กว่า 15 ปีที่โลดแล่นในวงการสำนักพิมพ์ “ณ บ้านวรรณกรรม” ได้สร้างชื่อเป็นยอมรับจากบรรดาคอนักอ่าน นวนิยายไทยคลาสสิก ด้วยการผลิตงานออกสู่ตลาดนับ 100 เรื่อง มีนักเขียนชื่อดังระดับแนวหน้าของเมืองไทยหลายคน อาทิ พนมเทียน ทมยันตี โรสลาเรน ล้วนเป็นนักเขียนที่มีแฟนนักอ่านประจำอยู่เป็นจำนวนมาก
เพชรพระอุมา เป็น1 ในผลงานชิ้นเอกที่ ณ บ้านวรรณกรรมได้นำมาจับมาปรับภาพลักษณ์ใหม่ จุดเด่นของหนังสือ ได้ใส่ความทันสมัย พิถีพิถัน ในการออกแบบปกโดดเด่นสะดุดตา เนื้อหาภายในจัดเรียงอักษรให้อ่านง่าย มีบทย่อบอกผู้อ่านให้รู้คอนเซ็ปต์เรื่องย่อ แต่ยังคงเนื้อหาเดิมไว้ทั้งหมด
ไม่เพียงมีเรื่องที่โดนใจผู้อ่านมากมาย ณ บ้านวรรณกรรม ยังได้เปิดร้านจำหน่ายขนาดเล็กชื่อว่า “ณ บ้านมินิบุ๊คส์” ขนาดพื้นที่ร้านประมาณ 1คูหา เน้นจำหน่ายวรรณกรรม นวนิยายทั้งหมดของสำนักพิมพ์ ปัจจุบันมี 12 สาขากระจายอยู่ตามศูนย์การค้าใหญ่ทั่วกรุงเทพฯ
กลยุทธ์เรียกลูกค้าของร้านฯ เป็นส่วนลดพิเศษ 30% สำหรับสมาชิกบางสาขา แกลเลอรี่บุ๊ค แอนด์ คอฟฟี่ นอกจากมีแกลเลอรี่หนังสือแล้ว ร้านยังมีบริการอาหารและกาแฟในบรรยากาศสไตล์เยอรมัน
กลยุทธ์อีกอย่างที่ค่ายนี้ใช้มาตลอด คือ บริการถึงที่ด้วยรูปแบบ To Hand To Home โดยไม่ว่าผู้ซื้อจะอยู่มุมไหนของกรุงเทพฯ ก็สามารถสั่งซื้อและจัดส่งพรีถึงที่ (สถานที่จัดส่งอยู่ในพื้นที่ให้บริการ)
แม้จะประสบความสำเร็จในกลุ่มหนังสือนิยายไทยคลาสสิก แต่เมื่อกระแสหนังสือพ็อกเกตบุ๊กของนักอ่านรุ่นใหม่วัยใสกลายเป็น trend มาแรง ณ บ้านวรรณกรรมก็ตัดสินใจโดดเข้าจับตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่วัยใส ที่มีความเย้ายวนทั้งมาร์เก็ตไซต์ในตลาดและจำนวนคนอ่านที่นับวันขยายฐานมากขึ้น โดยเปิดสำนักพิมพ์น้องใหม่ขึ้นเมื่อปลายปี 2547 ที่ผ่านมา ชื่อ “ยาหยี-ยาใจ” เน้นผลิตนิยาย เรื่องสั้น กวี ตลก นิทาน จากนักเขียนหน้าใหม่จนปัจจุบันมีนักเขียนรวม 15 คน
รูปแบบพ็อกเกตบุ๊กของ ยาหยี-ยาใจ ถูกตั้งข้อสังเกตว่าใช้กลยุทธ์ Me Too (บังเอิญหรือตั้งใจ) คล้ายคลึงกับผู้นำตลาดหนังสือกลุ่มเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นสไตล์เรื่อง การออกแบบปก การตั้งชื่อ รวมทั้งการใช้โลโก้ จนหาจุดแตกต่างและเอกลักษณ์ใหม่ของยาหยี-ยาใจไม่พบ
เช่นเดียวกับการจัดทำเว็บไซต์ www.yayee-yajai.com ซึ่งถือว่าช่องทางใหม่ ที่กลุ่มเป้าหมายหลักได้รวมตัวกันเป็นชมรม แฟนคลับ (community) ที่มีสีสัน ข้อมูลแนะนำหนังสือทั้งเก่า ใหม่ ประวัตินักเขียน และเว็บบอร์ดแสดงความเห็นและพบปะนักเขียน ดังเช่นหลายสำนักพิมพ์ที่ผลิตหนังสือกลุ่มเดียวกันให้ความสำคัญมากในขณะนี้
โครงการล่าสุด “เติมความสดใสให้ห้องสมุด” ด้วยการมอบหนังสือให้กับห้องสมุดต่างๆ ทั่วประเทศโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งกลยุทธ์นอกจากเป็นทำให้แบรนด์ยาหยี-ยาใจเป็นที่รู้จักกับกลุ่มเป้าหมายโดยตรงอย่างแนบเนียนแล้ว ยังเป็นการขยายฐานคนอ่านไปยังกลุ่มเป้าหมายตามโรงเรียน มหาวิทยาลัย และคนทั่วไปที่หลายสำนักพิมพ์ต่างจับจ้องหาวิธีการเข้าถึงอยู่ไม่น้อย
นับเป็นสำนักพิมพ์เก่าแก่อีกราย ที่พยายามปรับตัวให้เข้ากับ trend ใหม่ๆ ของผู้อ่าน แม้ว่าจะเป็นการเดินตามผู้นำตลาดอย่างตรงไปตรงมาก็ตาม
16 หัวหนังสือใหม่
ณ บ้านวรรณกรรม ออกหนังสือใหม่ 16 หัว เพื่อวางขายในงานสัปดาห์หนังสือ คือ หัวใจสั่งให้รัก ของ ศิริวรา, ความทรงจำแห่งรัก ของชิโนทัย, สาวน้อยพลังจิต ของ ชนาธิป, ร้ายนัก(ไม่)รักเสียดีไหม ของมิถุนา, พระจันทร์เต็มใจ ของวาโย, หนึ่งเดียวในดวงใจ ของฬีฬา, ลุ้นแทบตายเจ้านายขี้เก๊ก ของ Sadmoon, เพียงสบตาเธอก็เผลอรัก ของนายตั๋ม, เพราะหัวใจบอกว่าใช่เธอ ของวชิราภา, ชะตารัก ชะตาร้าย ของลันเตา, บอดี้การ์ดมาดต๊อง ของนายตั๋ม, ร้อยวันพันรัก ของวิรตี, เจ้าหญิงในดวงใจ ของฬีฬา, รักสะกิดใจคุณชายสุดเฮ้ว 1และ2 ของจานลัลล้า และ ว๊าย! หนูตายแล้วเหรอ ของสิริกาญจน์