ผลวิจัย Ogilvy ชี้คนกรุงห่วงสุขภาพ

ผลวิจัย Ogily&Mather ซึ่งทำการสำรวจเก็บข้อมูลชายหญิง 18-55 ปี 300 ราย ในเขตกรุงเทพฯ ที่ใส่ใจดูแลสุขภาพในระดับค่อนข้างมาก-มากที่สุด ทำการสุ่มจากประชากรเกือบ 5,000 คนที่มีรายได้ครอบครัวไม่ต่ำกว่า 25,000 บาท ซึ่งโดยเฉลี่ยจัดเป็นกลุ่ม B+ ของคนกรุงเทพฯ เพื่อเจาะลึกเกี่ยวกับวิถีชีวิตและพฤติกรรมของผู้บริโภคเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ ใน 3 ประเด็นหลัก คือ การออกกำลังกาย การดูแลความงาม และการรับประทานอาหาร “การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเพื่อ set trend ดังนั้นจึงต้องหาคนที่จะเป็น trend setter นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราไม่ทำทั้งประเทศ” พรรณี ชัยกุล กรรมการผู้จัดการ โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ ประเทศไทย ให้เหตุผลถึงกลุ่มตัวอย่างที่เจาะจงอย่างละเอียดและทำเฉพาะในพื้นที่เขตกรุงเทพฯ เท่านั้น

ส่วนหนึ่งของผลวิจัยที่น่าสนใจรายงานว่า กลุ่มชายหญิงอายุ 30-39 ปีเป็นกลุ่มที่ใช้เงินมากที่สุดเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ เช่น ค่าสมาชิก health club ประมาณ 16,080-18,800 บาท/ปี เป็นต้น และกลุ่มหญิงอายุ 18-24 ปีเป็นกลุ่มที่เชื่อว่าคนสวยมีสุขภาพดี และผู้หญิงทำงานอายุ 25-39 ปี ผู้มีรายได้ต่อครอบครัวสูงประมาณเดือนละ 50,000 บาท เป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายมากในการซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม

“เศรษฐกิจไม่ดี คนพยายามที่จะดูแลสุขภาพมากขึ้น ไม่ต้องการป่วยพร่ำเพรื่อ เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลสูง เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนออกกำลังกายมากขึ้น นอกจากเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังต้องการให้ตนเองดูดี นั่นคือใส่ใจในความงามอย่างมาก” ดร.อัญชลี พิชญางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย กล่าวเสริม

การวิจัยครั้งนี้เอื้อประโยชน์ต่อแนวทางการทำธุรกิจจำพวกสถานเสริมความงาม ฟิตเนส เซ็นเตอร์ สปา คอนซูเมอร์ โปรดักส์ และโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะโรงพยาบาลหลายแห่งเริ่มเสนอ check-up package หลายรูปแบบและหลายระดับราคา เช่น ช่วง off-hour ราคาจะต่ำกว่าช่วง peak-hour คือหลังเลิกงาน เป็นกลยุทธ์เพื่อกระจายความหนาแน่นของลูกค้า และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้บริโภคซึ่งไม่ได้ทำงานประจำ

นอกจากนี้ พรรณียังวิเคราะห์จากผลวิจัยชิ้นนี้ว่า แนวทางของแพทย์ทางเลือกซึ่งไม่ใช้ยาและสารเคมี เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และคาดว่าโรงพยาบาลหลายแห่งซึ่งอยู่ในรูปแบบของเครือข่ายจะขยายตัวมากขึ้น ซึ่งเกื้อหนุนให้การลงเม็ดเงินด้านการตลาดมีความคุ้มค่า

และขณะนี้พบว่ามีโรงพยาบาลหลายแห่ง อาทิ โรงพยาบาลนนทเวช ก็ได้มีการตั้งศูนย์แพทย์แผนไทยประยุกต์ รักษาโดยแพทย์อายุรเวท ใช้วิธีนวดแบบราชสำนัก การนวดกดจุดรักษาโรค และแพทย์แผนจีน ส่วนโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ มีศูนย์แพทย์ทางเลือกด้วยเช่นกัน ขณะที่โรงพยาบาลกรุงเทพเสนอ check-up package ราคาเริ่มต้นที่ 1,400-4,900 บาท

นับเป็นการปรับตัวในการทำการตลาดที่นับวันจะเป็น individual marketing มากขึ้น เนื่องจากคำว่า “ลูกค้าคือพระเจ้า” แสดงอิทธิพลมากขึ้นทุกวัน

Website

www.ogilvy.com