สังเวียนภาษากีฬา ไม่มีใครไม่รู้จัก “บิ๊กจ๊ะ” สาธิต กรีกุล พิธีกรคุยข่าวกีฬามีหนวด ซึ่งกลายเป็นโลโก้ประจำกายของเขา
“ไม่เคยมีใครไว้หนวดอ่านข่าว” สาธิต พยายามบอกเล่าถึงบทบาทการเป็นพิธีกรข่าวมานาถึงสิบสามปีที่มีคนจดจำเขาได้ผ่านจอทีวี แม้ก่อหน้านี้เขาจะเป็นที่รู้จักในแวดวงกีฬาฟุตบอล ในฐานะนักพากย์ฟุตบอลฝีปากเอกก็ตาม
บทบาทพิธีกรข่าวของสาธิตทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไป จากที่นั่งรายงานข่าวแบบเป็นทางการ อ่านตามสคริปต์ข่าว มาสู่การคุยข่าว สาธิตบอกว่า เริ่มปรับเปลี่ยนการนำเสนอข่าวแบบคุยข่าวมาประมาณปีกว่าแล้ว ตามนโยบายของช่อง 3 ที่ต้องการสร้างข่าวให้มีสาระแบบสนุกๆ เป็นกันเอง
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดอีก คือ การแต่งตัวของพิธีกรจะเน้นความสบายๆ มากขึ้น เป็นชุดลำลอง มีเสื้อแจ็กเก็ตคลุม ไม่จำเป็นต้องใส่สูทผูกไท เหมือนเมื่อก่อน
การนำเสนอประเด็นข่าวกีฬา สาธิต อธิบาย ข่าวกีฬาจะนำเสนอในแต่ช่วงรายการข่าว ประมาณ 12 นาที จุดสำคัญต้องเลือกประเด็นในแต่ละวันว่า ประเด็นใดน่าสนใจเรียงลำดับ 1-2-3-4 การนำเสนอในรายการจะมีการพูดคุยกับพิธีกรข่าวผู้ร่วมรายการว่า วันนี้เราอยากจะพูดประเด็นใดเป็นหลัก เพื่อทำให้รู้กันว่าจะคุยกันได้ ถามกันได้เรื่องใด
“ไม่ใช่การเตี๊ยม หรือไม่มีสคริปต์ แต่เป็นการพูดคุยกันเพื่อเพิ่มอรรถรสของการนำเสนอข่าวมากกว่า ซึ่งที่ทำรายการกันมาถือว่าข่าวเริ่มสนุกขึ้น น่าติดตามมากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการพูดคุยต้องอยู่ในขอบเขตด้วย ที่สำคัญต้องบริหารเวลาให้เป็น”
ข่าวกีฬาในความคิดของสาธิต เป็นเรื่องความบันเทิงที่สามารถถ่ายทอดให้เห็นจากประเด็นเล็ก สู่การพูดคุยที่น่าสนใจได้ เช่น เขาเคยพบมีรายการแข่งขันเทนนิสเยาวชนระดับนานาชาติรายหนึ่งจัดแข่งโดยไม่มีกรรมการตัดสิน โดยให้ผู้ปกครองนับคะแนนกันเอง เรื่องนี้ถือว่าแปลกมาก และมีเสน่ห์มากที่ควรจะนำมาเสนอทางจอทีวี
เตรียมตัวก่อน talk
สาธิตทำงานประจำที่ช่อง 3 ดังนั้นจึงมีทีมข่าวกีฬาที่ทำข้อมูลป้อนให้ส่วนหนึ่ง ก่อนเข้ารายการจะเตรียมข้อมูลศึกษาประเด็นข่าวก่อนประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อพิจารณาว่าประเด็นใดควรนำเสนอเป็นประเด็นใหญ่ที่สามารถพูดคุยกับพิธีกรข่าวที่จัดรายการร่วมกับเราได้