POSITIONING ได้นัดพบกลุ่มเกย์ที่เปิดเผยตนเองว่าเป็นเกย์ ที่ร้าน Coffee Society สีลม ในช่วงค่ำของวันเสาร์ พวกเขาบางคนเป็นเพื่อนกันมาก่อน บางคนเพิ่งรู้จักต่อๆ กันมา เราพูดคุยกับบุคคลเหล่านี้ถึงเรื่อง lifestyle การใช้ชีวิตของแต่ละคน ซึ่งมีทั้งส่วนที่เหมือนและคล้ายคลึง ใกล้เคียงกับผลงานวิจัยของ กิ่งรัก อิงคะวัติ แม้จะเป็นผลงานวิจัยที่ผ่านมาแล้วกว่า 5 ปี แต่ก็นับว่าเป็นผลงานที่วิจัยถึง lifestyle ของชายรักชายที่แจกแจงรายละเอียด lifestyle ของเกย์ไทยได้ร่วมสมัย รวมถึงงานวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับ lifestyle ของเกย์ จากนาโน เสิร์ช ซึ่งแน่นอนว่าเกย์คนหนึ่งไม่ได้มี lifestyle เพียงอย่างเดียว
เริ่มต้นที่โจกับมิว 2 คนนี้เป็นเพื่อนสนิทกัน ภาพลักษณ์ภายนอกไม่ได้แตกต่างจากผู้ชายทั่วไป โจไว้เคราทำให้ใบหน้าของเขาดูเข้มขึ้น ทุกวันนี้เขาเปิดบริษัทรับทำงานกราฟิก ดีไซน์ ด้วยความชอบส่วนตัวเป็นหลัก แม้เขาจะจบด้านการตลาด จากสวนดุสิตมาก็ตาม เวลาส่วนใหญ่ในวันธรรมดาจะหมดไปกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ เสาร์หรืออาทิตย์เป็นวันว่างถึงจะออกไปเซ็นทรัล ลาดพร้าว ช้อปปิ้ง ดูหนัง เที่ยวกลางคืนมักไปแถว อ.ต.ก. เพราะใกล้บ้าน ส่วนสีลม นานๆ จะมาที โจเน้นการแต่งกายที่เรียบง่าย ไม่เน้นแบรนด์เนมจ๋า แต่เป็นแบรนด์ตามห้างทั่วไป ด้วยความเป็นคนร่างเล็ก เขาเลือกใส่ขนาดเล็กสุด แบรนด์ที่ชื่นชอบ เช่น Giordano, AIIZ หรือ X=^ACT เครื่องสำอางใช้ Pond และ Nivea for Men หากมีเวลาประมาณ 2-3 วันชอบไปพักผ่อนที่พัทยา หัวหิน แต่ชอบกระบี่มากที่สุด
ด้านมิว ทำงานมา 7 ปีแล้ว ปัจจุบันทำงานที่สภาวิจัยแห่งชาติ จบด้านบริหารธุรกิจ เนื้องานส่วนใหญ่เป็นงานวิชาการ เก็บข้อมูลทำสถิติเพื่อวิเคราะห์ขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศไทยกับนานาชาติ แม้จะไม่ชอบเนื้องานมากนัก แต่การได้เดินทางไปต่างจังหวัดครั้งละ 2-3 เดือน เพื่อเก็บข้อมูล มิวบอกว่าเป็นเรื่องสนุก ถึงแม้ที่บ้านจะรับรู้ว่าเป็นเกย์ตั้งแต่สมัยมัธยม แต่เมื่ออยู่บ้านมิวจะกลายเป็นคนเงียบๆ ขณะที่อยู่กับเพื่อนจะเฮฮา ปกติไม่ได้เที่ยวกลางคืน เพราะเขาบอกว่าเที่ยวตั้งแต่สมัยเรียน คงถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ด้านการแต่งตัวขอแค่ให้ดูดีก็พอไม่เน้นแบรนด์เนม ขณะที่มิวเทงบและความสนใจไปที่เครื่องสำอาง เครื่องบำรุงผิวมากกว่า เขาบอกว่าดูแลหน้าทุกขั้นตอนไม่แพ้ผู้หญิง ทั้งขัดหน้าด้วยแปรงขัดหน้าโดยเฉพาะ mask หน้า ที่ทำงานได้พึ่งพาเครื่องสำอางของเขา ซึ่งเพื่อนๆ แซวว่า เป็นกระเป๋าโดราเอมอน
