมาด้วย ทำยอดขายได้กว่า 1.5 ล้านแผ่น หนังสือด้านภาวะผู้นำในชื่อ Principle-Centered Leadership ก็มียอดขายกว่า 1 ล้านเล่ม ขณะที่หนังสือเกี่ยวกับการบริหารเวลาชื่อ First Things First ที่เขาเขียนร่วมกับ A. Roger และ Rebecca R. Merrill ก็มียอดขายกว่า 2 ล้านเล่ม และ The 7 Habits of Highly Effective Families ที่ตีพิมพ์ออกมาเมื่อปี 1997 ก็ขึ้นแท่นหนังสือขายดี ติดอันดับ 4 ของชาร์ต New York Times หลังวางแผงแค่ 3 เดือน

ตลอดเวลาที่ผ่านมาแนวคิดจากหนังสือ The 7 Habits of Highly Effective People ถูกนำไปใช้สร้างประสิทธิภาพให้กับองค์กรต่างๆ มากมาย อาทิ บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายหนึ่งสามารถเพิ่มคุณภาพการทำงานได้ 40% เพิ่มการผลิตได้เป็น 2 เท่าโดยไม่ต้องเพิ่มคน และเพิ่มประสิทธิภาพการส่งสินค้าได้ตรงเวลาถึง 98% หรือกรณีของอีกบริษัทที่สามารถลดค่าใช้จ่ายได้กว่า 3.5 ล้านเหรียญ จากการพัฒนากระบวนการผลิต

Covey ได้เก็บรวบรวมข้อมูลเหล่านี้ ผนวกกับประสบการณ์ความสำเร็จในการทำงานของเขาเอง เป็นเหมือนการวิจัยเชิงลึกเก็บข้อมูลซ้ำจากแหล่งเดียวกันในระยะยาว จนล่าสุดเป็นที่มาของการตีพิมพ์ภาคต่อของ The 7 Habits of Highly Effective People ในชื่อว่า The 8th Habit : From Effectiveness to Greatness

หนังสือเล่มนี้มีกำหนดวางแผงพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 9 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ และ Covey ได้นำเสนอความเป็นผู้มีประสิทธิผลสูงของตัวเขาเอง ด้วยการตระเวนบรรยายทั่วโลกเพื่อโปรโมตหนังสือเล่มใหม่ สำหรับคนไทยที่ต้องการพิสูจน์ว่าค่าบัตร 15,000 บาท จะสามารถสร้างประสิทธิผลให้กับชีวิตและการทำงานได้มากแค่ไหน เตรียมพบกับเขาได้ที่อิมแพค อารีน่า ในวันที่ 17 พฤศจิกายน

Did you know?

7 อุปนิสัยพัฒนาสู่ผู้มีประสิทธิผลสูง (ฉบับภาษาไทยเรียบเรียงโดย สงกรานต์ จิตสุทธิภากร)
อุปนิสัยที่ 1 : บี โปรแอคทีฟ
อุปนิสัยที่ 2 : เริ่มต้นด้วยจุดมุ่งหมายในใจ
อุปนิสัยที่ 3 : ทำสิ่งที่สำคัญก่อน
อุปนิสัยที่ 4 : คิดแบบชนะ/ชนะ
อุปนิสัยที่ 5 : เข้าใจผู้อื่นก่อนแล้วจึงให้ผู้อื่นเข้าใจเรา
อุปนิสัยที่ 6 : ผลึกพลังประสานความต่าง
อุปนิสัยที่ 7 : ลับเลื่อยให้คมอยู่เสมอ