คนรักเสียงเพลงมีทางเลือกใหม่ไม่ต้องแบกแผ่นซีดีเป็นสิบๆ แผ่นอีกแล้ว ยุคนี้เรียกว่าเป็นยุคของการฟังเพลงแบบ Music on Demand ของชาวอเมริกันทีเดียว เรียกว่านั่งอยู่กับที่ก็สามารถฟังเพลงตามต้องการได้จากทั่วทุกมุมโลกไม่ต้องทนถูกบังคับให้ฟังเพลงที่ไม่ชอบอีกต่อไป อยากฟังและมีเพลงโปรดเพลงไหนไว้ในครอบครองก็ดาวน์โหลดจากร้านเพลงออนไลน์ได้เลย ไม่ต้องซื้อซีดีทั้งแผ่น
เริ่มตั้งแต่ เครื่องเล่น MP3 ออกมาอาละวาดเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา นับเป็นเทคโนโลยีใหม่ของการฟังเพลง
ที่มีขนาดเล็กลง โดยเครื่องเล่น MP3 รุ่นหน่วยความจำต่ำหรือ Flash-Based Memory เครื่องแรกของโลกผลิตโดยบริษัท Saehan Electronic แห่งเกาหลี เมื่อปี ค.ศ. 1998 เรียกว่า “MPMan” และส่งเข้ามาทำตลาดในอเมริกา 2 รุ่น ใช้ชื่อว่า MPMan F10 ขนาด 32MB ถึง 64MB และ F20 ขนาดตาม Smartmedia Card โดยมีบริษัท Eiger Labs เป็นผู้นำเข้า ตัดหน้า Rio PMP300 ขนาด 32MB เช่นกัน ของบริษัท Diamond Multimedia ในแคลิฟอร์เนียเพียงไม่กี่เดือน ซึ่งชาวไอทีในอเมริกาส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิดว่า Rio PMP 300 เป็นเครื่องเล่น MP3 เครื่องแรกของโลก เนื่องจากบริษัท Diamond Multimedia ได้จดทะเบียนลิขสิทธิ์สินค้าก่อน MPMan ของเกาหลี ราคาของเครื่องเล่น MP3 รุ่นแรกๆ ขณะนั้นอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 200 เหรียญฯ และจุได้ต่ำกว่า 10 เพลง แต่ในยุคบุกเบิกนั้นก็เรียกว่าฮอตสุดๆ แล้ว
ส่วนเครื่องเล่น MP3 ระบบหน่วยความจำใหญ่ขึ้นหรือรุ่น Hard-Drive Player เครื่องแรกของโลกต้องยกเครดิตให้ Compaq ที่คิดค้นออกมาในปีเดียวกัน และได้จดทะเบียนให้บริษัท HanGo Electronic ของเกาหลี และใช้ชื่อผลิตภัณฑ์ว่า HanGo Personal Jukebox หรือรู้จักกันในรุ่น PJB 100 ขนาดประมาณ 5GB จุได้ประมาณ 1,200 เพลง ราคาประมาณ 500 เหรียญฯ ขึ้นไป PJB 100 นี้ถือเป็นแม่แบบของ Apple iPod เลยทีเดียว ซึ่ง Apple ได้เปิดตัว iPod ตัวแรกเมื่อปี ค.ศ. 2001 ขนาด 5GB ราคาขณะนั้นประมาณ 399 เหรียญฯ
ปัจจุบัน ตลาดเครื่องเล่น MP3 ถือเป็นตลาดใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ฉะนั้นอัตราการเติบโตยังมีได้สูง ตามรายงานการตลาดของ IDC คาดว่า ตลาดเครื่องเล่น MP3 จะโตปีละ 20% และในปี 3 ปีข้างหน้าจะทะลุเกือบ 6 หมื่นล้านเหรียญฯ โดยตัวเลขประมาณการนี้ ตลาดของเครื่องเล่น MP3 แบบ Flash-Based จะโตมากที่สุดคือก้าวกระโดดจาก 12.5 ล้านเหรียญฯ ในปี ค.ศ. 2003 ไปอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านเหรียญฯ ภายในปี ค.ศ. 2008
