หลายคนที่ไม่ได้สัมผัสกับ “ลาคอสท์” อาจคิดว่า ทางเลือกของการสวมใส่เสื้อโปโลคงมีไม่มากไปกว่า เสื้อสีพื้นๆ ของลาคอสท์ แต่ความคิดนี้คงต้องเปลี่ยนไป
เมื่อ คริสท็อฟ เลอเมอร์ (Christophe Lemaire) ใช้ประสบการณ์ความเป็น “ดีเจ แฟชั่น” เข้ามารับหน้าที่ดีไซเนอร์ และผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ ปลุกกระแสให้ผลิตภัณฑ์ลาคอสท์เป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น
ดีไซเนอร์ผู้ซึ่งผสมผสานงานดนตรี กับการออกแบบเสื้อผ้า ขนคอลเลกชั่นใหม่ “ลาคอสท์สปริง/ซัมเมอร์ 2005 ที่แสดงโชว์ในงาน New York Fashion Week ที่นิวยอร์ก มาแสดงในไทย
เสื้อผ้าเทนนิสของฝรั่งเศสในช่วงทศวรรษที่ 30 คือแรงบันดาลใจ ที่ “คริสท็อฟ” ใช้ในการออกแบบคอลเลกชั่นใหม่ของเสื้อผ้าผู้ชาย เพื่อระลึกถึง เรอเน่ ลาคอสท์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ และเป็นนักเทนนิสติดอันดับโลก โดยจะเน้นการใช้สีขาว พร้อมรายละเอียดต่างๆ ที่เป็นการบอกเล่าถึงความร่วมสมัยของเสื้อผ้าลำลองสไตล์สปอร์ต
ส่วนแรงบันดาลใจในการออกแบบเสื้อผ้าของสาวๆ เป็นการผสมผสานระหว่างกีฬาเทนนิส และกลิ่นอายของชาวเอเชีย ที่ได้จากกางเกงชาวเลของไทย และเสื้อ Kuta ตัวยาวของอินเดีย สไตล์ของเสื้อ ลวดลายที่ใช้ จะเป็นการจับคู่ระหว่างการพิมพ์ลายบนเนื้อผ้า “ปีเก้” ซึ่งเป็นผ้าต้นแบบ
สำหรับเสื้อโปโลขนานแท้ของลาคอสท์ยังคงยึดแนวสีพื้นไว้เช่นเดิม เรียกว่าอะไรที่ดูดี เป็นจุดขายก็เก็บไว้ แต่เพิ่มสีสันสดใส ประเภทสีลูกกวาดหลากสี เพื่อให้แบรนด์ดูกระฉับกระเฉง และเด็กลง ซึ่งเซตนี้ คริสท็อฟได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์เพลงคลาสสิก ในยุค 60 ที่นำแสดงโดย “แคทเธอรีน เดอเนิฟ” ซึ่งชื่นชอบการสวมเสื้อผ้าด้วยโทนสีเดียวกันทั้งชุด
คริสท็อฟบอกว่า นอกจากแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ ดนตรีแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับเขา และเป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบ คือ การเก็บข้อมูลลูกค้า ศึกษาไลฟ์สไตล์ของผู้คน ความต้องการของผู้บริโภค จากลูกค้าที่มาจากหลากหลายอาชีพ เพราะสำหรับคริสท็อฟแล้ว จุดมุ่งหมายของเขาคือการทำให้แบรนด์ลาคอสท์ เทียบชั้น เฮอร์เมส, หลุยส์วิคตอง และเบเบอรี่
เมื่อแฟชั่นโชว์ของซัมเมอร์ 2005 สิ้นสุดลง แต่งานเลี้ยง Colorful Party ก็เริ่มขึ้น และพิเศษสำหรับงานนี้ คือ คริสท็อฟ เลอแมร์ ลงมือเป็นดีเจ เปิดเผ่นด้วยตัวเอง เพื่อให้ครบสูตร “ดีเจ แฟชั่น”