Credit Card & Car Come Together

KTC หรือบริษัทบัตรกรุงไทย ใช้งานมหกรรมมอเตอร์ เอ็กซ์โป เปิดตัว บัตร KTC-S.E.C group VISA สำหรับลูกค้าของ S.E.C Group ซึ่งเป็นตัวแทนนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศโดยเฉพาะ

ความเคลื่อนไหวของ KTC ครั้งนี้ เป็นการยกระดับลูกค้าของ KTC ไปสู่ระดับ “พรีเมียม”มากขึ้น ก่อนหน้านี้ในมหกรรมมอเตอร์โชว์เมื่อตอนต้นปีที่ผ่านมา KTC ก็ได้ร่วมมือกับบริษัท มาสด้า ประเทศไทย ให้สิทธิพิเศษของบัตร KTC กับกลุ่มลูกค้าของมาสด้ามาแล้ว

การร่วมมือกับ S.E.C Group นับว่าเป็นการสร้างข้อได้เปรียบ โดยอาศัยฐานลูกค้าของ S.E.G Group เพราะเป็นลูกค้าที่มีกำลังจับจ่ายสูงและมีความน่าเชื่อถือสูง โดย KTC คาดหวังลูกค้าใหม่จาก S.E.C ในงานมอเตอร์ เฮ็กซ์โปครั้งนี้เอาไว้ที่ 5พันใบ

KTC ยังคงร่วมมือกับ “มาสด้า” อยู่เช่นเดิม เพียงแต่คราวนี้ KTC เลือกลูกค้าชั้นดีเป็นจำนวน 20,000 คนเท่านั้นที่จะได้รับสิทธิพิเศษจากมาสด้าในการเป็นเจ้าของรถยนต์มาสด้า 3 และไม่เพียงแค่มาสด้า กับ S.E.C Group เท่านั้นในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โปเอง KTC ก็ยังได้ดึงเอา Mini Cooper เป็นพันธมิตรด้วยอีกราย

นัยสำคัญในการเคลื่อนไหวของ KTC ในครั้งนี้คงจะไม่ใช่เพียงสิทธิพิเศษและพันธมิตรธุรกิจที่เพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่คงจะเป็นความชัดเจนที่ทาง KTC พยายามคัดเลือกลูกค้ามากยิ่งขึ้น เพื่อจัด segment ให้ชัดเจนมากขึ้น เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมา KTC ได้ชื่อว่าเป็นบัตรเครดิตที่ถือว่ามีลูกค้ามากที่สุดถึงระดับล้านใบ แต่ในทางกลับกันจำนวนระดับล้านใบที่ผ่านมาของ KTC มีลูกค้าที่หลากหลายมากเช่นกัน

KTC ในวันนี้จึงหันมามองคำว่า “ลูกค้าคุณภาพ” เพราะที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ KTC ประสบความสำเร็จทางด้าน “จำนวนลูกค้า” ไปแล้ว

Did you know?

ในปีหน้า KTC มีแผนที่จะออกบัตรเครดิตมาอีก 1 รุ่น คือ KTC บัตรดำ ซึ่งทาง KTC วาง positiong ไว้สำหรับกลุ่มนักการเมืองและลูกค้าระดับบน เพราะ KTC บัตรดำจะไม่ใช้วิธีรับสมัคร แต่จะใช้วิธีที่ KTC จะเป็นคนเชิญลูกค้าเข้ามาเอง

ในช่วงที่ประเทศไทยอยู่ในภาวะที่เศรษฐกิจฟองสบู่ในระดับที่ดัชนีตลาดหุ้นขึ้นไปอยู่เหนือ 1 พันจุดนั้นค่านิยมหนึ่งที่เกิดขึ้นในสังคมเมืองคือ 4 C คือ คนต้องมี Car, Credit Card, Condominium และ Computer มาในวันนี้ KTC ได้นำ 2 ใน 4 C กลับมาอีกครั้งมาใช้เป็นกลยุทธ์ในการสร้างฐานลูกค้าที่ชัดเจน แต่สิ่งที่ต้องคำนึงก็คือทั้งฝั่งของ KTC และ ฝั่งของลูกค้าเอง ต้องใช้อย่างระมัดระวัง เพราะคงไม่มีใครต้องการที่จะเห็นฟองสบู่ฟองใหม่ที่รอวันแตกอย่างแน่นอน