นอกจากนี้ จากรายงานการสำรวจตลาดเครื่องเล่น MP3 ในอเมริกาพบว่า เครื่องเล่น MP3 เป็นที่นิยมให้หมู่หนุ่มสาวอเมริกัน มีชาวอเมริกันกว่า 20 ล้านคน หรือทุกๆ 1 ใน 5 ของชาวอเมริกันที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปีมีเครื่องเล่น MP3 ไว้ในครอบครอง โดยแบ่งเป็นชาย 59% และหญิง 41% และส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีรายได้ปีละประมาณ 75,000 เหรียญฯ ต่อปี และในจำนวนนี้คิดเป็น 16% ของผู้ปกครองที่มีบุตรหลานอายุต่ำกว่า 18 ปี จะมีเครื่องเล่น MP3 จำนวน 1 เครื่อง ทั้งนี้ ปัจจัยหลักในการกระตุ้นการเติบโตของตลาดนี้คือ การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยระบบ Broadband ที่ช่วยในการดาวน์โหลดเพลงได้รวดเร็วทันใจกว่าระบบ Dial-Up ซึ่งในกลุ่มเจ้าของเครื่องเล่น MP3 กลุ่มนี้มีจำนวน 25% ที่ใช้ระบบ Broadband และ 9% ที่ใช้ระบบ Dial-Up
เล็กๆ น้อยๆ ก่อนเลือกซื้อเครื่องเล่น MP3
หากคุณต้องการฟังเพลงขณะเล่นอินเทอร์เน็ต พิมพ์งาน ออกกำลังกาย หรือเดินทาง เครื่องเล่น MP3 เป็นทางเลือกใหม่ที่มองข้ามไม่ได้ และการจะเลือกซื้ออุปกรณ์บันเทิงชิ้นนี้ไว้ในครอบครอง สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาคือ รูปแบบของเครื่องเล่น MP3 ที่มีอยู่ 2 แบบในตลาดขณะนี้คือ แบบ Hard Drive Player และแบบ Flash Memory Player
เครื่องเล่น MP3 แบบ Hard Drive Player และมีคุณสมบัติเหมือนคอมพิวเตอร์ Hard driveทั่วๆ ไปที่มีกำลังความจุสูง สามารถจุเพลงได้เป็นร้อยๆ พันๆ เพลง ส่วนใหญ่มีขนาดใหญ่กว่าเครื่องเล่นแบบ Flashมีหน้าจอ LCD ขนาดพอเหมาะ ง่ายต่อการเลือกเมนู เป็นไอเดียสำหรับคนที่คลั่งไคล้เสียงเพลงแบบจริงจังและพวกที่เดินทางไกลๆ
ส่วนเครื่องเล่น MP3 แบบ Flash Memory Player จะเป็นเครื่องที่มี flash memory ในตัว มีขนาดเล็ก เบา สามารถจุเพลงได้ไม่กี่ชั่วโมง เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบออกกำลังกาย จ๊อกกิ้ง หรือเต้นแอโรบิก
นอกจากนี้ สิ่งที่ควรใส่ใจประกอบการเลือกซื้อคือ เครื่องเล่น MP3 บางรุ่น บางยี่ห้อ ทำได้มากกว่าการเล่นเพลง บางรุ่นจะมีวิทยุ FM ในตัวด้วย เพื่อให้มีทางเลือกในการฟังข่าวสารข้อมูลหรือรายการวิทยุอื่นๆ หรือบางรุ่นมีเครื่องบันทึกเสียงในตัวด้วย เหมาะสำหรับหนุ่มสาววัยเรียนอาจใช้เป็นเครื่องจดบันทึกเลกเชอร์แทนปากกาและสมุดโน้ต ยิ่งกว่านั้นเครื่องเล่นแบบ Flash บางรุ่นมีช่องเสียบแผ่น memory card ให้ด้วย สามารถเพิ่มความจุได้มากตามต้องการ และบางรุ่นสามารถดูสไลด์ภาพภ่ายหรือวbดีโอได้อีกด้วย
การเลือกซื้อควรเลือกให้เหมาะสมความกำลังทรัพย์และการใช้งาน เช่น เครื่องเล่นแบบ Hard Drive บางรุ่นอาจจะคุ้มกว่าเครื่องแบบ Flash ที่มีช่องเสียบแผ่น memory card เพราะนอกจากจะต้องจ่ายค่าเครื่องแล้วยังต้องจ่ายเพิ่มในการซื้อแผ่น memory อีก และในตารางต่อไปนี้ พอจะให้ไอเดียในการเลือกซื้อได้บ้าง…
