แฟนซีคลับ เป็น event ที่วิเชฐและทีมงานคิดขึ้นมา เพื่อนำผู้ประกอบการทั้งที่จดทะเบียนในตลาด mai และอยู่ระหว่างการจดทะเบียนมาพบกัน คราวละประมาณ 100 คน
รูปแบบการจัดงาน เรียกได้ว่าฉีกไปจากขนบประเพณีการจัดงานของตลาดหุ้นไทยอย่างเห็นได้ชัด
เพราะ เป็นการนำกลไกลการตลาดรูปแบบใหม่ๆ ที่ต้องเข้าใจไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้งมาใช้ในการจัดงาน
เมื่อกลุ่มเป้าหมายเป็นคนรุ่นใหม่ รูปแบบก็ต้องให้โดนใจ คนกลุ่มคนใหม่
สถานที่จัดงาน แทนที่จะเป็นห้องประชุมในอาคารตลาดหลักทรัพย์ ก็ไปเช่าห้องเรสซิเดนท์ โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ ที่กำลังอินเทรนด์
วิเชฐ บอกว่า ที่ต้องลงทุนถึงขนาดนี้ เพื่อต้องการลบภาพการเป็นตลาดหุ้นเกรดสองของตลาด mai เมื่อวางตำแหน่งของตลาดหุ้น mai ให้เป็นตลาดสำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่ที่มีสตางค์แล้ว ภาพลักษณ์ และแบรนดิ้งของตลาด mai ก็ควรไฮโซ ตามไปด้วย
“ผมต้องการบอกว่า เขาเป็นไฮโซ ระดับหนึ่ง แม้จะยังไม่ถึงกับไฮโซรุ่นใหญ่ก็ตาม เราจึงเลือกสถานที่ เชิญบุคคลสำคัญ ผู้ช่วยรัฐมนตรีมาพูดคุย เชิญคนสำคัญมาพูด เพราะถ้าเขายังรู้สึกแบบเดิม เขาจะอยากจะหนีขึ้นไปอยู่กับตลาด SET เพราะเขารู้สึกว่ามันดีกว่าที่เขาเคยอยู่”
เมื่อวัตถุประสงค์ชัดเจน สิ่งที่ต้องทำต่อจึงเป็นเรื่องของการใส่รายละเอียด ที่ต้องเน้นคอนเซ็ปต์หลักของ mai อย่างการจัดแฟนซีคลับครั้งที่ 2 ที่เลือกเอาโรงภาพยนตร์ เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ท่ามกลางบรรยากาศของโรงหนัง ที่มีข้าวโพด น้ำอัดลม เพื่อเน้นเรื่องของนวัตกรรม เป็นธุรกิจเป้าหมายของ mai
เป้าหมายในการทำความเข้าใจกับผู้ลงทุน และเปิดโอกาสให้สื่อบวกนักลงทุน สื่อถึงกันได้ มีบริษัทภิบาล ไม่ใช่เฉพาะแค่ตัวเลข แต่มีหลายอย่างที่ต้องบอก พวกนี้เป็นเครื่องเตือนใจ
พวกนั้นเขาเป็นบริษัทใหญ่ แต่พวกนี้เขาเป็นธุรกิจแนวใหม่ ต้องแคร์คนข้างนอก เพื่อให้พวกนี้เขาอยู่กับคุณ คุณแอทแทร็กเขาได้ คุณต้อง “รีเทรน” เขาได้ ไม่ใช่ว่าพอเทรดแล้วจบกัน
FANZI Party ครั้งที่สอง
เช้าวันทำงาน ศุกร์ 17 มิถุนายน นักธุรกิจระดับกรรมการผู้จัดการ 49 คน พร้อมใจกันถอดสูทมาใส่เสื้อยืดนัดเจอกันที่โรงหนังเมเจอร์รัชโยธินแล้วไปเล่นโบว์ลิ่งกันต่อ ?!?