สำหรับกอล์ฟหนุ่มร่างโต นอกจากทรงผมที่สุดเฉี่ยวแล้ว น้อยคนนักจะจำแนกได้ว่า เขาคือเกย์ กอล์ฟเปิดฉากสนทนาทันที คำพูดพรั่งพรูออกมาจากปากเขาไม่ขาดสาย กอล์ฟเป็นคนพูดเก่ง เขาเล่าเรื่องตัวเองเป็นฉากๆ ตอนนี้เขาทำงานเป็น Marketing Executive พร้อมกับเรียนโทไปด้วย เขาจบปริญญาตรีที่ธุรกิจบัณฑิตย์และได้ทุนศิษย์เก่าเรียนต่อปริญญาโท บริหารธุรกิจ เอกการตลาด เขาบอกว่าสิ่งที่เขาขาดไม่ได้เลยก็คือ การเซ็ตผม วันทำงานเซ็ตเรียบร้อยหน่อย แต่ก็ยังเปรี้ยวอยู่ดี กอล์ฟเป็นอีกคนหนึ่งที่ดูแลผิวหน้าไม่แพ้ใครทั้งครีมกันแดด Uno SPF 50 เซรั่มใช้ของ ZIRH มอยซ์เจอไรเซอร์ใช้ของ Lab Series
ขณะที่ปฏิเสธการใช้ Lip Gross เช่นเดียวกับโจ ส่วนเครื่องแต่งกายเขาชอบ BSC ไว้ใส่ทำงาน และ Evolution
เป็นชุดลำลอง ขณะที่สถานบันเทิงยามค่ำคืนเขาเที่ยวหลายแห่งแตกต่างกันไม่จำกัดเฉพาะที่เที่ยวสำหรับเกย์เท่านั้น ทั้งลำสาลี หลังสวน และข้าวสาร เป็นต้น
ส่วนป๊อปซึ่งตามมาทีหลังมีท่ามีเขินอาย ตอนนี้เขาเป็นไกด์ แม้จะจบครูมา แต่ชอบทำงานบริการ เกี่ยวข้องกับแวดวงท่องเที่ยวตั้งแต่เรียนจบเมื่อหลายปีก่อน ด้วยการเป็น reservation ในเอเยนซี่ทัวร์แห่งหนึ่ง ที่เที่ยวประจำคือ สีลม, Q bar และ Bed Supperclub โดยเฉพาะคืนวันอาทิตย์ที่เป็น Gay Night กับคอนเซ็ปต์ Think pink
ด้านอโนชา ทำงานที่ FedEx เป็นฝ่ายติดตามของหาย (Trace Representative) ด้วยอายุที่มากขึ้นทำให้เขาต้องใส่ใจดูแลรักษาผิวหน้า ทั้งกันแดด day cream และ night cream ตอนนี้เขากำลังเรียนปริญญาโทด้าน PR Marketing Management ที่ ม.กรุงเทพ วันว่างเขาชอบไปเสม็ด สมุย และเทศกาล Full Moon ที่เกาะพงัน
ขณะที่แชทซึ่งดูเป็นคนเงียบๆ บุคลิกเรียบร้อย จบศิลปศาสตร์ จากเอแบค มาประมาณ 2 ปีแล้ว เคยทำงานเขียนและแปลหนังสือให้กับ Superbrand ตอนนี้เป็นสจ๊วต ด้วยหน้าที่การงานซึ่งต้องอาศัยคุณสมบัติด้านกายภาพเป็นสำคัญ แชทจึงบำรุงรักษาผิวหน้าและร่างกายเป็นประจำ ตอนนี้เขาเป็นสมาชิกที่ Olympic Club แต่สำหรับเครื่องแต่งกายแล้ว เขาชอบอะไรที่สบายๆ ไม่เน้นแบรนด์เนมเลย ซ้ำยังชอบใส่เสื้อแถมอีกด้วย คล้ายกันกับเพื่อน เขาชอบเที่ยวทะเล เช่น หัวหิน และเสม็ดซึ่งไปบ่อยที่สุด และมักนัดพบสังสรรค์กัน ที่ Coffee Society
