ในระหว่างเหนื่อยหาพล็อตเรื่องใหม่ๆ ที่นานๆ จะได้ผลโกยกำไรเปรี้ยงปร้าง ฮอลลีวู้ดก็มีวิธีการที่สร้างรายได้แบบไม่ต้องรอลุ้น ด้วยการทำหนังตอนต่อจากหนังที่ขายดีมากๆ ซึ่งเป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันมาเป็นปกติ แต่ทำท่าจะมากเกินไปในปี 2005 นี้ที่หันไปทางไหนก็จะมีแต่หนังภาคต่อ (Sequel) หรือไม่ก็หนังทำใหม่ (Remake) ซึ่งเป็นการเอาหนังฮิตในอดีตมาสร้างใหม่อีกครั้ง
ปีที่แล้วนั้น ยังปิดท้ายปลายปี ด้วยหนังภาคต่อที่ขายดีมากเกินคาดคือหนังตลกภาคต่อจาก Meet the Parents เรื่อง Meet the Fockers ภาคแรกเป็นการนำแฟนหนุ่มไปพบพ่อแม่และถูกทดสอบต่างๆ นานา ส่วนภาคนี้แฟนสาวต้องไปพบพ่อแม่ผู้ชายบ้าง
หนังตลกพล็อตเรื่องง่ายๆ เน้นที่ความเข้มงวดของพ่อแม่ในการต้อนรับอนาคตลูกสะใภ้นี้สร้างสถิติด้วยการเป็นหนังทำรายได้สูงสุด ในอเมริกา ทั้งวันคริสต์มาส ทำลายสถิติเดิมของ Cast Away วันส่งท้ายปีเก่าและวันปีใหม่ ทำลายสถิติเดิมของ Lord of The Ring
ก่อนหน้านี้ปี 2000 Meet the Parents ทำรายได้รวมทั้งหมด 166 ล้าน แต่ภาคต่อทำรายได้เฉพาะในอเมริกาไปแล้ว 162 ล้านดอลลาร์
The Harry Potter and the Prisoner of Azkaban 3 เป็นหนังภาคต่อที่รายได้น้อยลง แต่กำไรก็ยังมากมหาศาล โดยตอนแรก ทำรายได้รวม 976 ล้านดอลลาร์ ตอนที่สองทำรายได้รวม 876 ล้านดอลลาร์ ตอนที่สามนี้ทำรายได้ต่างประเทศ 540 ล้านดอลลาร์ และในอเมริกา 221 ล้านดอลลาร์
หนังขายดีที่สุดในตลาดต่างประเทศ ยังเป็นหนังภาคต่อทั้งหมด มี Shrek 2 ซึ่งทำรายได้ต่างประเทศสูงถึง 465 ล้านดอลลาร์ และ LOTR : The Return of the King ซึ่งทำรายได้ต่างประเทศสูงถึง 425 ล้านดอลลาร์ Spider-Man 2 ทำรายได้ต่างประเทศ 375 ล้านดอลลาร์ และ Bridget Jones : The Edge of Reason รายได้ต่างประเทศ 165 ล้านดอลลาร์
ที่กำลังลงโรงฉาย ยังนับเงินไม่เสร็จ คือ Ocean’s Twelve ซึ่งเป็นภาคต่อของ Ocean’s Eleven ที่เคยทำรายได้ทั่วโลก 450 ล้านดอลลาร์ โดยแบ่งเป็นรายได้ต่างประเทศ 184 ล้านดอลลาร์ ภาคใหม่นี้ทำรายได้ต่างประเทศไปแล้ว 162 ล้านดอลลาร์
หนังภาคต่อที่ฟอร์มใหญ่ที่สุดในปีใหม่นี้คือ หนังวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการต่อสู้ในอวกาศ Star Wars : Episode III– Revenge of the Sith ของจอร์จ ลูคัส ที่กำหนดฉายเดือนพฤษภาคม เป็นภาคต่อจาก Episode I — The Phantom Menace ปี1999 และ Episode II — Attack of the Clones ปี 2002 โดยภาคล่าสุดดาราร่วมแสดงเหมือนเดิมคือ อวน แมคเกรเกอร์ ร่วมด้วย นาตาลี พอร์แมน และเฮย์เดน คริสเตน
รายได้ของสตาร์วอร์ส สองภาคก่อนมีดังนี้ Star Wars : Episode I – The Phantom Menace ปี 1999 ได้ 925 ล้านดอลลาร์จากทั่วโลก แบ่งเป็น 490 ล้านดอลจากตลาดต่างประเทศ Star Wars : Episode II – Attack of the Clones ปี 2002 ได้ประมาณ 625 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็น 324 ล้านจากตลาดต่างประเทศ
นอกจาก Star Wars แล้วปีนี้ยังมีการกลับมาของ “ตัวการ์ตูนดังในโลกภาพยนตร์” ซึ่งคุ้นๆ กัน คือ มนุษย์ค้างคาว แบทแมน เสือสีชมพู พิงค์ แพนเธอร์ด้วย
