BK Magazine ชื่อก็บ่งบอกอยู่แล้วว่า เป็นนิตยสารสำหรับชาวกรุง BK ย่อมาจาก BANGKOK เป็นหนึ่งนิตยสารแจกฟรีของบริษัท Asia-City Publishing Group ก่อตั้งจากคนอเมริกัน 3 คน ซึ่งได้สร้าง BK มา 4 ปีเต็มมาแล้ว และกลายเป็นหนึ่งใน Free Magazine ชื่อดังซึ่งมีเอกลักษณ์สำหรับความมีชีวิตชีวาในสังคมเมืองหลวง
จุดเริ่มต้นของ BK เกิดจากการทำนิตยสารแจกฟรีในฮ่องกง HK Magazine ในสิงคโปร์ I-S Magazine และขยับขยายสู่เมืองไทย โดยบริษัท Asia-City Publishing จะเน้นทำนิตยสารแจกฟรีเป็นฐานหลัก
เป้าหมายของบริษัท Asia-City จะเลือกเมืองที่มีชีวิตชีวา มีไลฟ์สไตล์ ผู้คนในเมืองมีการศึกษาที่ดี รวมทั้งมีสิ่งบันเทิงต่างๆ มากมาย นั่นเป็นเหตุผลที่กรุงเทพฯ ถูกเลือก เป็นที่มาของนิตยสารแจกฟรี BK Magazine ซึ่งขณะนี้อยู่ในความดูแลของ Mr. Andrew Hiransomboon (Managing Editor) ผู้ซึ่งมีประสบการณ์จากการทำหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษรายวันอย่าง Bangkok Post และหันมารับผิดชอบนิตยสาร BK Magazine
“ตอนที่เห็นนิตยสาร BK ยังเคยคิดเลยว่า อยากทำนิตยสารแบบนี้บ้าง ตอนอยู่ที่ Bangkok Post อยากทำอะไรก็ทำเลย ไม่ต้องกังวลว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ เพราะเป็นบริษัทที่มั่นคงมาก แต่กับที่นี่ เราต้องตัดสินใจเอง ดูทุกอย่าง ต้องดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายอีกด้วย ก็สนุกและท้าทายไปอีกแบบ”
นิตยสาร BK เสนอในคอนเซ็ปต์ City-living ซึ่งจะสื่อถึงสิ่งที่เกิดขึ้นต่างๆ เทรนด์ สถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร คลับต่างๆ และ lifestyle ทั่วไป เช่น ภาพยนตร์ เพลง เป็นต้น โดยมียอดพิมพ์อยู่ที่ 30,000 ฉบับ พร้อมทั้งมีขนาด A3 ซึ่งจัดทำเป็นรูปแบบเดียวกันทั้งในฮ่องกง สิงคโปร์ และกรุงเทพฯ ซึ่งขนาดนิตยสารอาจจะดูแปลกตากว่าเล่มอื่น ทำให้ดูเหมือนกึ่งนิตยสารกึ่งแมกกาซีน แต่ทาง Asia-City เห็นว่าขนาดแบบนี้ดีที่สุดแล้ว
Target Group ของ BK Magazine คือ คนในเมืองอายุ 20-35 กำลังศึกษา หรือทำงานแล้ว จบจากมหาวิทยาลัย เป็นคนชอบท่องเที่ยว ช้อปปิ้ง เน้นผู้อ่านที่เป็นคนไทย โดยทาง BK Magazine ได้ทำการสำรวจว่า มีผู้อ่านที่เป็นคนไทยนั้นมีถึงร้อยละ 90
“แม้ว่านิตยสารจะเป็นภาษาอังกฤษ อาจจะดูเป็นฝรั่ง แต่ต้องทำให้คนไทยอ่าน เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว นิตยสารจะอยู่ไม่รอดในตลาดสิ่งพิมพ์”
นิตยสาร BK Magazine จะเน้นแจกฟรีในเขตพื้นที่ในเมืองจริงๆ อย่างสีลม สุขุมวิท สยาม ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร คลับ ร้านหนังสือต่างๆ กว่า 200 ร้าน แต่สถานที่ที่หาได้ง่ายที่สุดก็คือร้านกาแฟ Starbucks