วุธ จบจากสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ธรรมศาสตร์ แต่กลับชื่นชอบงานบันเทิง เขาถือเป็นคนเบื้องหลังของวงการมายาคนหนึ่ง มีประสบการณ์ผ่านงานจากยูม่า เวิร์คพอยท์มาแล้ว ขณะที่ตอนนี้เป็นครีเอทีฟ ที่ทีวีธันเดอร์ และรอลุ้นกับการโปรโมตเป็น Co-Producer เขากำลังรอให้ California Wow Fitness Club รัชโยธินเปิดก่อน จะได้มีที่ออกกำลังกายแห่งใหม่เสียที วุธเลือกใส่เสื้อผ้าของ CHAPS และ DAPPER และถึงไม่มีแบรนด์ก็ไม่เกี่ยง
เอธ พี่ใหญ่สุดในกลุ่ม อายุขึ้นเลขสี่แล้ว แต่ภายนอกด้วยความที่เขาไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ และไม่เที่ยวกลางคืน รวมทั้งออกกำลังกายเป็นประจำที่ Fitness First งามวงศ์วาน และใช้เครื่องสำอางลดริ้วรอย ทานอาหารเสริมทั้งเลซิทิน พริมโรสและสไปรูไรนา ทำให้เขาดูอ่อนกว่าอายุพอสมควร เอธทำธุรกิจส่วนตัวด้านการ์เมนต์ รับออกแบบลายผ้า เพ้นต์ ปัก ผ้าไหม ผ้าฝ้ายและผ้าลินิน ก่อนหน้านั้นเขาใช้ชีวิตที่ฝรั่งเศสร่วม 10 ปีทำงานเกี่ยวกับ Modeling, Casting และ Design แม้ครอบครัวจะเป็นข้าราชการ ทหาร ตำรวจ แต่เขาก็เลือกเส้นทางชีวิตด้วยตัวเอง ทุกวันนี้เขาสามารถทำเงินเดือนละเป็นล้านบาทได้อย่างไม่ยากเย็น และทุกวันนี้เขาบอกว่าเขาผ่านพ้นช่วงบ้าแบรนด์ เห่อแฟชั่นไปนานแล้ว เสาร์อาทิตย์เขาชอบขับรถออกต่างจังหวัดเพื่อแสวงหาความเงียบ พักตาม Homestay หลีกหนีความจำเจของเมืองกรุง
จากการประมวลภาพด้วยข้อมูลเบื้องต้น พบข้อมูลเบื้องต้นของ Gay Gang กลุ่มนี้ ดังนี้
1. เครื่องสำอาง เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทุกคนใช้เป็นพฤติกรรมที่ชัดเจนที่สุด แต่เลือกใช้แตกต่างกัน บางคนเลือกใช้เครื่องสำอาง Counter Brand ที่เป็นของผู้ชายโดยเฉพาะ ขณะที่ส่วนใหญ่เลือกใช้แบรนด์ระดับ mass เช่น Nivea for Men และส่วนหนึ่งยังคงใช้แบรนด์ของผู้หญิงอยู่
2. เครื่องแต่งกาย ส่วนใหญ่เน้นที่เหมาะกับบุคลิก และเลือกแบรนด์ระดับกลาง ขณะที่บางคนไม่ให้ความสำคัญกับแบรนด์เนม โดยเน้นที่ดีไซน์ถูกใจเป็นหลัก ซึ่งไม่จำเป็นต้องหวือหวาหรือราคาสูงมากนัก
3. ฟิตเนส รวมถึงการออกกำลังกายดูแลสุขภาพตัวเอง เป็นกิจกรรมที่ชาวเกย์หันมาให้ความสนใจ โดยเฉพาะคนที่อายุประมาณ 35 ปีขึ้นไป จะบำรุงรักษาสุขภาพมากเป็นพิเศษ เช่น ลดหรืองดการเที่ยวกลางคืน ไม่ดื่มเหล้าหรือสูบบุหรี่ รวมทั้งรับประทานอาหารเสริม
4. ท่องเที่ยว ส่วนมากยังให้ความสนใจกับ Nightlife อยู่ และจะเที่ยวตามสถานที่เที่ยวเฉพาะกลุ่มเกย์เป็นหลัก เช่น สีลม อ.ต.ก. ลำสาลี ขณะที่บางคนเลือกเที่ยวสถานที่ทั่วไปด้วย เช่น ข้าวสาร ทองหล่อ หลังสวน เป็นต้น และทุกคนต่างชื่นชอบการท่องเที่ยวต่างจังหวัด โดยเฉพาะทะเล หัวหิน พัทยา และเกาะเสม็ด
Gay Lifestyle in Metropolis