แบทแมนภาคใหม่ กำหนดเปิดตัวฉายในเดือนมิถุนายน โดยมีคริสเตียน เบล รับบทเป็นแบทแมน ส่วน เสือการ์ตูนพิงค์ แพนเธอร์ หายไปจากจอภาพยนตร์มาเป็นเวลานาน นับแต่เจ็ดซีรี่ส์ช่วงปี 1964-1983 ที่หกตอนแรก นำแสดงโดยปีเตอร์ เซลเลอร์ ผู้ล่วงลับ และทิ้งห่างมาตอนล่าสุด The Son of Pink Panther ปี 1992 สำหรับตอนใหม่ The Pink Panther ดารานำคือสตีฟ มาร์ติน ตลกรุ่นใหญ่
นอกจากนั้นหนังภาคต่อ สำหรับภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องเชิงโลกจินตนาการปีหน้า ยังมี Harry Potter and the Goblet of Fire ซึ่งเป็นหนังแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ภาคที่สี่แล้ว และเริ่มใช้ผู้กำกับคนใหม่มาตั้งแต่ภาคที่สาม คราวนี้กำกับโดยไมค์ เนเวลล์ กำหนดฉายเดือนพฤศจิกายน
Son of the Mask ภาคสองของภาพยนตร์แนวตลกกึ่งเรื่องเชิงโลกจินตนาการ ที่ได้เจมี่ เคนเนดี้ รับบทต่อจากจิม แคร์รี่ย์
The Legend of Zorro เป็นภาคสองของ The Mask of Zorro โดยมีดาราคู่เดิม คือ แอนโทนิโอ แบนเดรัส และแคทเธอลีน ซีต้า-โจนส์
นอกจากนั้นยังมี Underworld : Evolution ภาคสองของหนังผีดิบในโลกใต้ดิน ในส่วนหนังกึ่งวิญญาณเขย่าขวัญก็มีภาคต่อคือ The Ring Two กำหนดฉายในเดือนมีนาคม นำแสดงโดยนาโอมิ วัตต์ ส่วนในเทศกาลฮัลโลวีนปลายเดือนตลุาคม มีเรื่อง Night of the Living Dead ภาคที่สี่ในชื่อตอนว่า George A. Romero’s Land of the Dead
หนังภาคต่อในแนวเรื่องแบบโลกจริง มีเรื่อง Miss Congeniality 2 : Armed and Fabulous กำหนดเข้าฉายเดือนมีนาคม โดยมีแซนดร้า บูลล็อค รับบทตำรวจหญิงคนสวยเหมือนเดิม
เดือนเดียวกันนั้นยังมี Be Cool เป็นภาคต่อของ Get Shorty มีจอห์น ทราโวลตร้า รับบทนำ Beauty Shop เป็นภาคสองของหนังเรื่อง Barbershop นำแสดงโดยควีน ลาติฟาห์ เหมือนเดิม เดือนเมษายนมี XXX : State of the Union ที่ไอซ์ คิวบ์ นักร้องแร็พมารับบทแทนดารากล้ามใหญ่ วิน ดีเซล จากภาคแรก XXX เดือนสิงหาคมมีหนังตลก ภาคสอง Deuce Bigalow : European Gigolo นำโดย ร็อบ ชไนเดอร์
นอกจากนั้น ปีหน้ายังมีหนังภาคต่อที่ยังไม่ได้กำหนดวันเข้าฉายอีกสามเรื่องคือ Big Momma’s House 2 หนังตลกนำแสดงโดยมาร์ติน ลอว์เรนซ์ Transporter 2 หนังบู๊เกี่ยวกับการไล่ล่าอาชญากร และ Final Destination 3 หนังสยองขวัญเกี่ยวกับฆาตกรลึกลับ
แม้แต่หนังเด็กก็มีภาคต่อ จากวอล์ท ดิสนีย์ มีเรื่อง Pooh’s The Heffalump หนังตอนล่าสุดจากชุด Winnie-the-Pooh และ Herbie : Fully Loaded เรื่องของรถโฟล์คเต่าที่พูดได้
ในส่วนของหนังเก่าเอามาทำใหม่มีเรื่อง Precinct 13 จากหนังในปี 1976 Guess Who จากหนังดังปี 1967 เรื่อง Guess Who’s Coming To Dinner, The Amityville Horror หนังผีคลาสสิกจากปี 1979, Fun With Dick and Jane หนังตลกจากปี 1977 แสดงใหม่โดยจิม แคร์รี่ย์ และที ลีโอนิ, The Bad News Bears หนังเกี่ยวกับโค้ชเบสบอลทีมเล็กๆ จากต้นฉบับปี 1976
สัตว์ดังในอดีต คิง คอง ก็จะกลับมาใหม่ด้วยทุนสร้างประมาณ 110 ล้านดอลลาร์ หลังจากภาพยนตร์ดังมากเมื่อปี 1975 ที่เคยทำรายได้ตอนนั้นถึง 80 ล้านดอลลาร์ และคิงคองยังเคยสร้างมาแล้วในปี 1933 และ 1962 ด้วย
ถ้าจะมีเรื่องใดที่คาดเดาได้ในโลกการสร้างภาพยนตร์ของฮอลลีวู้ดแล้วล่ะก็ มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่แทบไม่มีพลิกล็อก คือหนังภาคต่อหรือของเก่าเอามาสร้างใหม่มักทำเงินได้ไม่มีขาดทุนแน่


