คำถามที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจในตอนนี้ หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาประกาศว่า อัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้น อีกทั้งภาวะที่จีนกำลังถูกกดดันให้ลดค่าเงินหยวน กับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่พุ่งทะลุ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้ว จุดยืนของนโยบายเศรษฐกิจท่ามกลางความผันผวนเหล่านี้ใครจะกล้าฟันธงว่าควรจะไปในทิศทางใด
จึงถือเป็น Right Timing ที่ในวันที่ 17-18 พฤษภาคมนี้ บริษัท ไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด ร่วมกับบริษัท แมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และหนังสือพิมพ์ International Herald Tribune จะจัดสัมมนา “Warning System; Positioning of Thailand & South East Asia” by Paul Krugman ขึ้น เพื่อให้นักธุรกิจ ผู้บริหารการเงิน การคลังภาครัฐและเอกชน ทั้งในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียได้มีโอกาสเข้าฟังและแลกเปลี่ยนความคิดกับศาสตราจารย์ Paul Krugman นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังที่ทั่วโลกรู้จักจากการพยากรณ์วิกฤตเศรษฐกิจเอเชียไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ.1994 และเป็นคอลัมนิสต์ฝีปากคมที่กล้าสับแหลกนโยบายรัฐบาลบุชอย่างเผ็ดร้อน
ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ นักเศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของเมืองไทย ยังออกปากว่า การมาของครุกแมนครั้งนี้เป็นไทม์มิ่งที่เหมาะที่สุด เพราะมีสถานการณ์หลายอย่างที่รอสายตาคนนอกที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญและคนฝีปากกล้ามาฟันธง
ในขณะที่ ดร.ยรรยง ไทยเจริญ เศรษฐกรอาวุโสสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย สำทับว่า ในภาวะที่โลกาภิวัตน์ย้อนกลับมาอย่างรุนแรงทั้งการสร้าง Free Trade Area ปัญหาราคาน้ำมัน “ด้วยปัจจัยแวดล้อมปัจจุบัน สำคัญที่ประเทศไทยจะวางตำแหน่งตัวเองอย่างไร ท่ามกลางความผันผวนเหล่านี้”
ประเด็นที่หลายคนรอฟังความเห็นจากครุกแมน
1. ด้วยนโยบายสะสมเงินทุนสำรองของประเทศจำนวนมาก เมื่อดอลลาร์อ่อน หากทุกประเทศเทเงินออกขายจะเป็นอย่างไร
2. บทบาทของเศรษฐกิจจีนและอินเดียต่อภูมิภาคเอเชีย ประเทศอื่นๆ ควรตั้งรับอย่างไร
3. ถ้าค่าเงินหยวนเปลี่ยนแปลง จะเกิดผลกระทบอย่างไร จะปรับตัวอย่างไร
4. แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่มีปัจจัยแง่ลบมาก อาทิ ราคาน้ำมัน การปรับดอกเบี้ย การระบาดของหวัดนก จะรับมืออย่างไร
5. การปรับใช้ทฤษฎี New Trade Theory ของครุกแมนกับบริบทเศรษฐกิจโลกที่เป็นอยู่
Website
seminar.manager.co.th
