กระบะดัดแปลง SUV ลูกผสมที่น่าจับตา

ถ้าพูดถึงรถยนต์อเนกประสงค์ SUV-Sport Utility Vehicle แบรนดิ้ง ที่มาเป็นอันดับหนึ่งในตลาด SUV ระดับกลางก็ต้องยกให้ CRV จากค่าย Honda ที่ครองยอดขายสูงสุดในรถยนต์ SUV มานานหลายปี

แต่ในช่วงระยะ 1-2 ปี หลังตลาด SUV ระดับกลางลดความดุเดือดลงเรื่อยๆ ถึงแม้จะมีคู่แข่งเข้ามาในตลาดอีกหลายตัวไม่ว่าจะเป็น Ford Escape หรือ Mazda Tribute แต่ก็ยังไม่สามารถแซงหน้า จนกระทั่ง CRV มาเจอกรณี ทุบรถ จึงทำให้ยอดขายหล่นวูบไป บวกภาวะราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตัวรถ SUV เองนั้นมีอัตราการกินน้ำมันสูงกว่ารถยนต์นั่งธรรมดาอยู่แล้ว ทำให้ SUV ก็ยังคงมีอยู่แต่ที่ตลาดดูนิ่งเรียบและไม่หวือหวา

แน่นอนว่าผู้ประกอบการรู้ถึงช่องว่างตรงนี้ดี ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วจนถึงไตรมาสแรกของปี 2548 นี้ตลาด SUV ดูเหมือนจะถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้งด้วยรถกระบะดัดแปลงโดยเจ้าแรกที่ทำการเปิดตัวไปก็คือแชมป์รถกระบะอย่าง ISUZU ที่ทำการเปิดตัว MU7 ออกมาก่อนใคร โดยเฉพาะถือเป็นการตัดหน้าคู่แข่งตัวฉกาจอย่างโตโยต้าที่วางแผนส่ง Toyota Fotuner ออกมาในช่วงต้นปี ทำให้ตลาด SUV กลับมามีความคึกคักอีกครั้ง และนอกจาก 2 ค่ายยักษ์ดังกล่าวแล้วอีกค่ายหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามนั่นก็คือ SUV ลูกผสมไทยญี่ปุ่นอย่าง Adventure Master จากไทยรุ่ง

SUV เป็นที่ต้องการในตลาด

ปัจจัยทางด้านราคาความคุ้มค่า – หากไม่นับรถยนต์ขนาดเล็กไม่เกิน 1500 cc เข้ามาเปรียบเทียบด้วยแล้วนั้น รถยนต์ SUV ถือว่าเป็นการลงทุนที่เรียกได้ว่าคุ้มค่าสำหรับผู้บริโภค เนื่องจากราคารถยนต์นั่งส่วนบุคคลโดยทั่วไปราคาอยู่ในระดับเกือบล้านแทบทั้งสิ้น ในขณะที่ SUV มีราคาแพงกว่า แต่ก็ไม่มากนักเพราะอยู่ที่ 1ล้านต้นๆ ก็มีตัวเลือกให้ขับกันได้แล้ว ประกอบกับยังตอบสนองรสนิยมของผู้บริโภคที่ไม่ต้องการรถโหลแบบรถซีดานทั่วไป รวมไปถึงประโยชน์ใช้สอยที่มีมากกว่าซีดาน

แนวโน้มที่สูงขึ้นของ SUV ลูกผสมอย่างกระบะดัดแปลง

สมรรถนะพื้นฐาน รถ SUV ที่เป็นกระบะดัดแปลงย่อมมีความได้เปรียบทางด้านความแข็งแรง ทนทาน ทั้งในเรื่องของตัวถัง ช่วงล่างที่ย่อมแข็งแรงกว่า SUV แบบที่มีแนวคิดมาจากซีดานที่มีอยู่ในท้องตลาดอยู่แล้ว

