“สิ่งสำคัญของการลงทุนในตลาดหุ้นไม่ว่าจะลงใน SET หรือ mai นักลงทุนจะต้องมีเวลาติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด” ตุ้ย ธีรภัทร์ สัจจกุล บอกถึงหัวใจหลักการลงทุนที่จะชนะตลาดหุ้น กับ “นิตยสาร POSITIONING”
ทุกวันนี้นอกจาก “ตุ้ย-ธีรภัทร์” จะสวมบทบาทเป็นดารา นักแสดง พิธีกร และนักร้องชื่อดังแห่งค่ายแกรมมี่ของ “อากู๋- ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม” อีกด้านหนึ่งของชีวิต
เขายังเป็นผู้บริหารหนุ่มที่เข้ามามีบทบาทอย่างมากในวงการธุรกิจบันเทิง เพราะจากประสบการณ์ที่สั่งสมมาในสมัยเรียนคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา บวกกับฝีมือและมันสมองที่เปร่งประกายสะท้อนออกมาเป็นผลงานที่เฉิดฉายด้วยไอเดียที่เข้าตา
ทำให้ “ตุ้ย-ธีรภัทร์” ลูกชายของ “บิ๊กหอย ธวัชชัย สัจจกุล” นักการเมืองที่สวมเสื้อพรรคไทยรักไทย ได้รับความไว้วางใจจาก “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) (MCOT) ให้เข้ามาวางแผนยุทธศาสตร์ทางการตลาดและดูแลคลื่นวิทยุ SEED FM 97.5 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งเป็นคลื่นวิทยุในเครือของ อสมท ในตำแหน่ง Station Manager
ด้วยหน้าที่การงานของ “ตุ้ย” บวกกับหน้าที่ความรับผิดชอบ ทำให้เวลาทั้งหมดของเขาจึงทุ่มเทให้กับงานที่ตัวเองดูแลอยู่
ดังนั้นพอร์ตการลงทุนส่วนตัวของ “ตุ้ย” เพื่อต่อยอดสู่ความมั่งคั่ง เขาจึงไม่ให้น้ำหนักการลงทุนใน “หุ้น” แต่จะมุ่งไปยังการฝากเงินไว้กับธนาคารพาณิชย์
“ตอนนี้ผมยังไม่สนใจที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น เพราะหัวใจหลักของการลงทุน ผมมองว่า ใครที่จะเข้ามาลงทุนก็จะต้องมีเวลาเพียงพอที่จะติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด ซึ่งตัวผมเองยังไม่มีเวลาเพียงพอที่จะติดตามข้อมูลข่าวสาร แต่หากในอนาคตเมื่อผมมีเวลาเมื่อไร ก็พร้อมที่จะลงสู่สนามแวดวงตลาดหุ้นทันที”
Station Manager คลื่นวิทยุ SEED FM 97.5 เมกะเฮิรตซ์ ผู้นี้สะท้อนภาพตลาด mai ในสายตาของประชาชน ว่า ตลาด mai จะแตกต่างกับตลาด SET เพียงแค่ทุนจดทะเบียนเท่านั้น แต่ความน่าสนใจของตลาด mai ก็ยังมีอยู่ เพราะถ้ามองในแง่ของอัตราการขยายตัวของบริษัทก็พบว่ามีอัตราการเติบโตที่สูง เนื่องจาก mai เป็นแหล่งรวบรวมบริษัทขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ที่พร้อมจะต่อยอดเป็นบริษัทขนาดใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงของหุ้น mai ก็ยังมีอยู่
“ผมแนะนำว่าหากนักลงทุนคิดจะมาลงทุนในหุ้น mai ก่อนอื่นเราต้องมีแรงศรัทธาในตลาด mai และหุ้นที่อยู่ในนั้น ที่สำคัญนักลงทุนจะต้องสนุก และต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เพราะหุ้น mai เป็นหุ้นที่เป็นเทรนด์ใหม่ของตลาด”
สำหรับเคล็ดลับในการเอาชนะตลาดหุ้น เขาบอกว่า ไม่ว่านักลงทุนจะลงทุนในหุ้นที่อยู่ใน SET หรือ mai ที่ในปัจจุบันบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ใน mai ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2548 มีจำนวนทั้งสิ้น 26 บริษัท แบ่งเป็นธุรกิจภาคการผลิต 10 บริษัท และธุรกิจภาคบริการทั้งสิ้น 16 บริษัท ซึ่งนักลงทุนจะต้องรู้จักและเห็นภาพรวมของวงจรอุตสาหกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันนี้และวันพรุ่งนี้ เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจ
“ถ้าผมจะลงทุนในหุ้นสัก 1 ตัว ผมจะเข้าไปทำความรู้จักแบบตีสนิทกับบริษัท เพื่อให้เราได้รู้ว่าบริษัทนี้เขามีที่มาที่ไปอย่างไร การได้มาของเงินเขาเป็นอย่างไร รูปแบบการดำเนินธุรกิจ รวมถึงทางข้างหน้าที่เขาจะเดินไปว่ามีแนวโน้มดีหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นปัจจัยที่ทำให้เราและนักลงทุนชนะตลาดหุ้นได้ทุกสถานการณ์” ตุ้ย ธีรภัทร์ บอกถึงกลยุทธ์หลักที่จะชนะตลาดหุ้น
นอกจากการติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิดซึ่งเป็นหัวใจหลักของการลงทุนแล้ว
การไม่เข้าไปซื้อหุ้นเป็นคนสุดท้ายในขณะที่นักลงทุนคนอื่นกำลังทยอยเทของออก คือหนทางหนึ่งที่ดารา นักร้องผู้นี้ย้ำ
เขายกตัวอย่างการลงทุนโดยเทียบกับการสร้างภาพยนตร์ว่า “เมื่อเราทำหนังผีออกมาสัก 1 เรื่อง
ได้รับผลตอบรับจากประชาชนเป็นจำนวนมากและสามารถโกยกำไรไปกว่า 100 ล้านบาท พอไม่ทันไรก็มีหนังผีออกมา 8 เรื่อง ถามว่าหนังผีเรื่องที่ 8 จะได้กำไรเหมือนกับหนังผีเรื่องที่ 1 หรือไม่ คำตอบก็คือ ไม่ได้ เช่นเดียวกับการลงทุนในตลาดหุ้น นักลงทุนไม่ควรเป็นรายสุดท้ายที่เข้าไปลงทุนในหุ้นตัวนั้น ซึ่งอาจจะทำให้ขาดทุน”
