เมื่อเทียบกับช่องอื่นๆ ที่ต่างปรับตัวจากการ “อ่านข่าว” ไปสู่การ “คุยข่าว” จนฟุ้งจอกันตั้งแต่เช้ายันค่ำ หลายคนมองว่า ที่ผ่านมาช่อง 7 ไม่มีการปรับตัวด้านรายการข่าวเท่าใดนัก อาจเป็นเพราะจากการครองเรตติ้งอันดับ 1 มายาวนาน จะมีบ้างก็เพียงยืมตัว “กนก รัตน์วงศ์สกุล” จากเนชั่นมาอ่านข่าวเช้าคู่กับ “พิสิทธิ์ กีรติการกุล” และคู่กับ “ศุภรัตน์ นาคบุญนำ” ในช่วงข่าวเที่ยง แต่สไตล์การนำเสนอก็ยังขาดสีสันอยู่มาก
แต่หากพิจารณาผังรายการของช่อง 7 ในตอนนี้ นอกเหนือจากช่วงข่าวที่เป็นของฝ่ายข่าวช่อง 7 เองแล้วนั้น จะเห็นว่ามี 2 รายการที่เป็นการนำเสนอข่าวและการวิเคราะห์เศรษฐกิจอย่างมีสีสันมากขึ้น ทั้งรูปแบบและการวางตัวผู้ดำเนินรายการ นั่นก็คือรายการ “เงินทองของง่าย” ออกอากาศทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ 7.30 – 8.00 น. ที่มีจอมขวัญ หลาวเพ็ชร, บุษกร พรวรรณะศิริเวช, เกรซ มหาดำรงค์กุล เป็นผู้ดำเนินรายการ และรายการล้าน 7 เศรษฐกิจ ออกอากาศทุก 23.55 น. วันอาทิตย์ โดยมีโจ นินนาท สินไชย และจอมขวัญ หลาวเพ็ชร เป็นพิธีกรดึงผู้ชมสู่ช่วงต่างๆ และออกภาคสนาม และมีชาลอต โทณวณิก ร่วมเป็นผู้ดำเนินรายการหนึ่งช่วง
ชาลอต โทณวณิก ประธานบริษัท BBTV Productions จำกัด ในฐานะผู้ผลิตรายการทั้ง 2 รายการดังกล่าวให้กับช่อง 7 กล่าวว่า การคิดรูปแบบรายการมาจากเหตุผลหลักว่าผู้ชมของช่อง 7 คือใคร รายการเงินทองของง่ายนั้นเดิมเป็นเวลาของรายการตีท้ายข่าว ที่ให้บริษัท แมทชิ่ง สตูดิโอ จำกัด (มหาชน) ดำเนินการ แต่เนื่องจากฟีดแบ็กไม่ค่อยดีนักจึงขอถอนรายการออกมาทำใหม่ ให้ทีมเนชั่นรับผิดชอบการผลิต ส่วนการเตรียมเนื้อหาและรูปแบบรายการ BBTV จะเป็นฝ่ายพิจารณา ซึ่งเทปแรกเริ่มออกอากาศเมื่อวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา
“ไม่ใช่ว่าทุกช่องเป็นรายการคุยข่าวแล้วเราจะต้องทำเหมือนกัน ตอนนี้เทรนด์การแข่งขันด้านข่าวกลายเป็นลัทธิเอาอย่าง เพราะขายโฆษณาได้นาทีละเป็นแสน พอรายการเริ่มเยอะขึ้นคนดูก็เริ่มมองหาความแตกต่าง แต่ช่วงเช้าเป็นช่วงที่คนจะติดตามข่าวสารอยู่แล้ว เราจึงเลือกนำเสนอข่าวแบบเจาะถึงเบื้องลึก มีการสัมภาษณ์และเชิญผู้เชี่ยวชาญมาช่วยวิเคราะห์ ไม่ใช่พิธีกรออกความเห็นกันเอง ทั้งมีช่วงสกู๊ปที่ทีมงานภาคสนาม ไปสัมภาษณ์เจ้าของธุรกิจ หรือพ่อค้าแม่ค้าในตลาดว่าได้รับผลกระทบอย่างไร รับรองว่าหมุนไปทุกช่อง ไม่มีรายการอย่างเรา” ชาลอตพยายามย้ำถึงความแตกต่าง
จะเห็นได้ว่าแม้แต่การเลือกคนมาเป็นพิธีกร ก็ยังคงความเป็น “นางเอก” และ “มีระดับ” ด้วยการเลือก บุษกร และเกรซ มาสลับกันเป็นพิธีกรร่วมกับจอมขวัญ ที่เป็นนักข่าวจากเนชั่น เหมือนเป็นตัวแทนของซีกนักวิเคราะห์ เป็นส่วนผสมที่ลงตัวของ “กึ๋น” กับ “celebrity”
“ที่เลือกสองคนนี้ ส่วนหนึ่งเพราะความเป็น celeb ของเขาที่จะดึงดูดคนดูได้ แต่พิธีกรก็เพียงทำหน้าที่ดึงคนดูเข้าสู่เนื้อหา สาระสำคัญจึงอยู่ที่ตัวเนื้อหาเอง ซึ่งเราตั้งใจให้เป็นรายการที่ให้ความรู้ พูดเรื่องเงินทอง การค้าขาย ดึงเศรษฐกิจให้เป็นเรื่องง่าย เป็นเรื่องใกล้ตัวของคนทำมาหากินทั่วไป ลักษณะก็ไม่ใช่การอ่านข่าว ไม่ใช่การคุยข่าว ไม่ได้เอาหนังสือพิมพ์มาอ่าน แต่เลือกฟุตเทจจากข่าวของช่อง 7 และเนชั่น มาใช้ประกอบ”
