เข้าศักราชใหม่ ไทยแอร์เอเชียออกตัวด้วยนวัตกรรมใหม่ของสายการบินต้นทุนต่ำของไทย คือ “บัตรเครดิตไทยแอร์เอเชีย” โดยร่วมมือกับแคปปิตอล โอเค ซึ่งอยู่ใต้ร่มเงากลุ่มชิน คอร์ปด้วยกัน และจับกลุ่มรากหญ้าเหมือนกัน และได้ “มาสเตอร์ การ์ด” มาเป็นตัวกลาง วางระบบชำระเงิน
หากชำแหละกลยุทธ์ร่วมมือกันครั้งนี้ออกมาเป็นมุมมองของแต่ละฝ่าย จะเห็นว่านี่อาจไม่ใช่แค่ วิน-วิน (win-win strategy) แต่อาจจะเป็นสถานการณ์แบบ “วิน วิน-กว่า และวิน-ที่สุด”
เริ่มจากบริษัท มาสเตอร์ การ์ด ดีลครั้งนี้ น่าจะช่วยขยายฐานไปสู่กลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์เป็นนักเดินทางผู้นิยมสายการบินโลว์คอสต์ ซึ่งจะมีลูกค้าหน้าใหม่เพิ่มขึ้นจำนวนหนึ่ง
ก่อนหน้านี้ Visa ได้ร่วมกับ KTC ออกบัตร KTC Travel Visa Mini Card จับกลุ่มลูกค้านักเดินทาง โดยมีพันธมิตรเป็นสายการบินและบริษัทท่องเที่ยวที่หลากหลายกว่า ฐานลูกค้าจึงกว้างและครอบคลุมกว่า และที่สำคัญคือ คนกลุ่มนี้น่าจะตรงกลุ่มเป้าหมายของบัตรเครดิตมากกว่า
ส่วนแคปปิตอล โอเค ที่เพิ่งเริ่มออกสตาร์ทอย่างจริงจังในปีนี้ จะได้ฐานลูกค้าของไทยแอร์เอเชียที่ปัจจุบันมีสูงถึง 1.2 ล้านราย และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเกือบเท่าตัวมาเป็นฐานลูกค้า ขณะเดียวกันก็ยังได้ขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มบีขึ้น ตามกฎเหล็กว่าด้วยเงินเดือนขั้นต่ำของผู้ถือบัตรเครดิต นอกจากนี้ การรุกเข้าสู่ธุรกิจบัตรเครดิตก็ทำให้แคปปิตอล โอเค บรรลุเป้าหมายที่เคยตั้งไว้ ภายในเวลาอันรวดเร็ว
แน่นอนว่า ไทยแอร์เอเชีย จะได้ชื่อว่าเป็นสายการบินแรกในเมืองไทยที่มีบัตรเครดิตเป็นชื่อของตัวเอง เงื่อนไขต่างๆ ยังถูกออกแบบไว้อย่างสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าไทยแอร์เอเชียโดยเฉพาะ ซึ่งมักเป็นกลุ่มคนที่ใช้เงินเพื่อประโยชน์สูงสุด ดังนั้น เงื่อนไขที่ว่า “เมื่อสมัครบัตรนี้ แล้วมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 3 พันบาทขึ้นไป ภายใน 31 มี.ค. นี้ จะได้รับตั๋วไป-กลับในประเทศฟรี 1 ที่นั่ง” ก็จึงเป็นเงื่อนไขที่ดึงดูดใจ มากกว่าบัตรเครดิตอื่นที่ต้องใช้เงินมากกว่านี้กว่าจะได้ตั๋วเครื่องบินฟรี
นอกจากนี้ เงื่อนไขที่ว่า “รับตั๋วไป-กลับฟรีอีก 1 ที่นั่ง เมื่อซื้อบัตรโดยสารหรือสินค้าปลอดภาษีของสายการบินไทยแอร์เอเชียครบทุกๆ หนึ่งหมื่นบาท” ก็น่าจะช่วยลดความเสี่ยงที่ลูกค้าจะหันไปเลือกสายการบินต้นทุนต่ำคู่แข่งได้ ยังช่วยกระตุ้นรายได้จากความสะดวกในการจับจ่ายผ่านบัตรเครดิต และความอยากได้ของฟรีของลูกค้า ไม่ต่างไปจาก Loyal Program หรือโปรแกรมสะสมไมล์ของสายการบินปกติ นั่นเอง
…แต่ที่จะได้ประโยชน์สูงสุด คือ “ชินคอร์ป” เพราะงานนี้เป็นการร่วมมือของบริษัทลูกทั้งสองแห่ง
Did you know?
แคมเปญ “บัตรเครดิตไทยแอร์เอเชีย” เป็นกลยุทธ์เดียวกับที่ “แอร์เอเชีย” ใช้ในประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์มา ตั้งแต่ เม.ย. ปีที่ผ่านมา โดยร่วมกับ “มาสเตอร์การ์ด” เช่นเดียวกัน ซึ่งในมาเลเซียมี RHB Banking Group เป็นผู้ออกบัตร ส่วนที่สิงคโปร์มี DBS Singapore Bank (ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น 40% ในแคปปิตอล โอเค) เป็นผู้ออกบัตร
Website
www.airasia.com
www.capitalok.com
www.mastercard.com
www.dbs.com
www.rhbbank.com
