เล่นหุ้นแบบนวลพรรณ ล่ำซำ

นวลพรรณ ล่ำซำ ทายาทของตระกูล “ล่ำซำ” ผู้ที่ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารบริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด ธุรกิจเก่าแก่ของตระกูลล่ำซำ ที่ปัจจุบันมีมูลค่ามหาศาลและเป็นบริษัทประกันภัยยักษ์ใหญ่ของเมืองไทยอีกด้วย ที่สำคัญเธอยังเป็นผู้นำในการรีแบรนด์ เมืองไทยประกันภัย ให้เป็นที่รู้จักในสายตาประชาชนอีกด้วย

นอกจากธุรกิจหลักที่เธอต้องใช้เวลาทุ่มเทเพื่อดูแลกิจการแล้ว อีกด้านหนึ่งของชีวิต “นวลพรรณ” ยังให้เวลาส่วนหนึ่งกับธุรกิจส่วนตัวที่ก่อตั้งมาเมื่อ 10 ปีก่อน โดยนำเข้าเสื้อผ้า และเครื่องหนังแบรนด์ดังจากต่างประเทศ อาทิ แอร์เมส จากฝรั่งเศส, เอ็มโพลิโอ อาร์มานี จากฝรั่งเศส, ทอดส์ โรโด จากอิตาลี และครสดาล์อฟ มีร้านอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มโพเรียม และห้างสรรพสินค้า เกษร พลาซ่า ที่สำคัญเธอยังให้ความสำคัญกับการบริหารเงินในพอร์ตเพื่อต่อยอดสู่ความมั่งคั่ง โดยมี “หุ้น” ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นคำตอบ

“นวลพรรณ” บอกกับ “นิตยสาร POSITIONING” ว่า ตัดสินใจก้าวเข้าสู่แวดวงตลาดหุ้นเมื่อปี 2539 จากคำชักชวนของเพื่อน ซึ่งขณะนั้นยังทำงานให้กับบริษัทโฆษณาแห่งหนึ่ง

ปัจจุบัน นวลพรรณ คือผู้เล่นรายใหญ่ หรือ Big Player ในตลาดหุ้นที่น่าจับตามองมากอีกคนหนึ่ง เพราะทุกครั้งที่มีหุ้นใหม่ (IPO) เข้าตลาดหุ้น เธอมักจะเป็น 1 ใน 20 อันดับที่ได้รับการจัดสรร ซึ่งปัจจุบันเธอยังสะสมหุ้นจองเข้าพอร์ตอย่างต่อเนื่อง อาทิ หุ้นบริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส (TNX) เป็นอันดับ 2 จำนวนกว่า 20.33 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่ากว่า 42.71 ล้านบาท, หุ้นบริษัท เค-เทค คอนสตรัคชั่น (KTECH) จำนวน 3.5 แสนหุ้น มูลค่า 2.45 ล้านบาท และหุ้นบริษัทสยามอินเตอร์มัลติมีเดีย (SMM) จำนวน 3 แสนหุ้น มูลค่า 7.95 แสนบาท เท่ากับ สาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ผู้เป็นน้องชาย หรือแม้กระทั่งการขายหุ้นบริษัทบีเอ็นที เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (BNT) ครั้งละ 1 ล้านหุ้น ในเวลาใกล้เคียงกันรวมกันกว่า 3.12 ล้านหุ้น เป็นเงินประมาณ 3.33 ล้านบาท

Big Player ผู้นี้สะท้อนภาพลักษณ์ของหุ้น MAI ในปัจจุบัน บอกว่า ที่ผ่านมาเคยลงทุนในหุ้น MAI แต่ ณ วันนี้น่าจะขายไปหมดแล้ว ซึ่งปัญหาหลักของหุ้น MAI เกิดจากการขาดสภาพคล่อง หากแก้ภาครัฐสามารถแก้โจทย์ข้อได้นี้ ก็ทำนายอนาคตได้ว่านักลงทุนจะให้ความสนใจหุ้น MAI เทียบเท่ากับ SET

ปรัชญาของการลงทุน เธอบอกว่า การเข้าถึงแหล่งข้อมูลในเชิงลึก ติดตามข่าวสาร ค้นหาความรู้อย่างสม่ำเสมอ ดูบทวิเคราะห์หุ้นของแต่ละโบรกเกอร์ที่เผยแพร่ออกมาอย่างสม่ำเสมอ จะเป็นหนทางที่ทำให้นักลงทุนชนะตลาด

“นักลงทุนไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อหุ้นในช่วงที่ถูกที่สุด และไม่จำเป็นที่จะต้องขายในช่วงที่ราคาขึ้นไปแพงที่สุด เพราะขึ้นอยู่กับเทคนิคการลงทุนของแต่ละคน”

หลักการเฟ้นหาหุ้นเด่นเก็บเข้าพอร์ตเพื่อให้ชนะตลาดยามหุ้นผันผวน ประการแรกเธอบอกว่า การซื้อหุ้นในกระดาน SET และกระดาน MAI จะมีลักษณะที่เหมือนกันคือ 1. จะต้องลงทุนในหุ้นที่กำลังเป็นเทรนด์ของอุตสาหกรรมนั้นๆ 2. เลือกหุ้นที่มีปัยจัยพื้นฐานดี 3. มองกำไรที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 4. ต้องมีสภาพคล่อง 5. เป็นหุ้นที่นักลงทุนสถาบันและต่างชาติให้ความสนใจ 6. ผู้บริหารบริษัทต้องมีหลักธรรมาภิบาล

“หลักธรรมาภิบาลเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นไม่ว่าจะลงทุนในหุ้นที่อยู่ในกระดาน SET หรือ MAI นักลงทุนจะต้องเน้นเรื่องการบริหารงานที่มีความโปร่งใสมากที่สุด” Big Player ผู้นี้กล่าวในที่สุด