ซึ่งอิทธิพลหลักของรายการนี้ก็มาจากรายการล้าน 7 เศรษฐกิจ ที่ชาลอตลงมือทำงานด้วยตัวเอง ตั้งแต่วางประเด็น เชิญแขก จนถึงนั่งเป็นพิธีกรช่วงสัมภาษณ์ หลังจากออกอากาศตั้งแต่ 19 มิถุนายน 2548 เป็นต้นมาก็ได้เสียงตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้มั่นใจว่ากำลังมาถูกทาง เพียงแต่ปรับ mood & tone รองรับคนดูต่างกลุ่ม
“ล้าน 7 เศรษฐกิจ คนดูเป็นคนละกลุ่มเป้าหมายกับเงินทองของง่าย ที่มีทั้งชาวบ้านทั่วไป นักศึกษา คนทำงาน พ่อค้าแม่ค้า ไปจนถึงเจ้าของกิจการ แต่เราวางล้าน 7 ให้เป็นแนวเศรษฐกิจที่เน้นผู้ประกอบการมากขึ้น แต่ก็ไม่ถึงกับเน้นความเป็นมืออาชีพสูงอย่างของช่องยูบีซี เพราะคนดูช่อง 7 เป็นกลุ่มกว้างกว่า” ในสตูดิโอของมีเดีย ออฟ มีเดียส์ บนชั้น 6 บิ๊กซีลาดพร้าว จึงได้เห็นชาลอตกำลังสัมภาษณ์ บัณฑิต ชีวธนารักษ์ รองกรรมการผู้จัดการ บงล.ธนชาติ ในประเด็นเรื่องสินเชื่อรถยนต์ โดยชาลอตบอกว่า วางประเด็นให้เทปหน้าเป็นเรื่องสินเชื่อบ้าน เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่คนให้ความสนใจมากในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น และแน่นอนว่าเป็นเรื่องที่เธอถนัดอยู่แล้ว
จันตรา ลู่วีระพันธ์ โปรดิวเซอร์ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้รับผิดชอบการจัดทำรายการล้าน 7 เศรษฐกิจ เล่าว่า ครั้งแรกทีมงานเสนอให้ชาลอต รับบทบาทเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มาตอบคำถามในรายการเกี่ยวกับเคล็ดลับการบริหารการเงิน แต่เมื่อระดมความคิดกัน ชาลอตให้ความเห็นว่าควรเป็นลักษณะการพูดคุยกับแขกรับเชิญ ทุกอย่างจึงลงตัว ด้วยความที่ชาลอตมีคอนเนกชั่นมาก คุ้นเคยกับแขกรับเชิญเป็นอย่างดี ทั้งยังมีความเชี่ยวชาญเรื่องการเงินอยู่แล้ว ส่วนการพูดคุยก็ทำได้อย่างเป็นธรรมชาติเพราะมีประสบการณ์จากที่เคยถูกสัมภาษณ์มามาก
“ส่วนที่เลือกโจ มาเป็นพิธีกรคู่กับจอม เพราะความมีชื่อเสียงส่วนหนึ่ง และเขาเองก็มีพื้นฐานเรื่องธุรกิจอยู่แล้ว เพราะที่บ้านทำธุรกิจหลายอย่าง ขณะเดียวกันความเป็นดาราก็ช่วยให้รายการไม่ดูหนักจนเกินไป ด้านจอม เป็นนักข่าวอยู่แล้ว ก็วางให้เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องข่าว เรื่องข้อมูลความรู้ การออกไปทำรายการภาคสนามก็เข้าคู่กันได้ดี ส่วนช่วงเอสเอ็มอี เราก็ดึงนักข่าวโต๊ะเศรษฐกิจจากเนชั่นทีวีเข้ามาช่วย คือ สุผจญ กลิ่นสุวรรณ และช่วงวิเคราะห์หุ้นก็มี สุเชษฐ์ สุขแท้ ผู้อำนวยการฝ่ายลูกค้าบุคคล 1 บงล.ศรีอยุธยา จก. (มหาชน) สลับกับเรืองวิทย์ นันทาภิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บ.หลักทรัพย์จัดการกองทุนอยุธยาเจเอฟ จำกัด”