แม่งาน FANZI Club Party นี้คือ mai ที่เชิญทั้ง 25 ผู้นำบริษัทใน mai กับอีก 24 บริษัทที่มีศักยภาพจะเข้าต่อไป และผู้จัดการกองทุนอีกหลายคนมาพบปะกัน เปลี่ยนเสื้อเป็นเสื้อยืดขาว “ร่วมใจไทยสู่ภาคใต้” เปิดฉากด้วยการใช้โรงหนังแทนที่จะใช้ห้องประชุมสังเวียน อินทรวิชัย เหมือนกับกิจกรรมอื่นๆ ของตลาดฯ มีบรรยายหลากหลายหัวข้อ ทั้งบทบาทของ mai, สินเชื่อเพื่อธุรกิจเล็กที่ต้องการเข้า mai, มุมมองของ กิตติรัตน์ ณ ระนอง ผู้จัดการตลาด SET, ไอเดียการเพิ่มกำไรให้ธุรกิจโดยการลดต้นทุนพลังงาน, และการใช้ซอฟต์แวร์แท้ให้ประหยัดต้นทุน
ในหัวข้อการลดต้นทุนพลังงาน ผู้บรรยายเป็นผู้ก่อตั้งและบริหารบริษัท Energy Design (EDCO) ที่จะเข้า mai เร็วๆ นี้ พูดถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ และวิธีใช้เพื่อช่วยประหยัดพลังงานในโรงงาน สำนักงานหรือศูนย์การค้า เช่นจัดการกับการเปิดปิดเร่งหรี่แอร์ การหมุนของบันไดเลื่อน เป็นต้น ต่อด้วยคำเชิญชวนให้ร่วมจองซื้อหุ้น EDCO พลิกฐานะบรรดาซีอีโอให้กลับกลายมาเป็นผู้ลงทุนอย่างแยบยล
ปิดท้ายด้วยไฮไลต์สำคัญที่สุดของงาน คือ การพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันทั้งห้องประชุมในหัวข้อ “How to attract & retain investors?” ที่วิเชฐ ตันติวานิช ผู้จัดการ mai และ นิมิต หมดราคี กรรมการผู้จัดการ 124 Communication มาเป็นผู้ถ่ายทอดประสบการณ์ความรู้ และระดมความคิดเกี่ยวกับวิธีที่ถูกต้องในการให้ข่าว ให้ข้อมูลแก่นักลงทุนและสื่อมวลชน
ข้อสรุปที่ทุกคนช่วยกันคิดคือ ข่าวทุกข่าวไม่ว่าดีร้าย ต้องถูกอย่างตรงไปตรงมา ถูกจังหวะเวลา และเท่าเทียมกันทุกกลุ่ม เพราะทุกข่าวสารข้อมูลที่ให้ออกไปย่อมกระทบกับราคาหุ้นได้ และในทางกลับกัน บริษัทที่เงียบ ไม่ให้ข่าวโครงการใหม่ๆ หรือแนวโน้มต่างๆ ย่อมจะหงอยเหงาขาดปริมาณการซื้อขาย นักลงทุนไม่รู้จัก ไม่สนใจ เป็นอุปสรรคเมื่อจะต้องขายหุ้นเพิ่มทุนหรือระดมทุนด้วยวิธีอื่นๆ ต่อไป
ปิดท้ายด้วยการเหมา MajorBowl Hit จัดบุฟเฟ่ต์อาหารกลางวัน และแข่งขันโบว์ลิ่งด้วยกติกาแบบ “ขำ ขำ” มีรางวัลให้กับแทบจะทุกคนไม่ว่าจะเล่นดีหรือเล่นแย่อย่างไร ให้ได้สนุกสนานและพบปะพูดคุยกันอย่างผ่อนคลาย
FANZI ในที่นี้รวมความหมายไว้ 5 ข้อ
F = Full Cooperation , A = Accountability , N = Networking ,
Z = Zero Defect , I = Innovatio