เคี้ยวเพื่อสุขภาพ (ปากและฟัน)

LOTTE มุ่งพัฒนาตลาดหมากฝรั่งป้องกันฟันผุซึ่งอาศัยกระแสรักสุขภาพฉุดให้ segment นี้เติบโตขึ้นถึง 3 เท่า โดย LOTTE ประมาณการว่าปี 2548 ตลาดหมากฝรั่งป้องกันฟันผุจะมีมูลค่า 178 ล้านบาท ขณะที่แนวโน้มตลาดหมากฝรั่งเคลือบน้ำตาลถึงทางตันหดตัวลง 3% เนื่องจากผู้บริโภคหันไปบริโภคขนมขบเคี้ยวและขนมหวานชนิดอื่น และแม้กระทั่งหมากฝรั่งไร้น้ำตาลซึ่งเป็นตลาดที่พัฒนาขึ้นมาอีกขั้นส่อแววไม่ไฉไล เพราะมีอัตราการเติบโตคงที่

อีกนัยหนึ่งการที่ LOTTE เบนเข็มมาเข็นตลาดหมากฝรั่งป้องกันฟันผุที่มีมูลค่าไม่ถึง 100 ล้านบาทนี้อาจเป็นเพราะ ตลาดหมากฝรั่งเคลือบน้ำตาลซึ่งเป็นตลาดใหญ่สุดนั้น LOTTE มีส่วนแบ่งอยู่เพียงน้อยนิด เมื่อมิอาจเป็นผู้นำใน segment นี้ จึงหันไปทุ่มเทกับ segment ที่กำลังพุ่งแรงแทนโดยภายใน 5 ปี LOTTE ขอไว้ลายศักดิ์ศรีธุรกิจเลือดซามูไร ด้วยการขึ้นเป็นที่ 1 ครองความเป็นเจ้าตลาดหมากฝรั่งในเมืองไทยอย่างเบ็ดเสร็จ หวังสยบ Cadbury’s Adams ให้ราบคาบ เพราะ LOTTE เชื่อว่าตลาดหมากฝรั่งในเมืองไทยจะเจริญรอยตามตลาดโลก โดยเฉพาะญี่ปุ่นซึ่งกว่า 51% เป็นตลาดหมากฝรั่งป้องกันฟันผุ ขณะที่เมืองไทยมีส่วนแบ่งเพียง 4.4% เท่านั้น

ด้าน Recaldant ของค่าย Cadbury Adams ซึ่งเพิ่งเปิดตัวหมากฝรั่งป้องกันฝันผุไปเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ก็โต้ว่าการที่ Lotte Xylitol อ้างว่า Recaldant ไม่ใช่หมากฝรั่งป้องกันฝันผุ เพราะไม่ได้มีส่วนผสมของสาร Xylitol นั้นไม่เป็นความจริง เนื่องจากสาร CPP-ACP ของ Recaldent นั้นก็มีสรรพคุณเสริมสร้างให้ฟันแข็งแรงทำให้เกิดการคืนกลับของแร่ธาตุสู่ผิวฟัน ป้องกันฟันผุได้ด้วย

LOTTE XYLITOL
Company : บริษัท ไทยลอตเต้ จำกัด เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท ลอตเต้ จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) และกลุ่มบริษัทเครือสหพัฒนพิบูล โดยเป็นการลงทุนในต่างประเทศครั้งแรกของลอตเต้ เริ่มดำเนินการเมื่อปี 2531
Official Launch : พฤศจิกายน 2547 (ก่อนหน้าจะออกรสบลูเบอร์รี่ LOTTE XYLITOL รส Peppermint และ Lime ถูกแนะนำสู่ตลาดเมืองไทยตั้งแต่ตุลาคม 2546)
Product Detail : รสบลูเบอร์รี่ แบบแผงบรรจุ 8 เม็ด ราคา 12 บาท แบบขวดบรรจุ 40 เม็ด ราคา 56 บาท
Positioning : หมากฝรั่งป้องกันฝันผุ ภายใต้แนวคิด “เคี้ยวซะ…ไม่ทำให้ฟันผุ”
Target : ผู้ที่ใส่ใจรักษาสุขภาพปากและฟัน
Strategy : จาก sampling และโบชัวร์ให้ความรู้เกี่ยวกับสาร XYLITOL กับผู้บริโภค