1. Homey Gay Lifestyle ชอบทำกิจกรรมในบ้าน และกิจกรรมทางศาสนา รวมถึงกิจกรรมเพื่อความรู้ ปลูกต้นไม้ เข้าครัว วันหยุดจะพักผ่อนอยู่กับบ้าน ชอบทำบุญนั่งสมาธิ เข้าห้องสมุดและชมนิทรรศการ…ให้ความสำคัญกับสินค้าแฟชั่นและบันเทิงน้อยมาก
2. Night Going Gay Lifestyle ชอบเที่ยวกลางคืน เต้นรำ สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องเสียหาย คิดว่าการซุบซิบนินทาเป็นเรื่องสนุกมาก และมองว่ายาเสพติด ยาอีเป็นสิ่งบันเทิงคลายเครียด หัวสมัยใหม่นิยมของนอก มองสินค้าและการแสดงไทยเป็นเรื่องล้าสมัย… มีความสัมพันธ์กับกลุ่มสินค้าประเภทบันเทิงมากที่สุด
3. Obiviously Gay Lifestyle ชอบแต่งตัวแฟนซี อาจแต่งเป็นผู้หญิงบ้างบางโอกาส ให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตาของผู้ที่จะมาเป็นแฟน สนใจเรื่องสวยๆ งาม ๆ คิดว่าการแต่งตัวเว่อร์ๆ แปลกๆ ดูเท่ดี สนใจการพนันบ้าง และกลุ่มนี้ยินดีให้ความร่วมมือกิจกรรมเกี่ยวกับเกย์…เปิดรับสินค้าแฟชั่นและบันเทิง
4. Trendy Gay Lifestyle สนใจความก้าวหน้าของชีวิต และความก้าวหน้าทางวิทยาการใหม่ๆ ใฝ่หาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ เป็นเกย์ไอที ชอบลองของใหม่ก่อนเพื่อน รักอิสระ เป็นตัวของตัวเองสูง แต่ขณะเดียวกันก็มีสังคมกับกลุ่มเพื่อนที่แนบแน่น… มีพฤติกรรมการเปิดรับสื่อมากกว่าแบบอื่นๆ
5. Conservative Gay Lifestyle ดำเนินชีวิตแบบระมัดระวัง ตระหนักถึงการเก็บออม มีความรู้ความเข้าใจเรื่องเอดส์ดี และเห็นว่าเกย์ยุคใหม่ไม่ควรแสดงออกมาก เพราะสิทธิเสรีภาพของเกย์ไทยยังถูกจำกัดอยู่… มีความสัมพันธ์ด้านบวกกับเรื่องสุขภาพ
6. Healthy Gay Lifestyle ใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี ชอบเล่นกีฬา รักการออกกำลังกาย เล่นฟิตเนส เพื่อรักษารูปร่างให้ดี ใส่ใจในโภชนาการหลีกเลี่ยงอาหารไขมันและน้ำตาลสูง พิถีพิถันการแต่งกายและโปรดปรานการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ… สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพและท่องเที่ยวมากกว่ากลุ่มอื่น
ที่มา : สรุปจาก วิทยานิพนธ์เรื่อง รูปแบบการดำเนินชีวิต พฤติกรรมการบริโภค และพฤติกรรมการเปิดรับสื่อของกลุ่มชายรักชาย (เกย์) ในเขตกรุงเทพมหานคร : กิ่งรัก อิงคะวัต : 2542
ศึกษาวิจัยจากแบบสอบถามกลุ่มชายรักชายในกรุงเทพฯ โดยเน้นเก็บข้อมูลตามแหล่งที่เกย์ปรากฏตัว จากกลุ่มสังคมเพื่อน และจากเว็บไซต์ อายุระหว่าง 20-45 ปี จำนวน 300 คน โดยใช้เกณฑ์การแบ่งแบบ AIO (Activities-Interest-Opinions) และใช้หลักการ Factor Analysis หาค่าทางสถิติ