เครื่องยนต์อะไหล่ แน่นอนว่าการพัฒนามาจากรถกระบะเรื่องเครื่องยนต์ ย่อมเป็นเครื่องยนต์ดีเซลซึ่งทำให้เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผู้ซื้อเลือกใช้ SUV แบบกระบะดัดแปลง เพราะราคาน้ำมันดีเซลในบ้านเราก็ยังถูกกว่าเบนซิน แต่อีกเรื่องหนึ่งที่ถือว่าสำคัญไม่แพ้กันก็คือเรื่องของอะไหล่ ที่พื้นฐานก็ใช้อะไหล่เดียวกับรถกระบะที่ย่อมหาง่ายและราคาถูก ซึ่งนั่นย่อมหมายถึงค่าซ่อมที่ถูกลงตามไปด้วย

มวยคู่เอก MU7 VS Fotuner

ถ้าเปรียบมวยในด้านของรถกระบะที่เป็นการต่อสู้กันระหว่าง DMAX และ VIGO ก็ต้องไม่ลืมที่จะหยิบเอา MU7 และ Fortuner มาเปรียบเทียบกัน เพราะทั้งสองรุ่นต่างก็มีพื้นฐานมาจากรถกระบะดัดแปลงเช่นเดียวกัน

* ข้อมูลทางเทคนิค

ข้อมูลทางเทคนิค
– ISUZU MU-7 บ.ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด
เครื่องยนต์ ความจุ (ซีซี)
– 2,999
แรงบิดสูงสุด(NM)รอบ/นาที
– 294/1,40033,400
ระบบชับเคลื่อน
– ขับเคลื่อนสี่ล้อพาร์ทไทม์
ความจุถังน้ำมัน
– 76 ลิตร

ข้อมูลทางเทคนิค
– TOYOTA FORTUNER บ.โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
เครื่องยนต์ ความจุ (ซีซี)
– เบนซิน 2,694-ดีเซล 2,982
แรงบิดสูงสุด(NM)รอบ/นาที
– 241/3,800 – 343/1,400-3.200
ระบบชับเคลื่อน
– ขับเคลื่อนสี่ล้อฟูลไทม์
ความจุถังน้ำมัน
– 65 ลิตร

* ราคา

ISUZU MU-7
– รุ่น 4×4 เกียร์ธรรมดา 160 แรงม้า
ราคา 1,130,000 บาท
– รุ่น 4×4 เกียร์อัตโนมัติ 160 แรงม้า
ราคา 1,180,000 บาท

TOYOTA FORTUNER
– รุ่น 3.0 G(ดีเซล)163 แรงม้า
ราคา 999,000 บาท
– รุ่น 2.7 V(เบนซิน)161 แรงม้า
ราคา 1,119,000 บาท
– รุ่น 3.0 V(ดีเซล) 163 แรงม้า
ราคา 1,219,000 บาท

จุดเด่นจุดด้อย

เมื่อพิจารณาข้อมูลทางเทคนิคดูแล้วนั้นดูเหมือน Fortuner จะได้เปรียบ MU-7 ในส่วนของตัวเลือกของเครื่องยนต์ที่มีให้ผู้บริโภคเลือกกันทั้งแบบเบนซินและดีเซล ในขณะที่ MU-7 มีเพียงเครื่องยนต์ดีเซลแบบ 4JJ1-TC เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์เพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น แต่ MU-7 ก็ได้เปรียบ Fortuner ตรงที่ระบบขับเคลื่อนเป็นแบบ 4 ล้อ พาร์ทไทม์ ซึ่งทำให้กินน้ำมันน้อยกว่า Fortuner ที่เป็นระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ แบบ ฟูลไทม์

TR ADVENTURE ทางเลือกที่ 3 จากไทยรุ่ง

หากใครยังไม่ถูกใจสำหรับ SUV แบบกระบะดัดแปลงอย่าง MU-7 หรือ Fortuner ก็ยังมีทางเลือกที่ 3 ของกระบะดัดแปลงอีกหนึ่งรุ่นอย่าง TR ADVENTURE จากไทยรุ่ง ที่แชสซีและหัวเก๋งผลิตโดย IZUSU แต่เรื่องของห้องโดยสารตอนท้ายและการออกแบบทางไทยรุ่งนับมาพัฒนาต่อเอง ซึ่งแม้จะไม่ได้มีแคมเปญหวือหวาในตลาดมากนัก แต่ไทยรุ่งก็พัฒนาในส่วนของ SUV แบบ 7 ที่นั่งมาอย่างต่อเนื่อง ก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจในตลาด SUV พันธุ์ผสมของบ้านเราในขณะนี้