พัฒนาการหมากฝรั่งในไทย

หมากฝรั่งเคลือบน้ำตาล : เคี้ยวเพื่อประโยชน์ด้านจิตวิทยา ขจัดกลิ่นปาก และให้ลมหายใจสดชื่น : ส่วนแบ่ง 94.6%
หมากฝรั่งไร้น้ำตาล : เปิดตลาดในไทยเมื่อปี 2545 กระแสรักสุขภาพเริ่มก่อตัว สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลถูกนำมาใช้ : ส่วนแบ่ง 1%
หมากฝรั่งป้องกันฟันผุ : สร้างกระแสเป็นครั้งแรกโดย LOTTE ด้วยการแนะนำ XYLITOL : ส่วนแบ่ง 4.4%

มูลค่าตลาดรวมหมากฝรั่งในไทย

2546 : 1,625 ล้านบาท
2547 : 1,644 ล้านบาท
2548 : (โดยประมาณ) 1,712 ล้านบาท

ที่มา : บริษัท ไทยลอตเต้ จำกัด

หมากฝรั่งป้องกันฟันผุ มูลค่า 89 ล้านบาท

LOTTE XYLITOL 91%
Wrigley Extra XYLITOL 9%

ที่มา : บริษัท ไทยลอตเต้ จำกัด

หมากฝรั่งไร้น้ำตาล มูลค่า 51 ล้านบาท

Trident 97%
LOTTE 4 %
Recaldent 3 %

ที่มา : บริษัท ไทยลอตเต้ จำกัด

หมากฝรั่งเคลือบน้ำตาล มูลค่า 1,504 ล้านบาท
Dentene 24%
Ciclete 18%
Wrigley stick gum 14%
LOTTE 8%
Others 36%

ที่มา : บริษัท ไทยลอตเต้ จำกัด

ตลาดหมากฝรั่งรวมในไทย แบ่งตามบริษัท

Cadbury Adams 58.2 %
Wrigley 16.6 %
LOTTE 13.8%
MS Group 8.3%

ที่มา ACNielsen Retail Audit

เปรียบเทียบคุณสมบัติสาร Xylitol vs CPP-ACP

Xylitol – พบได้ในพืช ผัก ผลไม้หลายชนิด อาทิ สตรอเบอร์รี่ ต้นเบิร์ช ร่างกายก็สามารถผลิตได้เองในระหว่างการสันดาปของกลูโคส โดยมาในกระบวนการผลิตมักสกัดมากจาต้นเบิร์ช ในประเทศฟินแลนด์ ช่วยลดจำนวนแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดฟันผุ ลดการเกิดหินปูน

CPP-ACP – สกัดจากโปรตีนในนมวัว สามารถซ่อมแซมฟันผุในระยะเริ่มแรกได้ สาร CPP-ACP แตกต่างจาก Xylitol คือ Xylitol เป็นน้ำตาลแอลกอฮอล์ที่มีความหวานเหมือนน้ำตาลแต่ให้พลังงานน้อยกว่า เมื่อผสมกับผลิตภัณฑ์ที่ต้องเคี้ยวจะกระตุ้นการหลั่งน้ำลาย ลดความเป็นกรดในปาก โอกาสที่ฟันจะผุเลยน้อยลง ขณะที่ CPP-ACP ประกอบด้วยสารแคลเซียมและฟอสเฟตในสภาพที่พร้อมละลาย จะแทรกซึมเข้าไปยึดติดกับผิวฟัน กระตุ้นให้เกิดการคืนกลับของแร่ธาตุสู่ผิวฟัน ทำให้ผิวฟันแข็งแรงอีกครั้ง