ในฐานะโปรดิวเซอร์ จันตราต้องตีโจทย์จากที่ BBTV ให้แนวคิดมาว่า ต้องการรายการเศรษฐกิจที่คนดูสามารถเข้าใจได้ง่าย และเป็นการให้ความรู้กับผู้ชม กลุ่มเป้าหมายก็มีทั้งนักธุรกิจ และคนทั่วไปที่คิดอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง จนกระทั่งออกมาเป็นเนื้อหาของรายการทั้ง 5 ช่วง ที่วนกลับไปตอบโจทย์ว่า ถ้าคนคนหนึ่งคิดอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เขาควรจะรู้เกี่ยวกับอะไรบ้าง
ตอนที่ BBTV จะเปลี่ยนรายการตีท้ายข่าวมาเป็นรายการเงินทองของง่าย จันตราก็ถูกดึงให้มารับหน้าที่โปรดิวเซอร์ด้วย ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าไม่ใช่เรื่องยากเลยกับการออกแบบรายการในช่วงที่ตรงกับรายการเมาท์ข่าวของช่องอื่นๆ เพราะเชื่อว่าจุดแข็งของฐานข้อมูลข่าวที่เนชั่นมี และด้วยความที่เนชั่นเองเป็นต้นกำเนิดของนิวส์ทอล์ก จึงรู้ว่าจะรับมือกับเทรนด์ “คุยข่าว” นี้อย่างไร
“รายการที่เราทำฉีกไปจากรายการคุยข่าวที่มีอยู่แล้ว ถึงเวลาจะไปตรงกับรายการอื่นก็ไม่มีผลกระทบอะไร รูปแบบการคุยสนทนาบางครั้งก็ช่วยสร้างสีสันให้รายการได้ดี คิดว่าล้าน 7 เองก็อาจจะปรับให้โจกับจอมคุยกันเรื่องข่าวในช่วงแรกก็เป็นได้ ที่ผ่านมาเราป้อนข้อมูลให้ BBTV เลือก ถือว่าเราสามารถตอบโจทย์เขาได้ถูกมาตลอด” จันตราปิดท้าย
พอได้รู้อย่างนี้แล้ว ที่ได้ยินใครบอกว่าช่อง 7 ไม่เกาะเทรนด์คุยข่าว คงไม่ใช่เสียแล้ว และถึงจะคุย ก็คุยกันแบบสวยๆ มีสาระ!
รายการ เงินทองของง่าย
– ออกอากาศวันจันทร์-ศุกร์ 7.30 – 8.00 น.
– เจาะกลุ่มคนทั่วไป นักศึกษา คนทำงาน พ่อค้าแม่ค้า เจ้าของกิจการ
– รูปแบบรายการ ข่าวและสาระด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจ และอาชีพ แบ่งเป็น 3 ช่วง
1. สรุปข่าวเศรษฐกิจรายวัน – พิธีกร 2 คน (จอมกับหน่อย บุษกร ในวันจันทร์ พุธ ศุกร์ สลับกับ เกรซ ในวันอังคาร และพฤหัส) คุยกันถึงข่าวที่มีผลกระทบต่อปากท้องประชาชนหรือธุรกิจ นำเสนอภาพข่าวและการสัมภาษณ์ความเห็น
2. ตลาดติดดาว – เป็นสกู๊ปข่าวนำเสนอย่านการค้าที่น่าสนใจ พาไปคุยกับผู้ประกอบการ
3. พบผู้รู้ – ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ สลับกันมาให้ความรู้ อาทิ วันจันทร์-อังคาร “ชี้ช่องรวย” โดย ดร.สุวรรณ วลัยเสถียร วันพุธ-พฤหัส “บริหารภาษี” โดย อมรศักดิ์ พงศ์พศุตม์ วันศุกร์ “สุดยอดการตลาด” โดย อ.ธีรพันธ์ โล่ห์ทองคำ
รายการ ล้าน 7 เศรษฐกิจ
– ออกอากาศวันอาทิตย์ เวลาประมาณเที่ยงคืนถึงตี 1
– เจาะกลุ่มผู้ชมที่เป็นนักธุรกิจ หรือผู้ที่กำลังจะเริ่มทำธุรกิจ
– รูปแบบรายการเป็นแนวเศรษฐกิจ แบ่งออกเป็น 5 ช่วง
1. ช่วงสรุปข่าวเศรษฐกิจรอบสัปดาห์ (เล่าเรื่องด้วยภาพจากฟุตเทจข่าว)
2. ช่วงวิเคราะห์หุ้นรอบสัปดาห์และแนวโน้มสัปดาห์ต่อไป (มีนักวิเคราะห์หุ้นมาให้ความเห็น)
3. ช่วง ล้าน 7 เคล็ดการเงิน (ชาลอต เป็นพิธีกรพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ )
4. ช่วงเอสเอ็มอี แนะนำการลงทุนขนาดย่อมที่น่าสนใจ (เต้ สุผจญ สัมภาษณ์เจ้าของกิจการ)
5. ช่วงเล่าประสบการณ์ของคนในวงการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ (โจและจอม ออกภาคสนาม)