NASDAQ: ต้นแบบ เอ็ม เอ ไอ

ตลาดหุ้น NASDAQ (National Association of Securities Dealers Automated Quotation) ก่อตั้งในปี 1971 เป็นตลาดหุ้นที่ซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งแรกของโลก

ก่อนจะมีแนสแดคนั้น บริษัทที่เล็กเกินไปที่จะจดทะเบียนเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก (NYSE ; New York Stock Exchanges) จะถูกตกลงซื้อขายกันผ่านนายหน้าค้าหุ้นโดยตรง ที่เรียกว่า “over the counter” หรือ OTC. หมายถึงตกลงกันบนโต๊ะ คือเมื่อนักลงทุนคนหนึ่งต้องการซื้อหรือขายหุ้นบริษัทหนึ่ง บริษัทหลักทรัพย์ (broker) จะเรียกตัวแทน (dealer) มาร่วมกันตกลงหาราคาที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า
ในเดือนกุมภาพันธ์ 1971 สมาคมตัวแทนค้าหลักทรัพย์แห่งชาติสหรัฐฯ (National Association of Securities Dealers) เปิดตัวระบบจัดการและจับคู่คำสั่งซื้อขายด้วยคอมพิวเตอร์ในชื่อระบบว่า NASDAQ โดยมีหุ้น 100 บริษัทเข้ามาซื้อขายในช่วงแรกนี้ ลักษณะการจับคู่คำสั่งซื้อขายแบบนี้เป็นต้นแบบใช้กันทั่วโลกรวมถึงที่ประเทศไทยใช้อยู่ในปัจจุบัน ตลาด NASDAQ ในช่วงแรกนี้มีเป้าหมายรองรับธุรกิจขนาดเล็กโดยไม่ไปทางกลุ่มใดเป็นพิเศษ

ต่อมาในช่วงต้นทศวรรษ 80’s เกิดการบูมในธุรกิจคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC) จากที่ก่อนนี้มีแต่คอมพิวเตอร์เมนเฟรมเครื่องใหญ่สำหรับองค์กร เริ่มต้นโดย IBM PC ที่ใช้ระบบซอฟต์แวร์ของ Microsoft และใช้ chip ของ Intel ที่ต่างก็เป็นบริษัทเล็กเกิดใหม่กันทั้งคู่ และต่อมาก็มีเครื่องของ Apple โด่งดังตามออกมาซึ่งก็เป็นบริษัทเล็กๆ ที่ก่อตั้งกันในโรงรถ ผลักดันให้เกิดธุรกิจใหม่ๆ มากมายโดยเฉพาะธุรกิจเล็ก ส่วนใหญ่เริ่มต้นจากเครื่องต้นแบบ หรือซอฟต์แวร์ต้นแบบเท่านั้น และเริ่มกิจการในโรงรถหรืออพาร์ตเมนต์ แม้เมื่อบริษัทมียอดขายเติบโตขึ้นมากก็ยังอาศัยทรัพย์สินทางปัญญา ไม่ได้อาศัยที่ดิน โรงงาน เครื่องจักร ซึ่งเป็น hard asset แต่อย่างใด ธุรกิจลักษณะนี้เมื่อต้องการระดมทุนขยายกิจการก็ยากจะฝ่าด่านข้อบังคับของตลาด NYSE (New York Stock Exchange) ที่อิงกรอบธุรกิจแบบเดิมๆ เข้าไปได้

NASDAQ จึงกลายเป็นที่รวมของบริษัทเหล่านี้เข้ามาจดทะเบียนระดมทุนกันมากขึ้นเรื่อย จนถึงปัจจุบันแม้บริษัทอย่าง Microsoft, Intel, Apple ที่โตมากับ NASDAQ จะใหญ่โตมหาศาล ใหญ่กว่าบริษัทใน NYSE เพียงใด แต่บริษัทเหล่านี้ก็ไม่ย้ายไป NYSE เพราะตลาด NASDAQ ได้วาง positioning ลงในใจนักลงทุนไปแล้วว่าเป็นตลาดสำหรับธุรกิจเทคโนโลยี และบริษัทเทคโนโลยีรายใหม่ๆ ก็รู้ดีว่าหากเข้า NASDAQ แล้วกลุ่มนักลงทุนที่จะเข้ามาก็จะเข้าใจกิจการแบบนี้ได้ดีกว่านักลงทุนทั่วๆ ไป ราคาหุ้นเมื่อเทียบกับมูลค่าสินทรัพย์ (P/B ; Price Per Book Value) ก็จะสูงกว่าบริษัทใน NYSE นั่นคือได้ราคาหุ้นเข้าตลาดสูงกว่า ระดมทุนได้มากกว่า

ปัจจุบัน NASDAQ คือตลาดหุ้นที่ซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ปัจจุบันมีบริษัทจดทะเบียนอยู่ราว 3,300 ราย มีจำนวนบริษัทมากที่สุดและมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันมากที่สุดเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในสหรัฐฯ ประกอบไปด้วยบริษัทมากมายที่เป็นผู้นำในภาคธุรกิจต่างๆ ได้แก่ เทคโนโลยี, ค้าปลีก, สื่อสาร, บริการทางการเงิน, ขนส่ง, สื่อ, และเทคโนโลยีทางพันธุศาสตร์ (biotechnology)

ตัวอย่างตลาดสไตล์ NASDAQ ในประเทศอื่น

อังกฤษ : ตลาด AIM :

www.londonstockexchange.com/engb/products/companyservices/ourmarkets/aim…

เกาหลีใต้ : ตลาด KOSDAQ : http://english.kosdaq.or.kr

มาเลเซีย : ตลาด MASDAQ