เจ บุนนาค Newsline’s Anchor

หนึ่งในพรีเซ็นเตอร์ที่เป็นสัญลักษณ์ของรายการข่าว Newsline ที่ออกอากาศเป็นประจำทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 21.30-22.30 น. ทางช่อง 11 ด้วยบุคลิกยิ้มแย้มแจ่มใส พูดจาชัดถ้อยชัดคำ เป็นผู้ประกาศข่าวที่มีแฟนคลับมากพอๆ กับดาราทีเดียว เจเข้ามาร่วมงานกับช่อง 11 ตั้งแต่ปี 2541 ด้วยการเป็นพิธีกรรายการภาษาอังกฤษ Travel Show โดยในตอนนั้นยังเป็นเพียง Freelance จากนั้นเข้ามาเป็นพิธีกรภาคสนามช่วง Discover Thailand ของ Newsline

เหตุผลที่ถูกดึงตัวมาเป็นผู้ประกาศข่าว เจเล่าว่า ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะการที่เขามีน้ำเสียงดี ใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างชัดเจน และมีคุณสมบัติที่เขาคิดว่าผู้ประกาศข่าวควรมีคือ รู้เรื่องข่าวดีพอสมควร โดยเฉพาะข่าวภายในประเทศ เข้าใจในเนื้อหาของข่าว บุคลิกก็มีส่วนสำคัญ และนำเสนอข่าวอย่างเป็นกลางไม่ยัดเยียดความเห็นส่วนตัวให้กับผู้ชม ไม่ทำตัวเป็นนักวิจารณ์

“ในช่วงของการถกเรื่องข่าว จะมีช่วงเวลาเพียงนิดเดียวที่สามารถออกความคิดเห็นได้ แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องดูความจริงเป็นหลัก สำหรับ Newsline สิ่งสำคัญที่ทำให้รายการเป็นที่รู้จัก ไม่ใช่ที่ตัว presenter แต่อยู่ที่สิ่งที่เรามอบให้กับผู้ชมมากกว่า คนดูชอบที่จะฟังภาษาอังกฤษ รายการจึงกลายเป็น Educational Value ด้วย”

เจไม่เห็นด้วยนักกับการที่พรีเซ็นเตอร์ข่าวต้องทำ branding ตนเอง แต่เขาเลือกที่จะบอกว่าพรีเซ็นเตอร์จำเป็นต้องมีคาแร็กเตอร์ส่วนตัว เป็นคาแร็กเตอร์แบบที่คนดูชอบที่จะดู ทำให้คนดูอยากที่จะติดตามดูตลอด แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่จำเป็นนัก เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การที่ต้องดูดี ฉลาด มีความรู้ เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองกำลังพูด พรีเซ็นเตอร์ที่ดีจึงควรมีการเตรียมตัวมาอย่างดี เข้าใจในเนื้อหาของข่าว

ปัจจุบันนอกเหนือจากการเป็น Co-Director ของสถาบันสอนภาษาอังกฤษ Wall Street เจวางแผนอนาคตว่าอยากทำรายการท่องเที่ยวอีก เพราะเป็นคนชอบท่องเที่ยว นอกจากนั้นตอนนี้กำลังวางแผนผลิตรายการของตนเอง เป็นรายการเกี่ยวกับการสอนภาษาอังกฤษ เพราะคิดว่าตัวเองมีชื่อเสียงทางด้านนี้ และทำงานเกี่ยวข้องกับเรื่องการศึกษาอยู่แล้ว

“ถ้าได้ทำงานออกหน้าจอทีวีแล้ว เหมือนเป็นใบเบิกทางที่ดีอย่างหนึ่งในการเปิดโอกาสให้เราต่อไป ทำให้เราดูน่าเชื่อถือ งานที่ทำอยู่ตอนนี้นอกจากจะอ่านข่าวทางรายการ Newsline ซึ่งจะอ่านวันจันทร์ พุธ ศุกร์ ก็ยังรับงาน MC เป็นบางครั้ง เช่นที่เพิ่งเสร็จไปคืองาน Miss Universe ซึ่งรับงานจาก TAT และจากองค์กรธุรกิจอื่นๆ”

วันนี้เจในวัย 34 ปี มีงานอดิเรกคือการออกกำลังกาย เล่นกอล์ฟ ตีสควอช และเริ่มต้นทุกเช้าด้วยการอ่านข่าวจากอินเทอร์เน็ต แรงบันดาลใจในการทำงานของเขา ส่วนหนึ่งมาจากหนังสือของ Larry King ที่ว่า “you have to start from the bottom, if you wanna be on top” โดยก่อนจะกลายมาเป็นพิธีกรชื่อดังอย่างวันนี้ แลรี่คิงก็เริ่มต้นจากการเป็นผู้อ่านข่าวพยากรณ์อากาศมาก่อน

“ในขณะที่ผู้อ่านข่าวบางคนอาจรู้สึกว่าตนเองมีความสามารถสูงกว่าการทำหน้าที่การอ่านพยากรณ์อากาศ แต่ผมก็ไม่รังเกียจ และยินดีที่จะเริ่มต้นด้วยการทำพยากรณ์อากาศ ก่อนจะก้าวมาเป็นผู้ประกาศข่าวดังเช่นปัจจุบัน” เจกล่าวอย่างยิ้มแย้มตามแบบฉบับและยังคงกระฉับกระเฉงแม้เวลาจะล่วงเลยไปกว่า 4 ทุ่มแล้วก็ตาม