“ในเรื่องของโฆษณา นับจากการเริ่มต้นของ BK Magazine ในช่วงนั้น ซึ่งเป็นช่วงที่ยังไม่ค่อยมีนิตยสารแจกฟรีมากนัก การหาโฆษณามาลงในช่วงแรกๆ ก็ติดขัดบ้าง แต่พอผ่านไประยะหนึ่ง เมื่อโฆษณาต่างๆ เห็นว่า BK Magazine เริ่มเป็นที่รู้จักและยอมรับ โฆษณาเริ่มหลั่งไหลเข้ามา”
ในช่วงแรกๆ จะเป็นโฆษณาเกี่ยวกับร้านอาหาร และ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าและผู้แทนจำหน่ายได้เห็น และเมื่อออกนิตยสารได้รับผลตอบรับกลับมาดี นับเป็นความโชคดีของทาง BK Magazine
ส่วนเรื่องของโฆษณาที่จะมาลงในนิตยสาร Andrew บอกว่ายังไม่เคยปฏิเสธใครเลย ขณะเดียวกันกำลังจะเริ่มที่จะหาโฆษณาที่เด่นๆ อย่างเช่น ไฮเนเก้น เพราะเป็นแบรนด์ที่ดี มีคนรู้จัก เพียงเท่านี้ก็อาจจะไม่ต้องมีโฆษณาเบียร์ยี่ห้ออื่นเลยก็ได้
ที่สำคัญการนำแบรนด์ชื่อดังมาลง จะเป็นผลดีสำหรับบุคลิกของนิตยสาร และนักโฆษณาด้วย แน่นอนว่ารายได้ของนิตยสารแจกฟรีมาจากโฆษณา
“BK Magazine แตกต่างทางด้าน HK และ I-S Magazine บ้าง สำหรับ HK และ I-S Magazine จะได้รายได้สูงจากการลง Classified Ad แต่ BK Magazine จะไม่มี Classified Ad ”
สำหรับด้านการแข่งขัน Andrew อธิบายว่า ทุกอย่างเป็นคู่แข่งหมด ไม่ว่าจะเป็น หนังสือพิมพ์ นิตยสารทั่วไป รวมทั้งทีวี อินเทอร์เน็ตด้วย เพราะทุกอย่างต้องการโฆษณาทั้งนั้น แต่จุดแข็งอยู่ที่ทำให้มีนิตยสาร BK Magazine อยู่จนถึงทุกวันนี้คือ ความทันต่อเหตุการณ์ ความซื่อสัตย์ในการเสนอเรื่องราวต่างๆ
ส่วนจุดอ่อนของหนังสือ คือ การที่มี staff น้อย ขณะเดียวกัน อยากที่จะเพิ่มส่วนอื่นๆ เข้าไปในนิตยสารอีก อยากให้ BK Magazine เป็น one stop คนอ่านจะได้ทุกอย่างที่ต้องการเพียงแค่อ่าน BK Magazine โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่
สำหรับการวางเป้าหมายในอนาคต ปัจจุบันนิตยสาร BK Magazine เป็นนิตยสารแจกฟรีแบบรายปักษ์ แต่ในเดือนมกราคม ปีหน้า BK Magazine จะเปลี่ยนเป็นรายสัปดาห์แทน รวมทั้งในเรื่องของ website ที่กำลังทำอยู่ นอกจากนี้ ทางบริษัท Asia – City ก็จะเปิดออฟฟิศในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งทางบริษัทได้เข้าไปทำการซื้อสิ่งพิมพ์ที่นั่นแล้ว ขนาดของนิตยสารจะไม่ใช่ A3 ขนาดเดียวกันกับที่ฮ่องกง และในกรุงเทพฯ แต่จะเป็นขนาด A4 เนื่องจากเหตุผลทางกฎหมายของจีนที่ค่อนข้างจะเข้มงวดในเรื่องของสิ่งพิมพ์
ทำให้ตลาดในเอเชียในไม่ช้านี้ จะมีทั้งในสิงคโปร์ ไทย ฮ่องกง และจีน
สถานที่แจกฟรี : สีลม สุขุมวิท สยามสแควร์ ตามร้านอาหาร คลับ ร้านหนังสือต่างๆ ร้านกาแฟ Starbucks
กลุ่มเป้าหมาย : คนในเมืองอายุ 20-35 ปี กำลังศึกษาและทำงานแล้ว ชอบท่องเที่ยว ช้อปปิ้ง
วันและเวลา : รายปักษ์ แจกทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน
ยอดพิมพ์ : 30,000 ฉบับ/15 วัน