ขนาดความจุ (1 GB = 1,024 MB) :
– 128MB
จำนวนชั่วโมงในการเล่นเพลง MP3 คุณภาพเทียบเคียง CD (128 kbps) :
– 2 ชั่วโมง
ขนาดความจุ (1 GB = 1,024 MB) :
– 256MB
จำนวนชั่วโมงในการเล่นเพลง MP3 คุณภาพเทียบเคียง CD (128 kbps) :
– 4 ชั่วโมง
ขนาดความจุ (1 GB = 1,024 MB) :
– 4GB
จำนวนชั่วโมงในการเล่นเพลง MP3 คุณภาพเทียบเคียง CD (128 kbps) :
– 66 ชั่วโมง
ขนาดความจุ (1 GB = 1,024 MB) :
– 20GB
จำนวนชั่วโมงในการเล่นเพลง MP3 คุณภาพเทียบเคียง CD (128 kbps) :
– 333 ชั่วโมง
ขนาดความจุ (1 GB = 1,024 MB) :
– 40GB
จำนวนชั่วโมงในการเล่นเพลง MP3 คุณภาพเทียบเคียง CD (128 kbps) :
– 666 ชั่วโมง
MP3 Players ที่ขายดีล่าสุดในอเมริกา
* รุ่น Hard-Driver Player
1. Apple iPod ความจุ 20GB ราคา 299 เหรียญฯ
2. Apple Mini iPod ความจุ 4GB รุ่นสีเงิน ราคาประมาณ 180 เหรียญฯ ขอเตือนว่า เวลาซื้อต้องพิจารณาให้ดี เพราะราคานี้เป็นราคาของเครื่อง Mini iPod รุ่นแรกที่แบตเตอรี่ใช้ได้เพียงแค่ 7-8 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ตัวใหม่ที่เพิ่งออกตัวไปไม่กี่เดือนที่ผ่านมานั้น มีหน้าตาเหมือนเดิมทุกประการ เพียงแต่ตัดสีทองออกไป และยืดอายุการใช้งานของแบตเป็น 18 ชั่วโมง แต่ไม่แถม AC adaptor แล้ว ต้องซื้อต่างหาก ราคาจะอยู่ที่ 199 เหรียญฯ วิธีสังเกตอีกวิธีหนึ่งคือ กล่องบรรจุ Mini iPod รุ่นใหม่จะมีขนาดเล็กกว่าเดิมและมีสีสันเดียวกันกับสีของตัวเครื่อง ในขณะที่รุ่นเก่ากล่องจะมีสีขาวและมีขนาดใหญ่กว่า
3. Apple 40GB iPod Photo ซึ่งเป็นรุ่นเก่าที่ Apple จะไม่ผลิตแล้ว ราคาประมาณ 350 เหรียญฯ ถ้าเข้าไปซื้อที่ร้าน Apple จะมีแต่รุ่น 30GB กับ 60GB ราคา 349 เหรียญฯ และ 449 เหรียญฯ ตามลำดับ
4. Apple iPod 40GB รุ่นเก่า ราคาในเว็บจะประมาณ 350-360 เหรียญฯ ตอนนี้เริ่มหายากแล้ว ส่วนที่ร้าน Apple ขายแต่รุ่น 20GB ราคาที่ 299 เหรียญฯ
5. Creative Labs Zen Touch ขนาดความจุ 20GB ราคาประมาณ 250 เหรียญฯ
6. Rio CARBON 5 ขนาดความจุ 5GB ราคาประมาณ 200 เหรียญฯ
* รุ่น Flash-Based Memory Player
1. BenQ JOYBEE 110 ความจุ 256MB ราคาประมาณ 90 เหรียญฯ
2. BenQ JOYBEE 150 ความจุ 128MB ราคาประมาณ 100 เหรียญฯ
3. Creative Labs NOMAD MuVo TX FM ความจุ 256MB ราคาประมาณ 90 เหรียญฯ
4. Sony NWE 75 ความจุ 256MB ราคาประมาณ 140 เหรียญฯ
5. Rio FORGE ความจุ 256MB ราคาประมาณ 160 เหรียญฯ
6. Rio FORGE ความจุ 512MB ราคาประมาณ 200 เหรียญฯ
ข้อมูลจาก : แค็ตตาลอกเครื่องใช้อีเล็กทรอนิกส์ Crutchfield