“โครงการนี้เป็นโครงการแรกใน 5 โครงการใหญ่ของแอมต้าในปี 2548 ที่ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจรายแรกคือ บริษัท เค เอส ซี คอมเมอร์เชียล อินเตอร์เนต จำกัด ในการนำศิลปินดารา หรือบุคคลที่มีชื่อเสียง (Celebrity) เข้ามามีส่วนร่วมในผลิตภัณฑ์ของพันธมิตรทางธุรกิจ”
คำแถลงของนายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทบริหารจัดการสิทธิศิลปินไทย จำกัด หรือที่รู้จักกันในนาม แอมต้า เมื่อครั้งประกาศจับมือกับ เค เอส ซี ยกขบวนดาราดังในความดูแล 12 คน มาเป็นโฉมหน้าของบัตรคอลเลกชั่นพิเศษ KSC Star Card ซึ่งบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของไทยย้ำว่าเป็นกลยุทธ์เพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ ในการกระตุ้นตลาดเน็ตแพ็กเกจตั้งแต่ต้นปี 2548
งานครั้งนี้ จัดเป็นการเปิดยุทธวิธีที่ชัดเจนในการเพิ่มมูลค่าศิลปินของแอมต้าหลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคม 2547 ที่ผ่านมา และยังตรงกับแผนงานด้านการตลาดที่วางไว้ในการที่จะมุ่งเจาะตลาดวัยรุ่น และการร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสมกับตลาดวัยรุ่น และผู้ที่ชื่นชอบความบันเทิง
การใช้ดาราหรือคนดังเป็นจุดขายบนตัวสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ดูจะเป็นเรื่องสามัญธรรมดา โดยเฉพาะการเลือกจับตลาดของคนกลุ่มมาก ซึ่งอาจจะไม่ได้หมายรวมถึงกลุ่มวัยรุ่นอย่างเดียว ก่อนหน้านี้ เค เอส ซี เคยใช้ภาพของตัวการ์ตูนการ์ฟิวมาแล้ว ก็ได้รับการตอบรับจากแฟนการ์ตูน และผู้ที่นิยมสะสมได้พอสมควร
การเลือก Packaging ให้ตรงใจนั้นนับเป็นเรื่องที่เจ้าของสินค้าต้องทำการบ้านอย่างมาก เค เอส ซี เลือกที่จะใช้หน้าตาของดาราในการสร้างจุดขายให้กับบัตรอินเทอร์เน็ตเพื่อดึงดูดลูกค้า เพราะนอกจากจะนำเสนอความสะดวกในการใช้งานเชื่อมต่อเข้าสู่เครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือการให้บริการฟรีอีเมลแล้ว โปรโมชั่นที่ให้ผู้ซื้อบัตรได้มีโอกาสลุ้นรางวัลเข้าร่วมทำกิจกรรมกับศิลปินที่ได้รับความนิยมสูงสุด เป็นการตอกย้ำความชัดเจนในการเลือกดารามาเป็นหน้าตาของบัตร ที่จะสร้างคุณประโยชน์ได้มากกว่าการเป็นภาพสะสมเท่านั้น
ยุทธวิธีใช้ดาราสร้างจุดขายนี้ CS Loxinfo เองก็เคยใช้กับบัตร CSLOX KIT โดยการเซ็นสัญญากับแกรมมี่เลือกภาพดารานางแบบคนดังมาลงบัตร อาทิ ลูกเกด เมทินี กิ่งโพยม กับสาวๆ ในสังกัด คลับ เอฟ ซึ่งนายอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเอส ล็อกซ์อินโฟ จำกัด บอกว่าเป็นโครงการที่ทำมาได้ประมาณ 3 ปีแล้ว ซึ่งเขาก็รู้สึกว่าถึงเวลาที่บริษัทฯ ต้องหาอะไรใหม่ๆ มาดึงดูดลูกค้ามากกว่าการใช้ภาพดาราดัง
การใช้ภาพพิมพ์บนบัตร ซี เอส ล็อกซ์อินโฟ เองก็ทำมาอย่างหลากหลาย ขึ้นอยู่กับทีมงานว่าต้องการเลือกที่จะกลุ่มลูกค้ากลุ่มไหน อย่างตัวการ์ตูนหมีพูห์ ภาพกราฟิกดีไซน์ ส่วนตัวเขาเองนั้นมองว่าภาพดาราไม่ได้ส่งผลในการทำให้ลูกค้าหันมาเลือกใช้บัตรของ ซี เอส ล็อกซ์อินโฟมากขึ้น เพียงแต่เป็นทางเลือกที่มีให้กับลูกค้า และเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น
อนันต์มองว่าการสร้างคุณค่าตัวบัตรอินเทอร์เน็ตนั้นไม่ได้มี Power มากเพียงพอเมื่อเทียบกับบัตรสะสมของโทรศัพท์เคลื่อนที่ อย่างกรณีของเอไอเอส ที่เป็นพันธมิตรของซี เอส ล็อกซ์อินโฟทำอยู่ ในการใช้บัตรสมาชิกเป็นส่วนลดสินค้าหรือการใช้บริการ้านค้า จนกระทั่งได้ส่วนลด หรือกิฟต์เซตที่มีบริการอินเทอร์เน็ตแถมไปด้วย การเพิ่มมูลค่าให้กับชุดอินเทอร์เน็ตของ ซี เอส ล็อกซ์อินโฟ จึงมองไปที่ความร่วมมือกับพันธมิตรเป็นหลัก ขณะนี้กำลังดูว่าจะสามารถทำแผนการตลาดร่วมกับ One Two Call ได้อย่างไร
วิถึแห่งการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริการของธุรกิจอินเทอร์เน็ตโดยสร้างแรงดึงดูดบริการผ่านหน้าตาของดารา เป็นหนึ่งในการปรับรูปโฉมของสินค้าเพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัย จัดเป็นการตลาดแบบไลฟ์สไตล์ เพราะโฉมหน้าดาราคงต้องปรับเปลี่ยนไปตามสมัยนิยมและดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้ในช่วงสั้นๆ แต่ก็เป็นสีสันที่น่าจับตาสำหรับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตยุคใหม่
